cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 57

  1. Home
  2. All Mangas
  3. การกลับมาของฮีโร่
  4. ตอนที่ 57
Prev
Next

ตอนที่ 57

การเจรจาต่อรองระหว่างซูฮยอนกับผู้อำนวยการลากยาวไปหลายชั่วโมง

ทุกๆครั้งที่ซูฮยอนและผู้อำนวยการต่อล้อต่อเถียงกัน เสียงของคังซึงชอลจะดังออกมาเป็นระยะๆ

ข้อเสนอของซูฮยอนทำให้ผู้อำนวยการตกอยู่ในความลำบากใจ

แต่สุดท้าย ผู้อำนวยการก็ต้องยอมรับข้อเสนอของซูฮยอนอยู่ดี

ความจริงผู้อำนวยการก็ไม่อยากอ่อนข้อให้กับซูฮยอนเลยสักนิด แต่ต่อหน้าผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ที่มีพลังมหาศาลทำให้เขาได้แต่ประนีประนอมไปก่อน

“เฮ้อ..ไม่อย่าจะเชื่อเลยว่าฉันคนนี้จะเสียท่าให้กับเธอ เธอกำลังแบล็คเมล์ฉันอยู่สินะ”

ใบหน้าของผู้อำนวยการย่นลงด้วยความอารมณ์เสีย

ซูฮยอนเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนตอบกลับไป “ไม่ใช่หรอกครับ ท่านคิดมากเกินไปแล้ว คำขอของผมแลกกับข้อมูลในเมืองอันยัง ถ้ามันหลุดออกไปยังโลกภายนอก ท่านคงไม่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ไปนานแล้ว จริงไหมครับ”

“นั่นมัน…”

“อีกอย่างคำขอของผมก็มีนิดเดียวเอง ยกตัวอย่างเช่น….”

การสาธยายของซูอยอนยังคงดำเนินต่อไป ยิ่งผู้อำนวยการได้ยินมันไปนานๆ กลับรู้สึกว่าอายุของเขาเริ่มได้เวลากลับบ้านเก่าเข้าไปทุกที

คำขอเล็กน้อยงั้นเหรอ…

เล็กน้อยก็บ้าแล้ว…ตั้งแต่เกิดมาผู้อำนวยการถูกเอาเปรียบมากที่สุดก็คือครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซูฮยอนเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ เขามีแต่เสียกับเสีย

ผู้อำนวยการจมลงสู่ห้วงความคิด ต่อให้ผ่านไปอีกหลายพันปี เรื่องแบบนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้น

แต่น่าเสียดายที่ซูฮยอนกุมความลับของผู้อำนวยการไว้ได้…

ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เผยแพร่ต่อสาธารณะไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเรื่องแดงออกไป ผู้อำนวยการคงอยู่ไม่สุข

คลิปเสียงการสนทนาระหว่างลีจุนโฮและผู้อำนวยการ….คือจุดอ่อนที่ผู้อำนวยการกลัวมากที่สุด

<<ถ้ามันหลุดออกไปยังภายนอก ไม่ต้องคิดให้มากความ ผู้คนมากมายคงรุมประณามและตะโกนสาปแช่งอย่างไม่ต้องสงสัย>>

ไม่ใช่แค่เกาหลีเท่านั้นที่ประณามเขา แม้กระทั่งคนทั่วโลกคงรุมกดดันเขาให้ออกจากตำแหน่งแน่ๆ

ในเมื่ออันยังมีประชากรอาศัยอยู่มากถึง 600,000 คน หากไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นมันก็เป็นเรื่องที่ดี

แต่ถ้ามีเหตุร้ายแทรกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว ประชาชนให้เมืองอันยังถึงคราวจมลงสู่โศกนาฏกรรมได้เลย

ฉะนั้นผู้อำนวยการจึงยอมรับข้อเสนอของซูฮยอนแต่โดยดี เพื่อแลกกับการปกปิดคลิปเสียงที่ลีจุนโฮสนทนากับเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเมืองอันยัง…

<<ถ้าผู้อำนวยการหลุดออกจากตำแหน่งจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องที่เขาควรยินดี>>

