cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 122

  1. Home
  2. All Mangas
  3. การกลับมาของฮีโร่
  4. ตอนที่ 122
Prev
Next

ตอนที่ 122

 

แสงสว่างวูบวาบของมวลสารเวทย์ที่กําลังพุ่งตรงปะทะร่างกายซูฮยอน จู่ๆก็เกิดปฏิกิริยาบิดเบี้ยว ก่อนค่อยๆเลือนหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย

 

โคลท์แมนและบรรดานักเวทย์ทั้งหลายเชื่อเต็มอก การโจมมีครั้งนี้อีกฝ่ายไม่มีทางหลบหรือป้องกันได้แน่นอน แต่ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทําให้พวกเขาสับสนมึนงง

 

“อะไรกัน? บอลเวทย์หายไปได้ยังไง?”

 

“อย่าบอกนะว่าเมื่อก็คือ การ [ยกเลิก] พลังเวทย์?”

 

“ต่อให้มันเป็น การ [ยกเลิก] พลังเวทย์ จริงๆก็เถอะ แต่ทําไมถึงเร็วอย่างนี้ ?”

 

เคล็ดวิชา [ยกเลิก] พลังเวทย์ สามารถวิเคราะห์โครงสร้างพลังเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามและลบล้างพลังเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไม่ยากเย็น

 

อย่างไรก็ตาม การใช้ [ยกเลิก] พลังเวทย์ ในสถานการณ์จริงไม่ง่ายเหมือนคําอธิบายในตําราที่คุณเคยร่ำเรียน ยิ่งพลังเวทย์ที่คุณต้องการลบล้างมีอานุภาพสูงสงมากเพียงใด การ [ยกเลิก] พลังเวทย์ของคุณก็ยากขึ้นตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

การโจมตีด้วยพลังเวทย์เมื่อครู นักเวทย์ของจักรวรรดิมากกว่าหนึ่งร้อยคนร่วมใจร่ายคาถารวมไว้ในจุดเดียวกัน อานุภาพของมันไม่จําเป็นต้องกล่าวถึง

 

ไม่มีทางเป็นไปได้ที่คนเพียงคนเดียวสามารถ [ยกเลิก] พลังเวทย์ ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

 

<<ไม่สิ มันไม่เหมือนการ [ยกเลิก] พลังเวทย์>>

 

บิลเตอร์ นักเวทย์ที่ทางจักรวรรดิภาคภูมิใจและเป็นหัวหน้ากองรบเวทย์ เริ่มขยับเท้าก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว

 

<<ตาดวงนั้น…>>

 

ครอบครองความสามารถมากแค่ไหนกันแน่?

 

หลังจากซูฮยอนทําลายการโจมตีพลังเวทย์ได้สําเร็จ เขาขมวดคิ้วเป็นปม เนตรที่สามค่อยๆหุบลง

 

“รู้สึกเวียนหัวหน่อยๆเหมือนกันแฮะ”

 

อีกหนึ่งความสามารถที่มีอยู่ในเนตรที่สามคือการลบล้าง ซึ่งมันเป็นความสามารถที่โกงสุดๆ เหนือกว่าความคิดที่ซูฮยอนคิดไว้เสียอีก การลบล้างพลังเวทย์แต่ละครั้ง ต้องแลกมากับพลังเวทย์ในร่างกายและความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา

 

สกิลที่มีผลสามารถยกเลิกการโจมตีพลังเวทย์ของอีกฝ่ายให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ในปัจจุบันก็พอมีอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่มักมีข้อจํากัดผูกมัดเสมอ เช่น การยกเลิกพลังเวทย์ฝ่ายตรงข้ามอํานาจพลังโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ต้องไม่เหนือไปกว่าตัวผู้ใช้สกิล หากฝ่ายตรงข้ามมีพลังมากกว่าการยกเลิกพลังเวทย์อาจไร้ผล หรือไม่ ก็ใช้เวลานานกว่าปกติถึงจะสามารถยกเลิกได้

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น [เนตรที่สาม – ลบล้าง] ไม่มีข้อจํากัดดังกล่าวข้างต้นผูกมัด

 

[การลบล้างพลังเวทย์มีขอบเขตจํากัดและประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับผู้ใช้] หมายความว่า หากอยากรีดความสามารถออกมาถึงขีดสุด ผู้ใช้ต้องอาศัยความพากเพียรและมีจิตใจมุ่งมัน..

 

<<การลบล้างพลังเวทย์ที่ผ่านมา กิน แรงกาย แรงใจ ของฉันไปเยอะกว่าที่คิดอีกแฮะ>>

 

ซูฮยอนยิ้มมุมปาก

 

<<ไม่เลว พอใช้ได้>>

 

คําว่า “ไม่เลว” คือคําอธิบายสั้นๆและมีความกระชับมากที่สุด

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ซูฮยอนได้สัมผัสกับตัวเองในวันนี้ คุณลักษณะใหม่ของเขาดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ ในบรรดาคุณลักษณะที่ซูฮยอนเคยครอบครอง สําหรับเขาคุณลักษณะใหม่ถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 1

 

หากซูฮยอนไม่มีสกิลจําแลง เขาคงสํารวจไม่หมดและไม่รู้ว่าคุณลักษณะใหม่มีอะไรพิเศษบ้าง

 

<<ถือว่าการตัดสินใจเปลี่ยนคุณลักษณะใหม่ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง>>

 

อาการวิงเวียนศีรษะคงอยู่เพียงหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้น ไม่นานซูฮยอนก็กลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง เขาเลิกสนใจสภาพร่างกายตัวเอง และหันไปสนใจการโจมตีเวทย์ระลอกใหม่ที่กําลังบินสู่มาตามลม เป้าหมายคือตัวเขา

 

[กายาทรหด]

 

[เกราะศักดิ์สิทธิ์ฟอลคอน]

 

ตูม!!!

 

เสียงระเบิดดังสนั่นเกิดขึ้นบริเวณจุดที่ซูฮยอนยืนอยู่ เปลวไฟสีแดงลุกโชติแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า

 

เมื่อเห็นว่าการโจมตีระลอกใหม่เข้าเป้าหมายเต็มเปา โคลท์แมนและบิลเตอร์ต่างพากันแสดงสีหน้าลิงโลดออกมาอย่างไม่ปิดบัง

 

การโจมตีเมื่อสักครู่ทรงอานุภาพเป็นที่สุด หากโดนเข้าไปมากสุดคือเสียชีวิตคาที่ น้อยที่สุดคือบาดเจ็บสาหัส กลุ่มคนของจักรวรรดิเชื่อกันแบบนั้น

 

แต่น่าเสียดายความเชื่อของพวกเขาเป็นอันต้องพังครืน

 

“พวกนายทําให้ฉันประหลาดใจอีกแล้ว”ร่างกายของซูฮยอนเดินฝาออกจากเปลวไฟที่กําลังร้อนระอุ

 

เขายกมือปัดเศษฝุ่นเกรอะกรังที่กระจายเต็มชุดเกราะและพูดขึ้นว่า “พวกนายนี้มันไร้มนุษยธรรมจริงๆ ไม่รู้หรือไงว่าห้ามโจมตีคนที่กําลังใช้ความคิด”

 

“ผะ..ผีหลอก…”

 

“ได้ไงกัน?”

 

การโจมตีของพวกเขาไม่มีวันพลาดเป้า แต่ความจริงตรงหน้ากลับกลายเป็นว่าการโจมตีของพวกเขาใช้ไม่ได้ผล ไม่ใช่แค่ชุดเกราะเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย กระทั่งผิวหนังชั้นนอกที่ไร้การป้องกัน ก็ไม่มีร่องรอยความเสียหายใดๆเลย นอกจากแสงสว่างสีแดงเรืองแสงออกมาจากผิวหนัง

 

ซูฮยอนกําหมัดแล้วซกไปข้างหน้า 2-3 ครั้ง เขาสัมผัสได้ว่ามีคลื่นความร้อนแทรกซึมออกมาจากชั้นผิวหนัง

 

<<เนตรที่สามสามารถลบล้างพลังเวทย์ได้ก็จริง แต่มันต้านทานพลังเวทย์ไม่ได้>>

 

เพราะซูฮยอนตั้งความหวังเอาไว้สูง เมื่อไม่สมหวังความเสียใจจึงเริ่มเอ่อล้มออกมา

 

แม้ว่าเนตรที่สามจะไม่สามารถต้านทานพลังเวทย์ได้ แต่ซูฮยอนก็มีไอเทมหลายอย่างชดเชยข้อด้อยนั้น ยกตัวอย่างเช่น เกราะศักดิ์สิทธิ์ฟอลคอน และไอเทมต้านทานพลังเวทย์อีกสารพัดที่ซูฮยอนพกติดตัวเอาไว้

 

เมื่อยืนยันความสามารถของคุณลักษณะครบถ้วน การออมมือจึงไม่จําเป็นอีกต่อไป..

 

“ถ้างั้น ต่อไปก็…”

 

[เนตรที่สาม – ผู้ล่า]

 

ดวงตากลางหน้าผากของซูฮยอนที่พึ่งหุบลง เปิดขึ้นใหม่อีกครั้งและมองสํารวจรอบโคลอสเซียม

 

“หอมปากหอมคอมานาน ระหว่างพวกนายและฉันรีบจัดการทุกอย่างให้จบกันดีกว่า”

 

โฮกกกกกก!!

 

ทันใดนั้นมอนสเตอร์ที่แทะซากศพของผู้ฝึกมอนสเตอร์จนหมดไม่เหลือแม้แต่กระดูก ก็พากันพร้อมใจคํารามเสียงดัง สะท้อนทั่วโคลอสเซียม

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

“อ๊ากกกกก!!!”

 

ใจกลางสนามประลองของโคลอสเซียมก็เกิดเสียงร้องโหยหวนดังตามมาติดๆ

 

ตุบ!!

 

ข้อต่อระหว่างโซ่กับรูกุญแจถูกตัดขาดออกจากกัน โซ่ตรวนที่พันธนาการข้อเท้าของชายคนนั้นเอาไว้ จึงใช้มือกระชากโซ่ออกอย่างง่ายดาย

 

“ขอบคุณท่านมาก”

 

“หลังจากหนีออกไปจากที่นี่ อย่าได้คิดหันหลังกลับมาเด็ดขาด ถ้าเป็นไปได้ จงหนีกลับไปประเทศบ้านเกิดของนายจะดีกว่า” ซูฮยอนพูด

 

ชายผู้เป็นอิสระบีบนวดบริเวณข้อมือและข้อเท้าที่ปวดเมื่อยและตอบกลับว่า “ข้าก็อยากทําตามคําพูดของเจ้าอยู่หรอก แต่ข้าจะออกจากที่นี่ยังไง…”

 

“นายไม่ต้องพะวงเรื่องนั้น นายสามารถวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ได้สบายหายห่วง”

 

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือไงกัน? เจ้าก็รู้ว่าพวกเราอยู่ที่ไหนตอนนี้”

 

“เมื่อนายออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวก็รู้เอง”

 

เมื่อได้ยินคําพูดตอบกลับของซูฮยอน ชายคนนั้นเอียงศีรษะลงไปด้านซ้ายเล็กน้อยและแสดงสีหน้าสับสนออกมา ชายคนนั้นทําใจดีสู้เสือพลางเดินไปข้างนอกด้วยท่าทางละล้าละลัง

 

ชายคนนั้นยังคงเคลือบแคลงคําพูดของซูฮยอน แต่เมื่อก้าวออกมาจากห้องกุมขัง เขาก็กระจ่างแจ้งคําที่ซูฮยอนพูดไว้หมายถึงอะไร

 

<<อืม…คนนี้ใช่เชลยศึกคนสุดท้ายหรือป่าวนะ?>>

 

ซูฮยอนบ่นรําพึงออกมาแล้วล้มฟุบนั่งลงไปบนพื้น

 

ตามจริงการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ยากมาก ถ้าเขาลงมือเต็มเหนี่ยวตั้งแต่ต้น ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเคลียร์ได้ แต่เพราะเขาต้องการทดสอบประสิทธิภาพของ [เนตรที่สาม] ซูฮยอนจึงยื้อเวลาออกไป และด้วยเหตุนี้ทําให้ร่างกายของเขาเหนื่อยมากกว่าจากเดิมหลายเท่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะร่างกายของซูฮยอนยังปรับตัวเข้ากับพลังของอูโรโบรอสได้ไม่เต็มที่

 

<<ฉันไม่ปฏิเสธว่าผลลัพธ์ของเนตรที่สามดีกว่าที่คิดไว้ แต่ถ้าฉันอยากควบคุมมันให้ได้ดั่งใจนึก คงต้องใช้เวลาพอสมควร>>

 

พลังเวทย์ที่ดูดซับมาจากอูโรโบรอสมีความเสถียรมากกว่าตอนแรกพอควร ถึงอย่างงั้นก็ไม่ได้หมายความว่าซูฮยอนจะสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

 

ทุกครั้งที่ซูฮยอนเรียกใช้คุณลักษณอูโรโบรอส ร่างกายของเขาต้องแบกรับภาระหนักเอาการไม่ว่าจะเป็นพลังเวทย์หรือความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ ซึ่งอาการที่แสดงออกมาทั้งหมด หมายความว่า หากเขาต้องการควบคุมมันให้อยู่หมัด เขาต้องฝืนบังคับร่างกายให้เคยชินไปกับมัน เปรียบเสมือนว่าพลังนั้นอยู่ในร่างกายของเขามาตั้งแต่กําเนิด

 

<<ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับมัน ก่อนสงครามแก่งแย่งอันดับหรือป่าว?>>

 

เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จวนจะถึงกําหนดงานอีเว้นท์ สงครามแก่งแย่งอันดับ

 

กอร์ดอนโรฮันผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S สัญชาติอเมริกาได้ทําการจัดงานอีเว้นท์ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ สงครามแก่งแย่งอันดับ

 

ถ้าเป็นไปได้ซูฮยอนอยากควบคุม เนตรที่สาม และ พลังเวทย์ของอูโรโบรอสที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายให้ชํานิชํานาญตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนงานอีเว้นท์จะถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ

 

<<ไม่มีอุปสรรคใด สามารถรั้งฉันได้>>

 

ซูฮยอนพูดปลุกใจตัวเองพลางกําหมัดแน่น

 

งานอีเว้นท์ที่กําลังจัดขึ้น คนปกติอาจมองว่าเป็นเรื่องบันเทิงและเกมเชื่อมสายสัมพันธ์ทั่วไป แต่หารู้ไม่ สงครามแก่งแย่งอันดับที่กอร์ดอนโรฮันคะยั้นคะยอจัดขึ้นให้ได้ มีเป้าหมายซ่อนเร้นเอาไว้ และเมื่อสงครามแก่งแย่งอันดับยุติลง จะก่อเกิดพายุลูกใหญ่ซัดโหมกระหน่ำไปทั่วโลก

 

ประเทศมหาอํานาจที่ครอบครองผู้ตื่นขึ้นเก่งที่สุดในโลกรายใหม่จะถืออุบัติขึ้นจากงานสงครามแก่งแย่งอันดับครั้งนี้ ขณะเดียวกันประเทศที่เคยเป็นมหาอํานาจจะกลายเป็นตะวันลับฟ้าแทนและเป้าหมายของซูฮยอนคือปรารถนาอยากเป็นพายุลูกนั้น

 

<<เพื่ออนาคตจะมัวแต่อึดอาดไม่ได้>>

 

ซูฮยอนกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนจากพื้น ทุกครั้งที่เขารู้สึกตัวหลังจากปล่อยให้จิตใต้สํานึกดําดิ่งลึกลงไปในห้วงความคิด เขามักนึกเสียใจภายหลังที่ตัวเองปล่อยให้เวลาอันมีค่าสูญเปล่าไป

 

[คุณได้รับคะแนนความสําเร็จ 200,000 คะแนน]

 

[คุณบรรลุความสําเร็จระดับสูงสุด]

 

[คุณเคลียร์การทดสอบชั้นที่ 31 ได้อย่างสมบูรณ์]

 

[กําลังประเมินอันดับความสําเร็จ]

 

[คุณได้อันดับ 1]

 

[…]

 

“ลุยชั้นถัดไปต่อเลยก็แล้วกัน”

 

ร่างกายของซูฮยอนเริ่มพร่ามัว ก่อนอันตรธานหายไปจากโลกชั้นที่ 31

 

****************

 

ปี 2021

 

โลกมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

-คุณคิดจริงๆหรือว่าอัตราการเกิดดันเจี้ยนในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ? และจํานวนผู้ตื่นขึ้นล่ะ? เพิ่มขึ้นตามดันเจี้ยนหรือป่าว? หากนําไปเทียบกับปีก่อนๆ โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก

 

-ทุกคนลองดูกราฟนี้สิ ปี 2017 และ ปี 2018 อัตราการเกิดดันเจี้ยนยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว แต่หลังจาก ปี 2019 เป็นต้นไป กราฟการเกิดดันเจี้ยนเริ่มพุ่งทะยานขึ้นอย่างมีนัยแอบแฝง โดยเฉพาะ ปี 2020 กราฟสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด กราฟที่เอามาให้ดูเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น รู้อะไรไหม ยิ่งอัตราการเกิดดันเจี้ยนสูงขึ้น ดันเจี้ยนที่มีความยากสูงกว่าระดับสีเหลือง ก็พอกพูนตามไปด้วยเช่นกัน

 

-หากเหตุการณ์ยังเป็นอย่างงี้ต่อไป โลกทั้งใบจะล่มสลายในอีกไม่นาน

 

ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ของโลกมีออกมาให้อ่านเรื่อยๆ

 

แต่ทฤษฎีสมคบคิดทั้งหลายแหล่ เริ่มมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะปี 2021 อัตราการเกิดดันเจี้ยนก้าวกระโดดมากกว่าปี 2020 หลายเท่าตัว

 

สื่อมวลชนหลายสํานักประโคมข่าวเกี่ยวกับการระบาดดันเจี้ยนให้ประชาชนทั่วไปทราบอย่างสม่ำเสมอ

 

ทําให้การระบาดของดันเจี้ยนมีความคิดเห็นแบ่งแยกเป็น 2 ฝ่าย

 

ฝ่ายแรก คิดว่าดันเจี้ยนเปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่จะนําพาโลกมนุษย์สู่การล่มสลาย

 

ฝ่ายสอง คิดว่าดันเจี้ยนคือทรัพยากรแห่งใหม่ของมนุษย์ ที่จะนําพาโลกมนุษย์สู่ความเจริญก้าวหน้า

 

ไม่ว่าผู้คนจะเลือกอยู่ฝ่ายไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจริงๆ…

 

*******

 

“น่าพึ่งใช่ไหมล่ะ? รู้ไหม ตึกนี้เป็นตึกแห่งแรกของโลกที่มีความสูงมากถึง 200 ชั้น แค่ความสูงเพียงอย่างเดียวก็ปาเข้าไป 3,000 ฟุตแล้ว”

 

ชายหนุ่มมาดสํารวย มีผมสีบลอนด์ทอง สวมใส่แว่นกันแดดกรอบทอง สังเกตจากสรีระภายนอกเขาเหมือนชายอายุ 30 กลางๆ การแต่งกายของเขาใส่ของแบรนด์เนมหรูหราระดับไฮเอนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

ตลอดชีวิตของคนรากหญ้าคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสหรือสวมใส่ของแบรนด์เนมทั้งตัวเหมือนชายหนุ่มตรงหน้าแน่แท้

 

ชายหนุ่มคนดังกล่าวกําลังขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ช่วงที่ลิฟต์กําลังออกตัวเขาหันหน้าไปพูดกับเธอต่อ

 

“นับวันโลกเราพัฒนาไปเร็วจริงๆ เธอเห็นลิฟต์ที่พวกเรากําลังโดยสารอยู่ไหม มันเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะขึ้นบนหรือลงล่าง แต่ตัวลิฟต์กลับไม่มีแรงสั่นสะเทือนเลย แม้แต่เสียงก็ไม่มีเธอคิดว่าเทคโนโลยีแบบนี้ ในโลกของเราเคยมีมาก่อนหรือปาว”

 

“ไม่รู้สิ แต่ทั้งหมดคงเป็นเพราะหินอีเธอร์นั้นแหละ ใช่ไหมล่ะ?”

 

“ถูกต้อง ฉันลงทุนลงแรงไปเยอะพอสมควรกว่าจะได้มันมา”

 

“เธอลองเดาสิว่าฉันใช้หินอีเธอร์ไปทั้งหมดกี่ก้อน ถึงสามารถสร้างตึกแห่งนี้ให้เสร็จสมบูรณ์?”

 

“ตามความคิดเห็นของฉัน ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของหินอีเธอร์ทั้งหมดที่มีการค้นพบในสหรัฐอเมริกาใช่ไหม?”ผู้หญิงคนนั้นตอบคําถามของชายหนุ่มผมบลอนด์อย่างมีชัย

 

อเมริกาขึ้นชื่อลือชาเรื่องดันเจี้ยนมากกว่าประเทศอื่นๆ เพราะในแผ่นดินอเมริกามีดันเจี้ยนเกิดขึ้นถี่มาก แต่การกล่าวว่าหินอีเธอร์ในอเมริกามากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ถูกนํามาใช้สร้างตึกแห่งนี้ ปาวกรอกหูให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ พูดแบบไม่อ้อมค้อมสําหรับคนทั่วไปมันยากต่อจินตนาการ หินอีเธอร์มีมูลค่าสูงสามารถนําไปอะไรได้หลายอย่าง แต่กลับมีคนกล้านําหินอีเธอร์มาสร้างเป็นสิ่งปลูกสร้างเนี่ยนะ?

 

“สําหรับฉันที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนปราสาททองคํา” ผู้หญิงคนนั้นพูดโพล่งความประทับใจที่มีต่อตึกแห่งนี้ออกมาอย่างสัตย์จริง

 

ชายหนุ่มที่ได้ยินดังนั้นก็คลี่ยิ้มฉายเฉิดออกมา คงเป็นเพราะการเปรียบเทียบของเธอเหมือนกับสิ่งที่เขาคิดไว้กระมัง “ปราสาททองคํางั้นเหรอ ฟังดูเข้าท่าดี”

 

ลิฟต์พุ่งทะยานขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะชะรอความเร็วและหยุดกึก

 

ลิฟต์พาพวกเขาสองคนไปยังชั้นสูงสุดของตึก เมื่อก้าวออกมาจากลิฟต์สิ่งที่ต้อนรับการมาของพวกเขาเป็นอย่างแรกคือรูปปั้นทองคําที่มีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับชายผมบลอนด์

 

ด้านล่างฐานรูปปั้นมีชื่อผลงานสลักเอาไว้อย่างประณีต

 

[ราชันและเทพเจ้า กอร์ดอนโรฮัน]

 

ถ้อยคําที่ระบุไว้ตรงฐานรูปปั้นบ่งบอกถึงความอหังการและความหยิ่งผยองอย่างแท้จริง และถ้อยคําดังกล่าวถูกสํานักข่าวตีความหมายไปในทิศทางเดียวกันนั่นก็คือ กอร์ดอนโรฮันดิ้นรนขวนขวายความแข็งแกร่ง เพื่อให้ตัวเองมีความสามารถใกล้เคียงกับคําว่า “ราชัน” และ “เทพเจ้า” มากที่สุด

 

หากเขายังมีชีวิตอยู่ คนที่เป็นเบอร์ 1 ของโลก ต้องเป็นเขาเท่านั้น

 

ผู้หญิงที่เดินมากับชายผมบลอนด์มีชื่อว่า แอชลิน เธอคือผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ชาวอเมริกาและยังทํางานให้กับสํานักงานผู้ตื่นขึ้นของทางอเมริกาอีกด้วย เธอจ้องมองไปยังกอร์ดอนโรฮันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยประทับใจนัก

 

“ดูเหมือน คุณจะชอบคําเยินยอของประชาชนเหลือเกิน”

 

“เธอพูดถูก ก็มันเป็นความจริงไม่ใช่เหรอ?” กอร์ดอนโรฮันตอบกลับอย่างฉับพลัน โดยไม่มีทีท่ากระดากอาย

 

“เพราะฉันคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดยังไงล่ะ”

 

แววตาแก่นแก้วของกอร์ดอนโรฮันค่อยๆจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยแววตาแน่วแน่

 

คนที่ยอดเยี่ยมที่สุด

 

ทุกครั้งที่เขาพูดคํานั้นออกมา ปฏิกิริยาของกอร์ดอนโรฮันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเสมอ ราวกับว่าเขาหมกมุ่นอยู่กับการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ผิดที่เขาจะมีความมั่นใจสูงปานนั้น เพราะเขามีความสามารถมากพอที่จะพูดคํานั้นออกมา บนโลกนี้แทบไม่มีผู้ตื่นขึ้นคนไหนสั่นคลอนความมั่นใจของเขาได้

 

“เลยกลายเป็นเหตุผล ทําไมนายถึงจัดงานอีเว้นท์นี้ขึ้นสินะ?”แอชลินถาม

 

“งานอีเว้นท์? อ่อ เธอหมายถึงสงครามแก่งแย่งอันดับเหรอ?”

 

“ถ้าเธอหมายถึงงานอีเว้นท์นั้น เธอเข้าใจถูกต้องแล้ว”

 

โอกาสเหมาะสมที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาคือคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดมีแค่งานอีเว้นท์นี้เท่านั้น

 

“ไม่ใช่แค่ฉันที่คิดไปเองคนเดียว แต่อีกไม่นานคนทั่วโลกจะคิดเหมือนกับฉัน” กอร์ดอนโรฮันกล่าวและเดินไปบริเวณจุดชมวิวชั้นบนสุด

 

เขาก้มหน้ามองวิวด้านนอก ตึกที่เขาอยู่สูงที่สุดในละแวกนี้ ทําให้เวลามองต่ำลงไปด้านล่างจะมองเห็นทิวทัศน์สิ่งปลูกสร้างมากมายสร้างเรียงรายติดกัน

 

“คนทั่วโลกจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กอร์ดอนโรฮัน คือคนที่เก่งที่สุดในโลกและอยู่เหนือผู้อื่นทั้งหมด”

 

แอชลินตัวแข็งที่อ สาเหตุมาจากพลังเวทย์ที่กอร์ดอนโรฮันปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอกําลังแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้ แรงกดดันที่กอร์ดอนโรฮันปล่อยออกมาน่ากลัวอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้แต่ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S อย่างเธอก็ต้านทานแรงกดดันของกอร์ดอนโรฮันไม่ได้

 

<<การแข่งขันยังไม่เริ่มอย่างเป็นทางการ แต่เหมือนว่าผู้ชนะจะถูกกําหนดเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือไง?>>

 

แม้ว่าแรงค์ S จะใช้มาตรฐานเดียวกันในการประเมินความสามารถ แต่ก็มีแรงค์ S บางคนมีความสามารถล้ำหน้ากว่าแรงค์ S ในระดับเดียวกัน ตัวตนของพวกเขาราวกับว่าหลุดออกมาจากอีกมิติหนึ่ง

 

ร่างกายของแอชลินยังคงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามควบคุมให้ร่างกายกลับสู่สภาวะปกติ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงตัดใจและฝืนก้าวเท้าไปยืนอยู่ข้างกอร์ดอนโรฮัน

 

“ห้า สี่ สาม…” กอร์ดอนโรฮันก้มหน้ามองลงไปเบื้องล่าง จู่ๆเขาก็โพล่งนับเลขถอยหลัง

 

วันนี้อากาศภายนอกค่อนข้างปลอดโปร่ง จึงไร้หมู่เมฆบดบังทัศนวิสัย

 

“สอง หนึ่ง”

 

บัง!! ตูม!

 

ดอกไม้ไฟตระการตาระเบิดขึ้นเต็มท้องฟ้า

 

แสงสว่างวาบของดอกไม้ไฟส่องกระทบเข้าไปในตัวตึกที่พวกกอร์ดอนโรฮันยืนอยู่

 

ดอกไม้ไฟหลายลูกจุดชนวนมาจากชั้นล่างสุด และดอกไม้ไฟแต่ละลูกมีมูลค่าสูงหลายสิบล้านดอลลาร์ ความสวยงามของพวกมันเมื่อแตกตัวออกจากกันไม่จําเป็นต้องพูดถึง สวยงามถึงขั้นที่ว่าดึงดูดให้ผู้มองเคลิบเคลิ้มไปกับมันได้อย่างลืมตัว การแตกตัวของบรรดาดอกไม้ไฟส่งเสริมให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวประเดี๋ยวประดําว

 

เมื่อมองลงไปยังดอกไม้ไฟที่ระเบิดแตกตัวอยู่บริเวณใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา ก็แสดงให้เห็นว่าจุดที่พวกเขา 2 คนยืนชมดอกไม้ไฟอยู่สูงเพียงใด

 

แอชลินพึมพําออกมาเบาๆขณะสายตามองดูดอกไม้ไฟที่ค่อยๆมอดดับลง “เดือนธันวาคมแล้วเหรอเนี่ย”

 

ดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นวันนี้ ไม่ได้จุดเพื่อต้อนรับวันปีใหม่ แต่จุดเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงถึงการมาเยือนของเดือนธันวาคม ซึ่งภายในเดือนธันวาคมจะมีงานอีเว้นท์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้น

 

“นั่นสิ เวลาเดินเร็วจริงๆ” กอร์ดอนโรฮันตอบคําพูดของแอชลินด้วยรอยยิ้มกริมและมองออกไปด้านนอกเหมือนเดิม

 

“และม่านของสงครามแก่งแย่งอันดับ กําลังจะแง่มขึ้นในอีกไม่นาน”

 

วันคืนที่เขาตั้งตาคอยในที่สุดก็มาถึงเสียที

 

วันที่แรงค์ S มากหน้าหลายตาจากทั่วมุมโลกมารวมตัวในสถานที่เดียวกัน

 

เพื่อให้เป้าหมายสําเร็จและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เขาถึงกับลงแรงจัดการเคลียร์ดันเจี้ยนที่อยู่บริเวณรอบๆออกไปจนหมด เพราะต้องการป้องกันไม่ให้มีดันเจี้ยนระดับสูงกว่าสีเขียวเกิดขึ้น จนพาบรรยากาศงานกร่อย

 

เขาเชื่อว่าสิ่งที่ลงมือทําไปทั้งหมดจะสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาชมงานอีเว้นท์สงครามแก่งแย่งอันดับได้ไม่มากก็น้อย เผลอๆจํานวนคนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับงานอาจมากที่สุดในประวัติการณ์ของงานอีเว้นท์ทั้งหมดก็ได้

 

ธันวาคม…

 

ดอกไม้ไฟที่เป็นเครื่องหมายเริ่มต้นสงครามแก่งแย่งอันดับชุดใหม่จุดชนวนออกมาอีกครั้ง

 

โชว์ดอกไม้ไฟเสริมสร้างบรรยากาศยามค่ำคืนดังติดต่อกันอีกหลายชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆซาลง

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

—Pngtree—the-early-autumn-of-shaolin_4208055-696×391
เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]
15 กรกฎาคม 2022
องค์หญิงหมอเทวะ
องค์หญิงหมอเทวะ World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess
15 กรกฎาคม 2022
godoffish1b
God of Fishing
28 ตุลาคม 2022
The-Wizards-Secret-Picture
A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด
15 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 122"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF