cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 73

  1. Home
  2. All Mangas
  3. การกลับมาของฮีโร่
  4. ตอนที่ 73
Prev
Next

ตอนที่ 73

ซูฮยอนและซงฮย็องกิตกอยู่ในทะเลสาบแห่งความสับสน มีเพียงมิรุเท่านั้นที่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น…

คิ้ว?

มิรุร้องคำรามออกมาเบาๆและเอียงศีรษะเหมือนกำลังจะสื่อว่า “เกิดอะไรขึ้นฮะ ผมไม่เห็นเข้าใจ”

แม้เวลาจะผ่านมาหลายนาทีแต่มังกรฟ้าก็ยังก้มหัวทำความเคารพต่อไปไม่ยอมเลิก…

“คุณถามผมสินะว่าได้เจ้าตัวน้อยมาจากที่ไหน ผมได้มันมาจากการผ่านบททดสอบบนชั้นที่ 10 หลังจากผมเคลียร์ชั้นที่ 10 ได้อย่างสมบูรณ์ ผมก็ได้ไข่ใบนี้เป็นรางวัล”

“แสดงว่ามิรุ ฟักออกมาจากไข่ใบนั้นจริงๆสินะ”

“ถูกต้อง”

“ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงจะฟักออกมาจากรางวัลในชั้นที่ 10”

“ไม่แน่บางที..อาจเป็นเพราะผมเลือกระดับความยาก ระดับ 10 แถมผมยังสามารถเคลียร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีก…ของรางวัลที่ระบบประเมินให้..ก็เลยสูงตามไปด้วย”

“งั้นเหรอ..ฉันพอเข้าใจแล้ว ยังไงก็ตาม หากยงน้อยของฉันก้มหัวเคารพมิรุของนาย แสดงว่ามิรุอาจจัดอยู่ในเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งกว่ายงน้อยของฉัน”

แม้บนชั้นที่ 10 จะมีอุปสรรคมากมาย แต่ซงฮย็องกิก็สามารถเคลียร์ชั้นที่ 10 ได้อย่างง่ายดายหลังจากเป็นผู้ตื่นขึ้นได้ไม่นาน ใครจะไปขาดคิดว่าบนชั้นที่ 10 จะมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ซ่อนตัวอยู่..

เพราะในระหว่างที่ซงฮย็องกิผจญภัยอยู่ในชั้นที่ 10 เขาไม่เคยเห็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่ตัวเดียว ขนาดเส้นขนเขาก็ยังไม่เห็น..

ในขณะที่มังกรฟ้ากำลังก้มความเคารพอย่างไม่ย่อท้อ มิรุก็เชิดหน้าขึ้นมาด้วยความหยิ่งทะนงเหมือนกำลังฉลองชัยชนะ

แต่หารู้ไม่ว่าภาพที่ออกมามันน่าหัวเราะจริงๆ มังกรที่พึ่งเกิดยังไม่ถึง 1 วัน กลับทำตัวเหมือนเป็นราชาของหมู่มังกรซะงั้น..

ซูฮยอนเลิกสนใจมิรุ แล้วหันไปมองมังกรฟ้า “จะว่าไป หนุ่มน้อยของคุณ อายุกี่ปีแล้ว?”

“ไม่ใช่หนุ่มน้อย แต่เป็น ยง ต่างหาก”

“งั้น…ยงน้อยของคุณ มีอายุกี่ปี?”

“หากนับปีนี้ไปด้วย เขาก็มีอายุครบ 5 ขวบพอดี มังกรแรกเกิดส่วนใหญ่อาหารหลักๆที่พวกชอบกินมักเป็นน้ำค้างยามรุ่งอรุณ แต่อย่าได้ดูถูกน้ำค้างเชียวนะ ต่อให้พวกเขากินแต่น้ำค้างเพื่อประทังชีวิต ร่างกายของพวกเขาก็สามารถเติบโตได้ตามปกติ ใช้เวลาแค่ 3 ปีร่างกายของพวกเขาก็ย่างก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ รู้อะไรไหมฉันละอิจฉาอายุขัยของมังกรมากที่สุด เพราะอายุของพวกเขายืนยาวถึง 1000 ปี”

หนึ่งพันปี!!!!

ช่างเป็นอายุขัยที่ยาวนานกว่าซูฮยอนคิดไว้มาก แค่ซูฮยอนได้ยินว่า มังกรใช้เวลาเติบโตแต่ 3 ปี เขาก็ตกใจมากพอแล้ว….

ซงฮย็องกิลูบหัวมังกรฟ้าด้วยความรัก ก่อนพูดต่อ “นายว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกร้ายหรือป่าว ที่อายุของมังกรยืนยาวขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพวกเรา 2 คนจะมีอายุถึง 100 ปีไหม หากฉันสิ้นลมหายใจไปก่อน เด็กคนนี้ก็ต้องอยู่ตัวเดียวไปอีก 900 ปีโดยไมมีฉัน….ถ้าเป็นไปได้หากฉันตายไปแล้วจริงๆ ฉันก็อยากให้เด็กน้อยคนนี้ลืมฉันซะ แล้วไปใช้ชีวิตตามความต้องการของตัวมันเอง..”

“ดูเหมือนคุณจะรักสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ตามข่าวลือจริงๆ”

“แน่นอน เพราะพวกมันซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนายมากกว่ามนุษย์ซะอีก ความเชื่อใจ ความจงรักภักดี และความรัก สิ่งที่กล่าวมามนุษย์ทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจปรารถนา แต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์มันต่างออกไป พวกมันไม่เคยคิดทรยศ ต่อผู้เป็นนายเลยสักครั้ง นายไม่คิดเหมือนกันเหรอ?”ซงฮย็องกิพูดไปพร้อมกับลูบหัวมังกรฟ้า

ความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดต่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถูกถ่ายทอดออกมาจากตัวของซงฮย็องกิ

ซูฮยอนเคยได้ยินมาว่าซงฮย็องกิเป็นโอตาคุสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จนเรียกได้ว่าคลั่งไคล้ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าซงฮย็องกิจะอุทิศความรักให้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มากขนาดนี้..

โฮก โฮก

มังกรฟ้าเพลิดเพลินไปกับสัมผัสมือที่แสนนุ่มนวลของซงฮย็องกิ มันคำรามออกมาเบาอย่างมีความสุข

“ผมก็ไม่อยากขัดจังหวะหรอกนะ แต่คุณลืมไปแล้วหรือป่าวว่า ทำไมถึงเรียก ยง ออกมา”ซูฮยอนพูด

“อ่า…จริงสิ ฉันไม่ไปซะสนิทเลย”ซงฮย็องกิลืมนึกไปว่าสาเหตุที่เรียกยงน้อยออกมา เพราะต้องการความช่วยเหลือจากมัน แต่ด้วยอารมณ์นำพาไป ทำให้เขาเสียเวลาไปกับการคุยนอกเรื่อง

“ยงน้อย นายลองถามมิรุสัก 2-3 ข้อให้หน่อยสิ คำถามแรก…”

ซงฮย็องกิบอกเล่าคำถามหลายข้อให้กับยงน้อยฟัง มังกรฟ้าพยักหน้ารับทราบ ก่อนหันไปพูดกับมิรุด้วยภาษาของมังกร

โฮก โฮก

คิ้ว คิ้ว

ยง และ มิรุ เริ่มต้นพูดคุยกัน ต่อตัวต่อตัว…

แน่นอนว่าภาษาของมังกรเป็นสิ่งที่ซูฮฺยอนไม่เข้าใจ สำหรับเขาเสียงพูดคุยที่ทั้ง 2 ตัวเปล่งออกมา มันเหมือนกับเสียงคำรามมากกว่า…

“คุณรู้หรือป่าวว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน” ซูฮยอนถาม

“ไม่อะ..ฉันไม่รู้เรื่องเลย”

“อ้าว? ไหงงั้น ขนาดคุณได้ยินเสียงที่ออกมาจากปากมิรุแล้วแท้ๆ คุณกลับบอกว่าไม่เข้าใจ”

“ฉันรู้นะว่าวัยรุ่นใจร้อน แต่ได้โปรดใจเย็นๆหน่อยได้ไหม รออย่างอดทนไปก่อน เดี่ยวได้ความเมื่อไหร่ ฉันจะบอกให้นายฟังเอง โอเคไหม?”

เมื่อซูฮยอนเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีมั่นใจ เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากอดทนรอให้มังกรใหญ่และมังกรน้อยพูดคุยกัน..

หลังจากทั้ง 2 ตัวพูดคุยกันจบ ซงฮย็องกิก็วางมือไปที่ศีรษะของยงน้อย ก่อนบ่นพึมพำอะไรบ้าง…จากกิริยาที่ซงฮย็องกิแสดงออกมา ดูเหมือนการพูดคุยกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างซูฮยอนและมิรุ เริ่มมีโอกาสเป็นความจริง..

“ขอบคุณมากยงน้อย นายไปพักผ่อนเถอะ ไว้เจอกันใหม่ ตกลงไหม?”

โฮก โฮก

ซงฮย็องกิยกมือขึ้นมาวาดวงเวทย์กลางอากาศ ไม่นานมังกรฟ้าขนาดมหึมาก็อันตรธานหายไป เหมือนมังกรฟ้าจะกลับไปอยู่ถิ่นอาศัยดังเดิมของมันเป็นที่เรียบร้อย..

ตอนนี้มังกรที่เหลืออยู่ มีแค่มิรุตัวเดียว..

“ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะสื่อสารกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ”

“จะอธิบายยังไงดี…จะบอกว่าสื่อสารได้ก็ใช้ หากให้ฉันฟังจากปากของมันตรงๆ ฉันก็ไม่ได้เข้าใจภาษาของพวกมันหรอก อีกอย่างที่ฉันสามารถสื่อสารกับยงน้อยได้ไม่ได้เป็นผลจากสกิล แต่มันมาจากสายสัมพันธ์ ยิ่งนายมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนายและมิรุจะสามารถแบ่งปันความคิดซึ่งกันและกัน ได้ในระดับหนึ่ง”

“คุณบอกว่า ไม่ได้มาจากสกิลงั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง แปลกใจเหรอ? ในโลกนี้ไม่มีสกิลพูดคุยกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ หากนายและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมทำงานร่วมกัน นายไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของมิรุได้หรอก”

“เข้าใจแล้ว ผมจะปฏิบัติตามคำพูดของคุณอย่างเคร่งครัด”

หัวข้อถัดไปที่ซงฮย็องกิแบ่งปันในกับซูฮยอนฟัง เป็นการดูแลมิรุ เช่น เจ้าตัวเล็กชอบกินอะไร ลักษณะนิสัยพื้นฐานของมังกรเป็นยังไง การดูแลเอาใจใส่อย่างไรให้เจ้าตัวน้อยอารมณ์ดี..

แม้ข้อมูลที่ซงฮย็องกิจะเป็นความลับที่ไม่ควรบอกกล่าวให้ใครฟัง แต่เจ้าตัวกลับกล้าบอกความลับให้ซูฮยอนฟังง่ายๆ ดูเหมือนตัวของซงฮย็องกิเองก็อยากเห็นมิรุเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน..

“จริงสิ เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของมิรุ แม้แต่ยงน้อยของฉัน เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน”ซงฮย็องกิพูด

“ไม่รู้?”

“ใช่ เหมือนยงน้อยของฉัน จะกลายเป็นลูกน้องของมิรุไปซะแล้ว ยงน้อยพูดกับฉันว่า [ขอโทษเจ้านาย ผมคิดว่า ผมไม่สามารถบอกท่านได้] จากคำพูดที่ยงน้อยพูดออกมาเหมือนมิรุจะสืบทอดสายพันธุ์ที่สูงกว่ายงน้อยของฉันจริงๆ”

“ในหมู่ของมังกร มีลำดับสายพันธ์ด้วยเหรอ?”

“แน่นอนว่ามี แม้มังกรจะจัดให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากที่สุด แต่ในหมู่มวลของมังกรก็หนีลำดับสายเลือดไม่พ้น มีทางเดียวที่ยงน้อยของฉันยอมก้มหัวเคารพมิรุ เป็นเพราะมิรุมีสายเลือดที่สูงส่งกว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นมังกรทั่วไป ยงน้อยไม่ทีทางก้มหัวในกับมันแน่”

เมื่อซงฮย็องกิพูดจบ ซูฮยอนที่ยืนฟังอยู่นานเหมือนจะจับใจความสำคัญไม่ค่อยได้ ทำให้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความแคลงใจ….

ซงฮย็องกิที่เห็นสีหน้าของซูฮยอน ก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา ก่อนกล่าวเสริม

“ยังไงก็แล้วแต่ นับจากนี้เป็นต้นไป นายต้องดูแลมิรุให้ดีๆ เพราะมันมองนายเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของมัน ฉันก็ไม่ได้อยากพูดหรอกนะ แต่นายนับว่าโชคดีจริงๆที่ได้มิรุมาครอบครอง”

“อย่างงั้นเหรอ….”

ว่ากันตามจริงซูฮยอนก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน มิรุที่พึ่งฟักออกมาจากไข่เทวะ จะมีสายเลือดที่สูงส่งมากกว่ายงน้อยของซงฮย็องกิ

แต่เมื่อเห็นมังกรฟ้าที่น่าเกรงขามยอมก้มหัวให้มังกรแรกเกิด เขาก็ต้องยอมรับมันว่ามิรุอาจมีสายเลือดที่สูงส่งจริงๆก็ได้

ทัศนคติของซูฮยอนที่มีต่อมิรุเริ่มเกิดการเปลี่ยนหลังจากได้ยินคำพูดของซงฮย็องกิ…

“เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อน จริงสิไว้ว่างๆฉันจะแวะมาหานายก็แล้วกัน อย่าลืมเปิดประตูต้อนรับด้วย”ซงฮย็องกิพูด

“ไม่มีปัญหา ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ”

“โปรดจำเอาไว้ให้ดีว่า หากนายล้มเหลวในฐานะคนเป็นพ่อ ฉันจะขอรับมิรุไปดูแลต่อ หวังว่านายคงไม่มีปัญหาหรอกนะ”

ซูฮยอนพยักหน้าในกับคำข่มขู่ของซงฮย็องกิ “ไม่มีปัญหา ถ้าผมดูแลมิรุไม่ไหว ผมจะยกให้คุณไปดูแลต่อ”

คิ้ว!!! คิ้ว!!!

มิรุคำรามออกมาด้วยความไม่พอใจ เหมือนไม่อยากได้ยินคำพูดของซงฮย็องกิ..

ดูท่าทางมิรุจะเกียจขี้หน้าของซงฮย็องกิจริงๆ

ซู่!!! ซ่า!!!

ทันใดนั้นจุดที่ซงฮย็องกิยืนอยู่ ก็มีหมอกควันปริศนาลอยออกมา… ไม่นานร่างกายของซงฮย็องกิก็หายไปจากดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว

ซูฮยอนเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้ายามเที่ยงวัน ก่อนหันไปมองมิรุที่นอนขดตัวอยู่บนหลังคอของเขา..

“มิรุ”

คิ้ว?

เมื่อมองไปที่ดวงตาของมิรุที่ฉายความไร้เดียงสาออกมา ซูฮยอนอดลูบหัวมันไม่ได้ แม้มันจะน่ารักก็จริง แต่ทุกครั้งที่นึกภาพย้อนกลับไป ตอนที่มังกรฟ้าก้มหัวให้มิรุ เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมมังกรที่ตัวใหญ่มโหฬารกลับอ่อนน้อมต่อมังกรแรกเกิด..

“ตัวตนของนาย เป็นอะไรกันแน่?”

**************

การพบปะกันระหว่าง ซูฮยอน และ ซงฮย็องกิ ได้กลายมาเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ…

แค่ซูฮยอนโพสต์ถามเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ นักข่าวจากสำนักต่างๆก็จับจ้องตาเป็นมัน ไม่ใช่แค่นักข่าวเท่านั้นที่ให้ความสนใจ ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ที่นานๆจะออกมาสู่โลกภายนอกกลับแอบนัดเจอกันอย่างลับๆ ทำให้กิลด์หลายๆแห่งต่างให้ความสนใจมากกว่าสำนักข่าวซะอีก..

เหตุผลที่กิลด์ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะทั้งซูฮยอนและซงฮย็องกิ เป็นเหมือนทหารรับจ้างที่สามารถไปไหนก็ได้ โดยไม่ต้องฟังคำสั่งจากกิลด์..

ลูกชายคนสุดท้องของซงอิลกรุ๊ป ผู้ไม่เคยผูกสัมพันธ์กับผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S คนอื่นๆ และซูฮยอน ผู้ตืนขึ้นแรงค์ S หน้าใหม่ไฟแรงที่หลายๆฝ่ายในการจับตา หากพวกเขาทั้ง 2 คน ตัดสินใจร่วมมือกัน ประเทศเกาหลีคงมีคลื่นลูกใหม่กำเนิดขึ้น..

หลังจากการพูดคุยของซูฮยอนและซงฮย็องกิสิ้นสุด มือถือของเขาก็มีสายเข้า คนที่โทรมาเป็น จีย็อน…

“ได้ยินมาว่า นายพูดคุยกับซงฮย็องกิ นายคุยเรื่องเกี่ยวกับอะไรเหรอ?”

“เธอโทรมาหาฉันโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าและคำถามแรกที่เธอถาม กลับเป็นเรื่องระหว่างฉันกับซงฮย็องกิอีกนะ”

ดูเหมือนหลังจากสำนักข่าวต่างๆได้รับรายงานมาว่า ซูฮยอนและซงฮย็องกิ แอบพบประกันอย่างลับๆ

ในฐานะที่เธอเป็นถึงกิลด์มาสเตอร์ การสืบค้นหาความจริงจึงเป็นเรื่องง่ายๆ เมื่อเธอได้รับรายงานจากสมาชิกภายในกิลด์ เธอจึงตัดสินใจโทรมาสอบถามอีกฝ่ายด้วยตัวเอง..

“ตกลงนายจะตอบคำถามของฉันหรือป่าว หวังว่านายคงไม่เป็นพวกจับปลาสองมือหรอกนะ”

“สมแล้วที่เป็นเธอ คำพูดคำจายังฟังดูข่มขู่เหมือนเคย อย่างลืมสิว่าสัญญาที่พวกเราตกลงจะทำงานร่วมกันมีแค่เรื่องกิลด์ดัมพ์เท่านั้น ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวล ฉันไม่กล้าต้มตุ๋นเธอหรอก”

ซูฮยอนโดน จีย็อน กล่าวหาว่าเป็นพวกจับปลาสองมือซะงั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะสงสัย

ด้านหนึ่งก็เป็นหญิงสาวที่สง่างาม อีกด้านก็เป็นชายวัยกลางคนอายุ 30 ปี หากไม่ใช่คำว่าจับปลาสองมือ ก็ไม่ใช่ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว

สำหรับซูฮฺยอน สิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้เรียกว่าจับปลาสองมือ แต่เรียกว่าช่วยเหลือซึ่งกันและกันต่างหาก..

“ก็ได้ ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย จริงสิได้ยินมาว่านายกำลังเลี้ยงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ มันเป็นสัตว์ประเภทอะไรเหรอ?”

“มันเป็นมังกร ฉันตั้งชื่อให้มันว่า มิรุ ที่สำคัญมันน่ารักน่าชังมากๆด้วย”

“เดี๋ยว เมื่อกี้นายพูดว่าน่ารักเหรอ?”

“ใช่ น่ารักสุดๆไปเลย แม้มิรุจะเกิดได้ไม่ถึง 2 วันก็ตาม แต่ความสามารถของมัน ก็ประเมินค่าไม่ได้ เหตุผลที่ฉันต้องการเจอกับซงฮย็องกิ เพราะต้องการให้เขาแบ่งปันข้อมูลการเลี้ยงดูสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ให้..”

จะว่าไปทำไมซูฮยอนต้องอธิบายเรื่องราวระหว่างเขากับซงฮย็องกิให้จีย็อนฟังด้วย?

หรือเป็นเพราะซูฮยอนไม่ไว้วางใจซงฮย็องกิ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เขาอยากบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้กับใครบางคนฟัง เกิดซูฮยอนเป็นอะไรขึ้นมา จะได้มีพยานบุคคลยืนยันว่าก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไป เขาได้เจอใครมาก่อน…

ซึ่งแตกต่างกับจีย็อนและกิลด์ริปเปอร์ ถึงแม้พวกเขาจะตกลงกันว่า จะร่วมมือกันเฉพาะเรื่องที่มีกิลด์ดัมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทั้งซูฮยอนและจีย็อนมักติดต่อพูดคุยกันเสมอ จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกัน…จนเกือบเรียกได้ว่าเป็นสหายที่รู้ใจซึ่งกันและกัน

ดังนั้นไม่แปลกใจว่าทำไมเมื่อเธอได้ยินข่าวว่า ซูฮยอนแอบติดต่อกับซงฮย็องกิอย่างลับๆ เธอจึงอดกังวลไม่ได้..

“งั้นเหรอ…แสดงว่านายได้ข้อมูลการเลี้ยงดูมิรุมาจากเขาแล้วสินะ ฉันเองก็ได้มีโอกาสเจอซงฮย็องกิเหมือนกัน จะว่ายังไงดีฉันไม่ชอบขี้หน้าของเขาจริงๆ จะบอกว่าน่ารังเกียจก็ใกล้เคียงนะ”

ท่าท่างเธอจะไม่ชอบขี้หน้าของซงฮย็องกิตามข่าวลือจริงๆ ต่อให้ผู้คนส่วนใหญ่บนโลกเห็นซงฮย็องกิเป็นครั้งแรก สิ่งแรกที่พวกเขาคิดคืออยากวิ่งไปต่อยหน้าไอ้บ้านี้จริงๆ….นอกจากนี้ยังมีข่าวลือมากมายที่ทำลายภาพพจน์ของเขา..

<<แม้เขาจะเป็นผู้สืบทอดธุรกิจรุ่นที่ 3 แต่เขาก็เป็นหมาป่าที่รักสันโดษ ทำให้เขามีข่าวลือเสียๆหายประเดประดังเข้ามาเต็มไปหมด..>>

หากไม่นับความคลั่งไคล้ของเขาที่มีต่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ซงฮย็องกิยังมีข่าวลืออีกหลายร้อยเรื่องที่สำนักข่าวนำเสนอ ถามมีข่าวลือดีบ้างไหม ขอบอกเลยว่ามี แต่ส่วนใหญ่เป็นข่าวลือเสียหายมากกว่า

เหตุผลเพียงของเดียวที่ซงฮย็องกิยอมปฏิบัติตัวดีๆต่อซูฮยอน เป็นเพราะมิรุ หากไม่มีมิรุ อย่าได้หวังว่าซงฮย็องกิจะทำตัวดีๆด้วย..

เผลอๆต่อให้ซูฮยอนอยากเจอซงฮย็องกิโดนไม่มีมิรุมาเกี่ยวข้อง ซูฮยอนกล้ายืนยันเลยว่าอีกฝ่ายไม่ยอมออกมาเจอเขาแน่นอน…

“อืมฉันได้ข้อมูลมาบางส่วน…นอกจากนิสัยคลั่งไคล้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่แย่ตามข่าวลือนะ”

“ชายที่เข้าสังคมไม่เก่ง คนนั้นเนี่ยนะ?”

“น้ำเสียงของเธอ ฟังดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อยังงั้นแหละ”

“ฮ่า ฮ่า น้ำเสียงของฉันเป็นอย่างงั้นจริงๆเหรอ? จะไปซงฮย็องกิก็เป็นคนที่โชคดีจริงๆที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง นายรู้อะไรไหม นอกจากดื่มและปาร์ตี้ เวลาส่วนใหญ่ เขาแทบไม่ทำอะไรเลย”

“การดื่มและปาร์ตี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันเป็นเรื่องปกติมากๆของสังคมคนรวย เธอลองจินตนาการดูสิ หากครอบครัวของซงฮย็องกิล้มละลาย จะเกิดอะไรขึ้น? เขาคงเลิกทำตัวฟุ่มเฟือย แล้วมาใช้ชีวิตในแบบสังคมของพวกเราก็ได้ แต่คงยากเพราะรากฐานตระกูลของซงฮย็องกิ มั่นคงจนไม่อาจหาอะไรมาสั่นคลอนได้”

“จะว่าไปฉันก็อยากเห็นครอบครัวของเขาตกต่ำลงเหมือนกันนะ เขาก็ไปนั่งร้องห่มร้อมไห้คนเดียวแน่ๆ”

ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างซงฮย็องกิและจีย็อน จะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางเป็นสหายกันได้…

นิสัยส่วนตัวของจีย็อนที่ซูฮยอนสัมผัสได้ เธอเป็นคนที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับใครง่ายๆ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้มีอำนาจก็ตาม….หากปล่อยให้จีย็อนและซงฮย็องกิมาเจอกันในที่ประชุม มันคงกลายเป็นเวทีสำหรับโต้วาทีมากกว่า

ไม่แปลกใจว่าทำไมผู้ตื่นขึ้นหลายๆคนถึงบอกกล่าวกันว่า ทั้ง 2 คนไม่มีวันบรรจบกันได้..

<<แม้เธอจะเกียจขี้หน้าของซงฮย็องกิมากขนาดไหน ยังไงในอนาคตเธอก็ต้องเจอหน้าเขาอยู่ดี>>

ซูฮยอนไม่สามารถระบุได้ว่า จีย็อนและซงฮย็อง จะเจอกับอีกเมื่อไหร่ แต่เขากล้าการันตีเลยว่า เธอไม่มีทางหนีจากซงฮย็องพ้น..

เขาอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้ง 2 คน ต้องมาเผชิญหน้ากันในอนาคต

ในอดีตซูฮยอนต้องรับหน้าที่เป็นกรรมการ เพื่อค่อยกันท่า ห้ามพวกเขา 2 คนไม่ให้กัดกัน….จนวันนั้นซูฮยอนรู้สึกเหมือนตกนรก

“เก็บเรื่องของซงฮย็องกิไว้ก่อน ว่าแต่เธอโทรมาหาฉันทำไม เธอคงไม่ได้โทรมาเพื่อถามสารทุกข์สุกดิบหรอกนะ”

“นายก็รู้ว่าฉันมีงานให้ทำเยอะแยะเต็มไปหมด ฉันคงไม่โทรไปหาเพื่อถามคำถามไร้สาระพวกนั้น”

“งั้น…เธอช่วยเข้าหัวข้อสำคัญมาเลยดีกว่า ฉันจะได้มีเวลาไปผจญภัยในหอคอยแห่งการทดสอบต่อ”

“มีข่าวมาแจ้ง ในเร็วๆนี้ จะมีดันเจี้ยนระดับสีเขี้ยวปรากฏขึ้นที่ ปูซาน”

“ดันเจี้ยนสีเขี้ยวอีกแห่ง กำลังจะโผล่ออกมางั้นเหรอ…”

ซูฮยอนจำได้ว่า หลักจากพิชิตดันเจี้ยนระดับสีเขียวไปได้ 1 แห่ง กว่าดันเจี้ยนแห่งใหม่จะโผล่ออกมามันต้องใช้ที่เวลานานกว่านี้ มันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่อยู่ๆมันจะโผล่ขึ้นมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนด..

<<หรือฉันจะจำผิดกันนะ?>>

จีย็อนเป็นถึงกิลด์มาสเตอร์แห่งกิลด์ริปเปอร์ ทำให้ข่าวกรองของเธอไม่เป็นสองรองใคร

ซูฮยอนที่อยู่ตัวคนเดียว ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเชื่อมั่นใจหน่วยข่าวกรองของกิลด์ริปเปอร์ ไม่แน่บางที่ข้อมูลที่จีย็อนแจ้งมา อาจเป็นความจริงๆ..

“ถูกต้อง ขนาดสำนักงานรับรองเหล่าสหายผู้ตื่นขึ้นยังงงเป็นไก่ตาแตก ใครจะไปคิดว่าดันเจี้ยนระดับสีเขียวจะโผล่ขึ้นมาเร็วขนาดนี้…ในเมื่อมีโชคร้าย โชคดีย่อมตามมา จากการวิเคราะห์ของทางสำนักงาน เหมือนความแข็งแกร่งดันเจี้ยนระดับสีเขียวแห่งนี้ จะอ่อนแอกว่าครั้งก่อนหน้าเยอะมาก..”

“แล้วใครจะรับอาสา เป็นผู้นำในการโจมตีดันเจี้ยนกัน?”

“จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ซงฮย็องกิ หวังว่าเขาคงไม่อารมณ์เสียเหมือนอย่างทุกครั้งหรอกนะ ไม่แน่ เขาอาจหนีไปเหมือนอย่างเคยก็ได้”

เมื่อใดก็ตามที่มีดันเจี้ยนระดับสีเขียวโผล่ออกมา ผู้ตื่นขึ้นที่อยู่แรงค์ S ทุกคนจะผลัดเปลี่ยนกันมาเป็นผู้นำ เพื่อนำลูกทีมกำจัดดันเจี้ยนในออกไปจากพื้นที่ของประชาชน..

แต่สำหรับซงฮย็องกิ เขาเป็นคนที่เพิกเฉยต่อหน้าที่ส่วนนั้นเสมอ หากถึงคราวเป็นผู้นำเมื่อไหร่ซงฮย็องกิมักหลบหนีความรับผิดชอบตลอด..

“หมายความว่า จะเป็นการดีที่สุด หากมีตัวเลือกสำรองสินะ”

“ใช่แล้ว ฉันจึงโทรมาถามนายยังไงล่ะ นายสนใจหรือป่าว? ว่ากันตามจริงแม้นายจะอยู่แรงค์ S ก็ตามแต่ประสบการณ์การโจมตีดันเจี้ยนนายแทบไม่มี ในเมื่อโอกาสมากองอยู่ตรงหน้า ทำไมนายไม่ลองดูสักตั้งล่ะ เพื่อจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง”

ซูฮยอนรู้สึกขอบคุณความหวังดีของจีย็อนมาก แต่ความหวังดีของเธอก็ไม่จำเป็นสำหรับเขา เพราะในหมู่ผู้ตื่นขึ้น คนที่มีประสบการณ์การในการพิชิตดันเจี้ยนมากที่สุด คงไม่มีใครหน้าไหนมาเทียบเคียงซูฮฺยอนได้

<<ฉันควรรับหน้าที่แทนดีไหมนะ?>>

ดันเจี้ยนที่โผล่ออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ความคิดของซูฮยอนปั่นป่วน

จะว่าไปดันเจี้ยนระดับสีเขียวก็เป็นเวทีประลองที่เหมาะสมกับมิรุ เพราะดันเจี้ยนระดับสีเขียวน่าจะมีระดับความยากที่มากกว่า ชั้นที่ 22 หากซูฮยอนอาสาเป็นผู้นำเอง ไม่แน่บางที่เขาอาจรู้ความสามารถที่แท้จริงของมิรุก็ได้…

“นอกจากผู้นำ มีใครบางที่ดูแลการโจมตี เป็นทางกิลด์หรือผู้มีอำนาจ?”

“อืม…จากที่ฉันได้ยินมารู้สึกจะมี 3 กิลด์ ที่ดูแลความเรียบร้อบ มีกิลด์…..”

ซูฮยอนกับจีย็อนพูดคุยเรื่องการโจมตีดันเจี้ยนไปได้พักใหญ่ๆ แม้เสียงที่ออกมาจากมือถือจะเสียงดัง แต่มังกรน้อยอย่างมิรุก็สามารถหลับได้โดยไม่สะดุ้งตื่น….

หลังจากจีย็อนวางสายไป ซูฮยอนก็ลูบหัวมิรุเบา “มิรุน้อย”

คิ้ว

มิรุที่โบยบินอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน เมื่อได้ยินซูฮยอนเรียกชื่อ มันก็ตื่นขึ้นมาในสภาพงัวเงีย…

“ทำไมนายและฉันไม่ลองไปอาระวาดให้เต็มทีตามเสียงเรียกของหัวใจดูบ้างล่ะ”

คิ้ว?

หากสิ่งที่ซูฮยอนคิดผ่านไปได้ด้วยดี โดยไม่มีอุปสรรค การโจมตีดันเจี้ยนครั้งนี้ อาจทำให้เขารู้ได้ว่าความสามารถที่แท้จริงของมิรุ เป็นเช่นไร…

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

New-Canvas2-1-696×323
Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์
7 ตุลาคม 2022
องค์หญิงหมอเทวะ
องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess
15 กรกฎาคม 2022
cover_250x350-214×300 (1)
เฮดโฟนของผมเชื่อมต่อกับอนาคตได้! My Headphones Can Connect to the Future
15 กรกฎาคม 2022
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ-583×1024
พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
15 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 73"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF