การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า - ตอนที่ 138 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - บทศูนย์ พบกันอีกครั้ง
- Home
- All Mangas
- การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า
- ตอนที่ 138 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร - บทศูนย์ พบกันอีกครั้ง
“ท่านฟราน! วันนี้ช่วยสอนเวทมนตร์ให้ด้วยนะค้า!”
“ไม่สิ สอนให้ข้าทีนะ”
“ให้ฉันเถอะ!”
“ไม่ เดี๋ยวสิ คือ… วันนี้ไม่ได้น่ะ!”
“ท่านฟลูเรเทีย! เวทคุ้มครองก่อนหน้านี้สุดยอดเลยนะครับ!”
“ฮา…… ท่านเลตตี้…!”
“ฮ่าฮ่า เลตตี้ตัน อยากเลียจังเลย…”
“อ- เออ คือ ข- ขอบคุณทุกท่านมากนะคะ…”
เป็นแบบนี้มาซักพักเลยสินะ
ฉันเองก็ด้วย
“ท่านฟิลิสครับ! ท่านจอมมาร! ช่วยเซ็นให้ด้วยนะครับ!”
“จากหนังสือพิมพ์อาคุมะค่ะ! ช่วยพูดอะไรหน่อยได้หรือเปล่าคะ!”
“เล่นทวิสเตอร์ไปคนเดียวซะ!”
เป็นอย่างนี้มาตลอดเลย
ก็นะ สำหรับตอนนี้ เจ้าโง่ (ยัยปีศาจโรคจิตนั่นแหละ) ที่พยายามจะเลียฟลูเรเทียกับเจ้าบ้าที่อยากเล่นทวิสเตอร์กับฉันเนี่ย น่าขยะแขยงจริงๆ
ตั้งแต่ตอนนั้น ปีศาจและมนุษย์มารก็เข้าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา (ชั่วคราว) ของฉันแล้วตอนนี้ และได้เป็นพันธมิตรของฉันแล้วด้วยเหมือนกัน
หลังจากนั้น พวกเราก็ขับไล่พวกมนุษย์ที่รุกรานเข้ามาในเขตโลกมารอยู่หลายครั้ง กวาดล้างฝูงสัตว์อสูร แล้วก็จัดการพวกศัตรูตัวปัญหาที่ควรถูกผนึกให้เรียบร้อย เพราะเหตุผลบางอย่าง พวกเราก็มีชื่อเสียงโด่งดังสุดๆ พอฉันเข้ามาทำงานร่วมกับวีเนลที่รับผิดชอบจัดการงานในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่
วันนึง ประมาณ 3 เดือนต่อมา ปีศาจและมนุษย์มารก็รับเอาชื่อสถานะ (ชั่วคราว) และเข้าร่วมกับฉันอย่างเป็นทางการ
ฉันในฐานะจอมมาร, เหล่าบรรดาปีศาจและมนุษย์มารใต้บังคับบัญชา, ฟราน แล้วก็ฟลูเรเทีย นั่นแหละคือวันที่ [กองทัพจอมมาร] ถูกก่อตั้งขึ้น
“เหนื่อยจังเลย…”
“เหนื่อยหน่อยนะ ฟราน กาแฟหน่อยมั้ย?”
“เอาจ้า ขอกาแฟดำแล้วกันนะ”
กาแฟดำเหรอ นี่เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เองนะเนี่ยว่ายัยนี่ ก็มีแค่ลิ้นนี่แหละที่ชอบอะไรเหมือนคนแก่อย่างน่าประหลาดเลย
ฟรานที่ทำลายล้างกองทัพเผ่ามนุษย์ที่บุกเข้ามาไปได้กว่า 70% ด้วยตัวคนเดียวกลับมาด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
“นี่ค่ะ ยังร้อนอยู่ เพราะงั้นก็ระวังด้วยนะคะ”
“โอ้ รักเธอที่สุดเลย เลตตี้… อ่า อร่อยจัง ว่าแต่ คุยเรื่องอะไรกันอยู่น่ะ?”
“อา ก็ตอนนี้ พวกเรามี [กองทัพ] กันแล้ว แต่ว่า เรื่องกำลังคนเนี่ย ขาดแคลนสุดๆ ไปเลย ต่อให้รวมเผ่าปีศาจกับเผ่ามนุษย์มารเข้าด้วยกันแล้ว ตอนนี้ เต็มที่ก็มีแค่ประมาณ 1000 คนเท่านั้นเอง แถมนี่ยังไม่ได้หักพวกเด็กกับพวกที่ไม่ใช่หน่วยต่อสู้ออกไปเลยนะ เพราะงั้น ตอนนี้ก็เลยคิดอยู่น่ะว่าจะเพิ่มกำลังคนด้วยวิธีไหนดี…”
“สภาพที่เป็นอยู่แบบตอนนี้มันไม่ดีเหรอ? แค่มีชั้นอยู่ก็เกินพอแล้วนี่นา”
“…ฉันยอมรับนะว่าเธอเก่ง แต่เรื่องความมั่นใจในตัวเองแบบสุดโต่งนั่นน่ะ เป็นจุดด้อยสุดของเธอเลยล่ะนะ”
ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เพราะฟรานน่ะสุดยอดจริงๆ
การย่อเวท, ความสามารถใช้เวทมนตร์, การพลิกแพลงเพื่อตอบโต้กับศัตรูที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะหมายถึงเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องของ [เวทมนตร์] ล่ะก็ ฟรานน่ะจัดเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ ของโลกอย่างแน่นอนเลย
จุดอ่อนก็คือ ดันเป็นคนซื่อบื้อที่คิดเรื่องอื่นๆ ไม่ได้เลยเนี่ยสิ
ฟลูเรเทียเองก็ใช้ทั้งเวทคุ้มครองและพลังในการต่อสู้ของเผ่ามนุษย์มังกรเข้าช่วยเหมือนกัน แต่ต่อให้เป็นขุมกำลังหลักทั้ง 3 คน รวมฉันด้วยแล้วก็ตาม มันก็ยังเป็นงานหินอยู่ดี
“อืม… บางที ถ้าสร้างทหารขึ้นมาใช้เลยก็คงดีนะ ฟราน ทำอะไรซักอย่างทีสิ”
“ไม่อะ อยู่ๆ ก็พูดอะไรไร้เหตุผลแบบนั้นขึ้นมาเลยเหรอ ต่อให้ชั้นจะมีพลังมากขนาดไหน ชั้นก็สร้างชีวิตขึ้นมาไม่ได้หรอกนะ”
“ว่าแล้วเชียว… อา ถ้าฉันไปติดต่อกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ จะดีมั้ยนะ?”
“อีกซักพักจะดีกว่านะคะ… พูดตามตรง ดิฉันไม่แนะนำให้ไปหาเอง เพราะพวกเราวางแผนไว้ว่าในไม่ช้า คุณฟิลิสจะเป็นผู้นำของทุกเผ่าพันธุ์นอกเหนือจากเผ่ามนุษย์ด้วย การออกไปแนะนำตัวเองทีละเผ่าๆ คงไม่สมเกียรติเท่าไหร่นะคะ”
ก็จริงนะ ที่ฟลูเรเทียว่ามาก็มีประเด็นเลย
“อา ตอนนี้ ทำไมไม่มีเผ่าพันธุ์ที่จำนวนเยอะๆ ซักเผ่ามาเข้าร่วมกับเราบ้างนะ?”
“อะฮะฮะฮ่า! จะบ้าหรือไงน่ะ!”
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมาอะไรมาถึงได้พูดแบบนั้น แต่ตอนที่ฉันกำลังจะยัวะใส่ฟรานที่หัวเราะซะดัง
“ขอรบกวนด้วยหน่อยนะคะ ท่านจอมมารอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะ?”
“วีเนล? มีอะไรล่ะ?”
หัวหน้าฝ่ายบุคคลอย่างวีเนลเข้ามาในสภาพที่หอบเล็กน้อย
“ในตอนนี้ มีผู้บุกรุกเข้ามาในโลกมารค่ะ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีเจตนาเป็นศัตรู ฉันเลยมาแจ้งให้ทราบ”
“ผู้บุกรุก? ใครล่ะ?”
“ไม่ว่าจะดูยังไง ก็ดูเหมือนมนุษย์นะคะ เพียงแต่ว่าเธอมีพลังเวทแปลกๆ ห่อหุ้มอยู่ทั่วร่าง สวมเครื่องแบบนักบวชที่ขาดวิ่น อยู่ในช่วงวัยรุ่น หรืออาจจะโตกว่านั้นนิดหน่อย ตอนที่ฉันเข้าไปคุยด้วย เธอก็สุภาพและน่ารักมากเลยค่ะ …แต่ว่า ฉันไม่สามารถเมินเรื่องพลังเวทลึกลับแบบที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนปริมาณมหาศาลในตัวได้ ตอนนี้ ฉันเลยพาเธอมารอที่ห้องรับแขกก่อน”
เด็กสาวที่ดูเหมือนมนุษย์ และก็มีพลังเวทแปลกๆ ในตัวเหรอ
อะไรล่ะนั่น ตามไม่ทันเลย
“เธอคนนั้นได้บอกอะไรหรือเปล่า?”
“เห็นบอกว่า… ‘ฉันได้ยินว่าคุณฟิลิสอยู่ที่นี่’ อาจจะเป็นคนรู้จักหรือเปล่า?”
“หา?… จะเป็นใครได้นะ?”
“ทำไมไม่ไปหาเธอดูเลยล่ะคะ? เพราะแบบนั้น ฉันเลยมาขออนุญาตนำทางท่านจอมมารไปนี่แหละค่ะ”
“…เข้าใจแล้ว นำทางไปเลย วีเนล”
ในตอนนี้ ฉันไม่น่าจะมีคนรู้จักเผ่ามนุษย์แล้วนะ
ตอนที่ยังอยู่ที่เมืองแห่งการผสมผสาน ก็พอมีมนุษย์ที่รู้จักอยู่บ้าง แต่ทุกคนก็… ถูกฆ่าไปหมดแล้ว
เหล่ามนุษย์ที่ศรัทธาในท่านอิซึสึแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่ามนุษย์ก็ตาม ซึ่งต่างจากพวกเราเผ่ามารและเผ่ากึ่งมนุษย์น่ะ
“ว่าแต่เรื่องพลังเวทแปลกๆ เนี่ย มันรู้สึกยังไงเหรอ?”
“คุณลักษณะของพลังเวทจะต่างกันออกไปตามแต่เผ่าพันธุ์ค่ะ พลังเวทแปลกๆ ก็หมายความว่า… นั่นคงเป็นเผ่าพันธุ์ที่หายากมากๆ และใกล้สูญพันธ์? ไม่ก็ เผ่าพันธุ์ใหม่อื่นๆ? …ไม่ว่าจะทางไหน ท่านก็ต้องระวังตัวด้วยนะคะ”
“แบบนี้เอง จะระวังตัวเผื่อไว้ก่อนแล้วกัน”
ถ้ามองว่า อาจจะเป็นมนุษย์ที่พยายามหลอกพวกเราด้วยเวทมนตร์ซักวิธีนึง แล้วก็เล็งหัวของฉันเอาไว้ ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
“มาถึงแล้วค่ะ เชิญค่ะ”
ระหว่างที่คิดถึงความเป็นได้มากมาย วีเนลก็พาพวกเรามาถึงห้องที่ผู้บุกรุกที่ว่านั้นรออยู่
เอาล่ะ ขอดูหน้าหน่อยสิว่าใครมา……
…เอ๊ะ?
“ว้าว เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักเลยนี่นา ว่าไงบ้างล่ะ ฟิลิส พอจะคุ้นๆ หน้ามั้ย? …ฟิลิส?”
บ้าน่า
ทำไม ถึงเป็นเธอคนนี้ล่ะ?
“คุณฟิลิสคะ? เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เธอ น่าจะตายไปแล้วนี่
ฉันมั่นใจ ฉันเห็นมากับตาเลย
วันนั้น เธอนอนอยู่บนพื้นข้างเพื่อนของเธอเลย ฉันเห็นอยู่
แต่ว่า… ผมทรงทวินเทลสีเกาลัด หน้าตาเป็นมิตร และสร้อยปลอกคอที่เธอสวมไว้ที่คอตลอด แถมชอบอวดอยู่เสมอเลยว่า ‘ฉันได้มากจากเพื่อนน่ะ’
ลักษณะพลังเวทเป็นแบบที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ เป็นพลังเวทแปลกๆ
แต่ สัมผัสที่ 6 บอกฉันว่า เธอคือ [คนคนนั้น] แน่ๆ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ คุณฟิลิส ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอกันอีก…!”
ไม่ผิดแน่
เธอคนนี้…
เมื่อตอนที่ฉันยังอยู่ที่เมืองมิกซ์ เธอเป็นเพื่อนของฉันกับริงกะ
ถึงจะเป็นเผ่ามนุษย์ แต่เธอก็ศรัทธาในท่านอิซึสึ เพราะแบบนั้น ในท้ายที่สุด เธอก็น่าจะถูกพวกมนุษย์ฆ่าไปในฐานะคนนอกรีตแล้ว
เด็กสาวอายุ 15 ปีที่ถูกช่วยชีวิตไว้จากเผ่ามารและเผ่ากึ่งมนุษย์ ก็ตั้งคำถามกับหลักคำสอนของศาสนามิซารี่ จนเกือบจะถูกพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเองฆ่า เธอจึงทิ้งชีวิตแบบเผ่ามนุษย์ไป ก่อนจะย้ายมาอาศัยที่เมืองมิกซ์
เธอสนิทกับมนุษย์สัตว์ที่ชื่อเนลมาก และเห็นพวกเธออยู่ด้วยกันแทบจะตลอด
เธอมีความรู้สายอาชีพนักบุญในระดับสูง และแอบวางแผนไว้ว่าเธออยากจะเป็นนักบุญแบบไหนในอนาคตด้วย
พรสวรรค์ของเธอ อยู่ในขอบเขตของ ‘อัจฉริยะ’ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เด็กผู้หญิงที่ แม้จะเป็นเผ่ามนุษย์ แต่ก็ไม่อยู่อย่างมนุษย์ เธอต่อต้านเผ่าพันธุ์ของตัวเอง และสุดท้ายก็ตายคู่กับเพื่อนของเธอ
“……ดีเช?”
TN: มีใครลืมน้องไปหรือยังครับ ใครลืม ย้อนไปอ่านตอนที่ 127 กับตอนที่ 130 ได้เลย
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r