เพราะตอนนี้ผู้อำนวยการมีอำนาจอยู่อย่างล้นมือ ซึ่งอำนาจที่เขาครอบครองสามารถโยกย้ายหรือต่อรองกับผู้อื่นได้สบาย ไม่ว่าจะนักการเมืองหรือประธานาธิบดี

ยอมรับเลยว่าผู้อำนวยการรู้จักนักการเมืองที่มีอำนาจหลายคนและตัวผู้อำนวยการเองก็รับตำแหน่งดูแลสำนักงานมานาน ทำให้มีอำนาจต่อรองกับนักการเมืองได้โดยไม่ลำบาก…แต่ถ้าเขาถูกเตะออกจากตำแหน่งจริงๆเส้นสายที่เคยวางไว้ คงถูกนักการเมืองที่มารับตำแหน่งใหม่…กวาดล้างเส้นสายของเขาทิ้งไป จนอำนาจที่เคยล้นมือกลับหายไป

ซูฮยอนรับปากว่าความลับของผู้อำนวยการจะถูกเก็บไว้ในมุมมืดต่อไป…

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแผนการยึดตัวผู้อำนวยการให้มาเป็นเครื่องมือกำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ

ตอนนี้ชะตากรรมของผู้อำนวยการอยู่ในกำมือของซูฮยอนเป็นที่เรียบร้อย

“เอาล่ะ..ในเมื่อข้อเสนอของผม ท่านตกลงรับปาก ผมก็ไม่มีเรื่องอะไรให้คุยแล้ว ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันครับ”

เมื่อซูฮยอนไม่มีเรื่องอะไรให้พูด เขาก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทำงานโดยไม่หันกลับหลังไปมองสีหน้าผู้อำนวยการเลยสักนิด

ผู้อำนวยการนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยอาการอดกลั้น…เนื้อตัวของเขาเริ่มสั้นเท่าไปด้วยความโกรธ เป้าหมายแรกของคือการชักชวนซูฮยอนในเข้ารวมองค์กรที่สร้างขึ้นมากับมือ แต่พอถึงเวลาจริงใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์ต่างๆมันจะกลับตาลปัตรขนาดนี้

ที่สำคัญไปกว่านั้น จุดอ่อนของเขายังไปอยู่ในมือของเด็กน้อยที่อายุยังไม่ถึง 30 อีก

หากคลิปเสียงถูกปล่อยออกไปบนโลกออนไลน์ สำนักข่าวต่างๆคงเล่นเรื่องของเขาตลอดทั้งวัน

เมื่อถึงเวลานั้นแวดวงนักการเมืองของเขาคงเริ่มถูกสังคมตีตราว่าเป็นคนโกหกปลิ้นปล้อน

ไม่ใช่แค่ในแวดวงนักการเมืองเท่านั้น แม้แต่ประชาชนคนเดินดินคงรุมประณามความไม่รอบครอบของเขาที่ปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นโดยไม่ยอมบอกกล่าว แล้วประชาชนจะฝากฝังชีวิตไปกับคนไม่เอาไหนอย่างผู้อำนวยการได้ยังไง…..

“อ๊ากกกกกก”

หลังจากซูฮยอนปิดประตู เสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการ

ซูฮยอนยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

‘เสียใจด้วยนะผู้อำนวยการ คุณเล่นผิดคนแล้ว’

ข้อเสนอของผู้อำนวยการที่อยากให้ซูฮยอนเข้ารวมองค์กร…มันก็เหมือนกับการทํานาบนหลังคนเพราะมีแค่ซูฮยอนคนเดียวที่ต้องออกแรงมากที่สุด ผู้อำนวยการมีแต่ได้กับได้

ถ้าซูฮยอนเกิดบ้าจี้ตกลงเข้าร่วมกับองค์กรกับผู้อำนวยการ เป้าหมายที่จะยกระดับองค์กรของเขาคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

แต่ผลสุดท้ายเป้าหมายที่วางไว้กลับล้มไม่เป็นท่า

ที่สำคัญผู้อำนวยการยังโดนซูฮยอนแบล็คเมล์อีกต่างหาก ถ้าเขารู้ว่าเรื่องมันจะลงเอยเช่นนี้เขาคงไม่มีทางเชิญซูฮยอนมาหาให้พบวันนี้แน่ๆ

**************************

หลังจากซูฮยอนออกมาจากตึกของสำนักงาน เขาก็สูดหายใจเข้าไปเต็มปอดแล้วปล่อยออกมา

ครั้งนี้เป็นครั้งแรก..ที่ซูฮยอนได้เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของผู้อำนวยการแถมเขายังทำให้ผู้อำนวยการจนตรอกอีก..มันไม่มีอะไรสะใจไปกว่านี้อีกแล้ว

ซูฮยอนเดินไปขึ้นรถสปอร์ต ก่อนขับมุ่งหน้าไปยังปักหมุนที่ลีจุนโฮส่งในทางข้อความ

จุดหมายที่ซูอยอนมุ่งหน้าไปคือบ้านพักหลังเล็กที่ก่อตั้งเป็นห้องทำงาน ซึ่งที่ตั้งของมันอยู่ที่ ซินลินดง

ซูฮยอนหันไปดูเลขที่บ้านเพื่อเช็คความแน่ใจ หลังจากทุกอย่างถูกต้องตามข้อมูล เขาก็เอื้อมมือออกไปกดกริ่งหน้าบ้าน

ดิ๊งด่อง

รอไม่นานเสียงตอบรับจากด้านในก็ขานออกมา “ใครกันคะ?”

“ผมเป็นเพื่อนของฮักจุนครับ”

“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”

เสียงหญิงสาวที่ฟังดูเสนาะหูตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนัก

ประตูที่ปิดอย่างแน่นหนาค่อยๆเปิดแง้มออกมาเล็กน้อย

เอี๊ยด

เมื่อเจ้าบ้านโผล่ออกมาจากหลังประตู ซูฮยอนก็เห็นรูปร่างหน้าตาของเธออย่างชัดเจน

เธอมีผมยาวเสมอไหล่ ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวกระจ่างใส่ดุจไข่มุก ที่สำคัญดวงตาของเธอยังดูจิ้มลิ้มน่ารัก

เธอมีอายุ 20 ต้นๆ ซึ่งอายุของเธออยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันกับฮักจุน

ซูฮยอนพิจารณาสาวน้อยตรงหน้าก่อนถามออกไป “ไม่ทราบว่าเธอคือ ยันซอน ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ ฉันเอง”

“ผมเป็นเพื่อนกับฮักจุน ถึงพวกผมจะไม่ได้สนิทกันมากแต่ว่า…”ซูฮยอนเหลือบมองไปยังมือถือของตัวเอง ที่มีข้อความของลีจุนโฮส่งมาให้ “ผมรู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจ ถ้าไม่รังเกียจ ผมช่วยเหลือเธอได้นะ”

“คุณอยากช่วยฉันจริงๆเหรอคะ”

“เธออยู่บ้านคนเดียวสินะ พวกเราไปหาร้านกาแฟนั่งคุยธุระกับดีไหม”

“นั่นมัน….”

“ไม่ต้องห่วง ผมตรวจดูบริเวณรอบๆแล้ว แถวนี้ไม่มีคนคอยจำตาดูอยู่..ฉะนั้นไม่ต้องกังวลไป”

เมื่อได้ยินคำพูดของซูฮยอน สายตาของยันซอนก็หนุมวนไปด้วยความหวาดวิตก

เธอกัดริมฝีปากสักครู่ก่อนกลับเข้าไปในบ้านเพื่อใส่รองเท้า “คุณนำทางไปได้เลยค่ะ”

“ได้ครับ เชิญตามมาได้เลยครับ”

ร้านกาแฟที่ซูฮยอนเลือก คือร้านที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านของเธอ ซูฮยอนเดินหาโต๊ะนั่งที่ไกลจากสายตาผู้คนให้ได้มากที่สุด

หลังจากกาแฟร้อนๆ 2 แก้วมาเสิร์ฟ ซูฮยอนก็ยกมันขึ้นจิบแล้วถามข้อสงสัยออกไป “เธอเป็นแฟนของฮักจุนใช้หรือป่าว”

“ใช่ค่ะ…พวกเรา 2 คน คบกันในสมัยเรียน”

“เมื่อกี้เธอพูดว่าสมัยเรียนงั้นเหรอ?”

“ค่ะ…ฉันตัดสินใจคบกับเขาตอนอยู่มัธยมปลายปีที่ 2 ถ้านับเวลาที่คบกันมา พวกเราคบกันมาได้ 4 ปีแล้ว”

“อืม…เป็นช่วงเวลาที่วัยหนุ่มสาวมักเจอคู่ครองจริงๆด้วยแฮะ”

เมื่อลองคิดดูดีๆซูฮยอนก็อายุไล่เลียกับวัยหนุ่มสาว แต่เขากลับไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือแม้กระทั้งตอนนี้ ซูฮยอนเคยอ่านเจอให้หนังสือว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม มันสามารถเยียวยาจิตใจที่แสนอ่อนล้าของผู้คนได้เป็นอย่างดี ถ้าซูฮยอนได้สัมผัสกับความรัก ในชีวิตที่แล้วเขาคงไม่จมปลักอยู่คนเดียว

ยันซอนเป็นผู้หญิงที่ถูกอบรมมาเป็นอย่างดี เธอไม่ขัดขวางจินตนาการของซูฮยอน แต่เธอกลับนั่งรอเงียบๆด้วยความอดทน หลังจากท่าทีซูฮยอนกลับมาจริงจังอีกครั้ง ยันซอนถึงถามออกไปด้วยความใคร่รู้

“คุณบอกเป็นเพื่อนกับฮักจุน แล้วคุณรู้จักฮักจุนได้ยังไงคะ?”

“อ่อ..พวกเราเคยร่วมงานด้วยกันมาก่อน”

“แสดงว่าคุณเป็นผู้ตื่นขึ้นสินะ”

“ใช่ครับ..แต่ผมบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำไม่ได้หรอกนะ เพราะมันซับซ้อนเกินไป มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้”

“ไม่เป็นไรค่ะ…แต่คุณใช่คิมซูฮยอนหรือป่าว”

ซูฮยอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจหลังจากยันซอนรู้จักชื่อของเขา “เธอรู้ได้ไง”

“ฮักจุนเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณในฉันฟังบ่อยๆ ฮักจุนเคยบอกว่ามีรุ่นพี่ที่เขานับถือมากๆอยู่คนหนึ่ง ซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจาก คุณยังไงล่ะ”

“อ่า…งั้นเหรอครับ”

ยังงี้ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงรู้จักชื่อของเขา แสดงว่าฮักจุนต้องเล่าเรื่องของซูฮยอนให้เธอฟังบ่อยแน่ๆ ไม่เช่นนั้นเธอคงจำซูฮยอนไม่ได้

<<ก็ดีเหมือนกัน เรื่องราวมันจะได้ง่ายขึ้น>>

ต้องขอบคุณที่เธอเคยรู้จักซูฮยอนมาบ้าง ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่มีทางเชื่อใจคนแปลกหน้าอย่างเขาแน่นอน

ซูฮยอนคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องถามสารทุกข์สุกดิบอีกต่อไป เขาควรมุ่งหน้าสู่ประเด็นที่คาใจไว้เลยดีกว่า

“เอ่อ..จะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะขอเข้าเรื่องเลย?”

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

“คุณยันซอนครับ…ช่วยเล่าสถานการณ์ปัจจุบันของคุณกับฮักจุนให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ”

“สถานการณ์ของพวกเรางั้นเหรอคะ..”

หลังจากได้ยินคำถามของซูฮยอน ใบหน้าที่เคยสดใส่กลับมืดมนลงทันตา

ยันซอนหลับตาลงเพื่อไตร่ตรองอะไรสักอย่าง ใช่เวลาไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นมาแล้วถามซูฮยอน

“ก่อนที่ฉันจะบอกคุณ…คุณช่วยตอบหน่อยได้ไหม ว่าคุณอยากรู้ไปทำไม?”

“ผมบอกเธอไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“คุณอยากช่วยพวกเราจริงๆเหรอ”

“แน่นอนสิ”

“แต่…เพราะอะไรกัน?”

‘ทำไมเธอจึงถามจู้จี้ขนาดนี้’ซูฮยอนบ่นอุบอิบในใจ

ตอนแรกแววตาของเธอยังเต็มไปด้วยความหวังอยู่เลย ไหงตอนหลังถึงกลายเป็นคนขี้สงสัยไปได้ หรือเธอไม่สามารถเชื่อใจใครได้เพราะเคยโดนหักหลังมาก่อนกันนะ….

เหตุผลที่ซูฮยอนอยากช่วยเหลือฮักจุน มีอยู่ 2 เหตุผล

เหลุผลที่ 1

เพราะซูฮยอนยังไม่อยากปล่อยให้ฮักจุนตกลงสู่ก้นบึ้งแห่งความอำมหิต

และเหตุผลที่ 2

<<สิบปีต่อจากนี้>>

พรสวรรค์และความสามารถฮักจุนจะพุ่งทะยานขึ้นด้วยความรวดเร็ว

และนั่นคือต้นเหตุที่ทำให้อารมณ์ของฮักจุนเริ่มเกิดการแปรปรวน ซูฮยอนพยายามหยุดยั้งเรื่องราวในอนาคตที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ร้ายๆซ้ำรอยเดิมจากในอดีต

ขนาดพรสวรรค์ของฮักจุนตื่นขึ้นยังไม่เต็มที่ แต่เขาก็ยังปีกป่ายจากแรงค์ต่ำสุดไปถึงแรงค์ A โดยใช่เวลาแค่ 2 ปี ในบรรดาผู้ตื่นขึ้นทั้งหมด ฮักจุนเป็นเพียงคนเดียวที่ทะยานขึ้นสู่แรงค์ A เร็วที่สุด

ซูฮยอนอดคิดไม่ได้ว่า ตัวเขาเพียงคนเดียวจะแก้ไขสถานการณ์ฮักจุนได้หรือป่าว

<<แต่ถ้าได้ผู้หญิงตรงหน้ามาช่วย เขาอาจทำมันได้ ก่อนที่ฮักจุนจะเดินไปในทางที่ผิด>>

ซูฮยอนจ้องมองไปยังสายตาของเธอก่อนพูดออกไป “ผมต้องอธิบายเหตุผลให้คุณฟังจริงๆเหรอ ฮักจุนเป็นรุ่นน้องที่รักของผมแค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว”

“คุณไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่ใช่ไหม”

“ไม่มีแน่นอน ปัญหาที่เกี่ยวก้องกับพวกคุณอย่างน้อยผมก็พอช่วยได้ ผมคิดว่าคุณคงรู้เรื่องนั้นดีกว่าใครจริงไหม”

“ใช่ค่ะ”

ซูฮยอนผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ที่ก้าวมาอยู่ในจุดสูงสุดได้ไม่นาน..

ถ้าเธอไม่รู้จักซูฮยอนมาก่อน เธอไม่มีทางขอความช่วยเหลือจากเขาแน่ๆ แต่ตอนนี้เธอไม่อาจปล่อยมือจากซูฮยอนไปได้ เพราะซูฮยอนอาจเป็นเพียงคนเดียวที่ช่วยเหลือเธอได้…

ฐานะทางสังคมที่เรียกว่า ‘ผู้ตื่นขึ้น’ คือตัวตนที่ก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ แค่คุณอยู่แรงค์ C ก็เป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับครอบครัวได้ง่ายๆ แต่ถ้าก้าวไปอยู่แรงค์ S เมื่อไหร่

คุณจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจรองลงมาจากรัฐบาล แม้แต่ทางรัฐบาลยังต้องประนีประนอมกับคุณ…

“คุณจะช่วยพวกเราจริงๆเหรอ”

“ใช่..ผมจะช่วยพวกคุณ”

“พวกเราไม่มีอะไรตอบแทนคุณหรอกนะ แม้แต่เงินพวกเราก็ไม่มีให้คุณ”

“ผมไม่ต้องการของพวกนั่นหรอกครับ ปล่อยมันไปเถอะ ผมช่วยด้วยความเต็มใจ”

“ขนาดฉันบอกไปขนาดนี้แล้ว คุณก็ยัง….”

ยันซอนถามคำถามเดิมๆวกไปวนมา แต่ซูฮยอนก็ยังอดทนตอบกลับไปด้วยสีหน้าจริงจังทุกครั้ง..

“ขอบคุณจริงๆค่ะ”

หยาดน้ำตาเม็ดเล็กๆหล่นออกมาจากห่างตาของยันซอน

เธอต้องการคนช่วยเหลือมาโดยตลอด ในที่สุดวันที่เคยฝันไว้ก็มาถึง….

ยันซอนอ้าปากเล็กๆของเธอและเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง จองดงย็อง กับ ฮักจุน ที่เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมานี้ให้กับซูฮยอนฟัง

***************************

เมื่อซูฮยอนรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาก็พายันซอนเดินออกจากร้านกาแฟแล้วอาสาไปส่งที่บ้านเหมือนเดิม

ในตอนนี้สมองของซูฮยอนเริ่มมีความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามา..

<<ในที่สุดเขาก็รู้ได้สักที ว่าทำไมสีหน้าของฮักจุนถึงดูทุกข์ใจ>>

ว่ากันว่าก่อนที่จองดงย็องจะเป็นคนมีชื่อเสียงเช่นนี้ เขาเคยเป็นนักเลงตัวพ่อมาก่อน

หลังจากเป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ จองดงย็องก็สาบานไว้ว่าจะกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ เพื่อไถ่บาปที่ตัวเองเคยกระทำ แต่มีหรือคนที่เคยเจอกลับจองดงย็องมาก่อนจะเชื่อคำพูดของนักเลงตัวพ่อง่ายๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี…การกระทำของจองดงย็องก็พิสูจน์ความดูถูกของทุกคน ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขาในที่สุดก็สามารถสร้างกิลด์ที่มีความเข้มแข็งขึ้นมาได้สำเร็จ

‘ผู้ตื่นขึ้น’จากวงการใต้ดินอันมืดมิด กลับกล้าละทิ้งสังคมที่เลวทรามเช่นนั้น แล้วออกมาเข้าร่วมกับสังคมโลกมนุษย์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก…มันเป็นภาพพจน์ที่แฟนคลับของจองดงย็องบรรยายออกมา

แน่นอนว่าบนโลกนี้ไม่สามารถบังคับคนให้คล้อยตามได้…มีประชาชนหลายคนไม่เชื่อว่าจองดงย็องจะวางมือจากวงการใต้ดินจริงๆ พวกเขาตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าจองดงย็องอาจอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆบางเหตุก็ได้….ถึงจะมีคำวิจารณ์มากมายถาโถมเข้ามา แต่จองดงย็องก็ปล่อยให้มันผ่านไป

เขายังคงเดินหน้าสร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดีต่อไป เพื่อสลัดคราบอาชญากรที่เคยสร้างไว้ให้หลุดพ้น

แต่ทว่า…

“ดูเหมือนเขาจะหนีออกจากสังคมที่เน่าเฟะเช่นนั้นไม่ได้จริงๆ อย่างคำที่ว่า [หมามันเคยกินขี้มันก็ยังกินขี้อยู่วันยังค่ำ]”

ทันใดนั้นฝีเท้าของซูฮยอนก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

ขณะที่ซูฮยอนจวนจะถึงบ้านของยันซอน เขาสัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาทางพวกเขา ซึ่งก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

เมื่อสายตาคู่นั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ซูฮยอนปล่อยออกมา มันก็เคลื่อนย้ายตัวหลบหนีไปในมุมมืดอย่างไร้ร่องรอย

ต้องขอขอบคุณลีจุนโฮที่ส่งข้อความมาบอกว่ามีคนคิดปองร้ายยันซอน ทำให้ซูฮยอนรู้ได้ถึงจิตสังหารของคนเมื่อครู่ที่หลบหนีออกไป

หมับ

ซูฮยอนกำหมัดตัวเองด้วยความรำคาญ

ไม่สิ..ไม่ใช่แค่รำคาญเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความโกรธปะปนมาด้วย

เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าฝ่ายตรงข้ามจะเล่นไม้นี้ ไม่แปลกใจว่าทำไมฮักจุนถึงจมลงสู่ด้านมืดโดยไม่อาจหวนกลับ เพระโลกใบนี้มันโหดร้ายกับตัวเขา และนั่นคือต้นเหตุที่ทำให้จิตใจของฮักจุนถูกความอำมหิตเข้าครอบงำ

ในที่สุดซูฮยอนก็รู้สักทีว่าทำไมกิลด์เทพสงครามถึงถูกฮักจุนตามล้างผลาญ…

ซูฮยอนดึงมือถือจากกระเป๋าขึ้นมาแล้วต่อสายไปหาใครบางคน

ซูฮยอนถือสายรอไม่นาน ก่อนที่ปลายสายจะกดรับ เสียงที่สดใสทักทายซูฮยอนผ่านทางมือถือ

ผู้ที่รับสายก็คือ คิมดูอุย ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A เขาเปรียบเสมือนมือขวาของผู้อำนวยการ เพราะคิมดูอุยเป็นหัวหอกหลักในการดูแลองค์กรที่ผู้อำนวยการสร้างขึ้น

คิมดูอุยให้เบอร์กับซูฮยอนไปเมื่อนานมาแล้ว เผื่อซูฮยอนมีเรื่องร้อนใจอยากขอความช่วยเหลืออจากคิมดูอุย แต่ใครจะคิดว่าผ่านไปได้ไม่นานซูฮยอนกลับโทรมาหาเขาเอง

“ผมรบกวนคุณอยู่หรือป่าว ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อย”

“คุณเคยบอกว่ามีเรื่องอะไรที่ขาดเหลือก็โทรมาได้เลย ดังนั้นผมจึงลองโทรหานายดู”

“ว่าไง…ได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

[อืม…บุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชําระ ในเมื่อนายมีบุญคุณต่อฉัน ฉันจะช่วยนายหน่อยก็ได้ ว่าแต่เรื่องอะไรที่นายอยากให้ฉันช่วย?]

“ขอบคุณมาก ดูเหมือนฉันจะติดหนี้นายเข้าให้แล้ว”

หลังจากซูฮยอนพูดขอบคุณออกไป เสียงหัวเราะของคิมดูอุยก็ดังออกมาจากมือถือ

เมื่อทุกอย่างกลับมาเงียบสงบซูฮยอนก็พูดเข้าเรื่องโดยไม่รีรอ “ผมอยากให้คุณช่วยคุ้มกันคนรู้จักให้หน่อย พอดีผมจะลงมือทำอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย”

[ทำอะไรสักอย่างงั้นเหรอ…นายว่างแผนจะทำอะไรกัน?]

“เอ่อ….”

เมื่อซูฮยอนอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้คิมดูอุยฟัง เขาก็พูดออกมาด้วยความตกใจ

“ตามความคิดเห็นของฉัน ถ้าสถานการณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง มันอยู่ในสถานะล่อแหลมจริงๆ ไม่แน่ถ้าเจาะลึกลงไปอีกอาจเจอกับเบาะแสอะไรบางอย่างก็ได้ ทำไมนายไม่ลองสืบสวนดูก่อนละ จะได้ไม่ประมาท”

“ไม่ล่ะผมไม่อยากเสียเวลาไปกับมัน ถ้าวิธีแรกไม่ได้ผล เดี๋ยวผมลองเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น ที่ผมเร่งรีบขนาดนี้เพราะผมอารมณ์เสียนิดหน่อย”ซูฮยอนกัดฟันแล้วพูดตัดจบ

***********************

ฮักจุนสวมใส่ชุดสูทสีดำ จนเขาเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มมาดเข้ม เขากำลังก้าวเดินไปตามโถงทางเดินที่ถูกตกแต่งไปด้วยเพชรนิลจินดา

ที่นี่คือ กิลด์เฮาส์ ของกิลด์เทพสงคราม

ทางกิลด์เทพสงครามได้เช่าตึกหรูแถวย่านคังนัมเป็นสำนักงาน

ซึ่งราคาสำหรับค่าเช่ามันแพงจนคนทั่วไปไม่อยากได้ยิน เพราะพวกเขากลัวเป็นลมล้มพับ

แต่สำหรับกิลด์เทพสงครามค่าเช่าที่จ่ายไปมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ต่อให้เช่าอีก 10 แห่งพวกเขาก็จ่ายไหว เพราะรายได้ที่พวกเขาทำได้มันเยอะจนไม่รู้จะใช้หมดหรือป่าว

ขณะที่ฮักจุนกำลังเดินไปตามทาง เขากลับรู้สึกไม่สบายใจ….

<<บอดี้การ์ดงั้นเหรอ…>>

ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ขณะที่ฮักจุนกำลังระบายความโกรธ เขากลับได้รับคำสั่งให้ไปงานเลี้ยงเพื่อเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของพวกสังคมชั้นสูง

เลือดลมภายในของฮักจุนผันผวนไปหมดหลังจากได้ยินคำสั่ง เพราเขาต้องไปเจอกับใครบางคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุด

<<ทำไมฉันต้องทำงานเยี่ยงทาสขนาดนี้ด้วย>>

ฮักจุนพยายามลืมเรื่องร้ายๆในอดีต แต่สมองของเขากลับไม่ยอมลบความทรงจำแย่ๆนั้นทิ้งออกไป

<<ไม่แปลกใจว่าทำไมหัวหน้ากิลด์ถึงยังออมมือกับฉัน>>

เพราะตัวฮักจุนยังมีประโยชน์อยู่ เลี้ยงดูปูเสื่อมาตั้งนานจะเขี่ยทิ้งก็เสียดาย สู้เก็บไว้ใช้งานต่อไม่ดีกว่าเหรอ…

<<นอกจากเงินและอำนาจ หัวหน้ากิลด์ ก็ไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่ความรู้สึกของลูกน้อง เขายังปล่อยผ่านไปเหมือนพวกเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศ>>

ฮักจุกกัดฟันและบ่นพึมพำออกมาด้วยความโกรธ

<<รอให้ถึงคราวฉันบ้างเถอะ ฉันจะ…>>

เขาหลับตาลงและลบความคิดที่มีน้ำโหออกไป

ต่อไปนี้เขาต้องแสดงอารมณ์และท่าทางที่เหมาะสมของบอดี้การ์ดออกมา

เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า ‘ยิ้มให้เมื่อเจอกัน’ มันเป็นคำที่ผู้คนทั่วโลกมักใช้กันเสมอ ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาแค่ไหน ขอแค่มีรอยยิ้มความหนักใจที่เคยมี จะถูกรอยยิ้มกลบหายไป

ฉะนั้นฮักจุนจึงปั้นใบหน้ารูปยิ้มขึ้นมาเพื่อกลบสีหน้าบึ้งตึง ถ้าเขามีสีหน้าอาลัยอาวรณ์ภาพลักษณ์ของบอดี้การ์ดคงดูไม่ดี

ฮักจุนตบหน้าของตัวเองเพื่อเรียกสติกลับคืนมา

<<ฉันต้องฝืนทนกับมันให้ได้>>

เมื่ออารมณ์โกรธเคืองของเขาหายไปฮันจุนก็สูบหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมา

ฮักจุนเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก่อนจะหักเลี้ยวไปทางหัวมุม

แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่ทางเดินโล่งๆ….เพราะตรงหน้ามีคนที่ฮักจุนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดียืนดักรออยู่

“โย้ว…มาได้สักทีนะ”

“พี่ซูฮยอน?”

คนที่ดักรออยู่ก็คือซูฮยอน คนที่ฮักจุนเล่าในแฟนฟังเป็นประจำ..

ฮักจุนมองซูฮยอนด้วยความแปลกใจ ถ้าเป็นเวลาปกติซูฮยอนไม่มีทางมาอยู่ในที่แห่งนี้แน่ๆ ตามนิสัยส่วนตัวของซูฮยอน เขามักจมปลักอยู่ในหอคอยแห่งการทดสอบจนหามรุ่งหามค่ำ ถ้าเคลียร์ชั้นของหอคอยไม่ได้เขาไม่มีทางออกมาชมแสงตะวันแน่….

ฮักจุนรีบมุ่งหน้าไปหาซูฮยอนแล้วถามข้อสงสัยออกมา “ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่?”

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

1602814709
Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล
15 กรกฎาคม 2022
123
กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System)
22 ตุลาคม 2021
รูป-1
กำเนิดใหม่ราชันย์ปีศาจก็อบลิน
15 กรกฎาคม 2022
turns-out-im-a-great-cultivator-novel-c250x250
ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่
15 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 57"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF