กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 360 ไปให้พ้น ตอนที่ 361 ไปหาผู้หญิงข้างนอก
ตอนที่ 360 ไปให้พ้น
พบว่ามันคือข้อความของเฉิงเฮ่า ในใจของเธอยิ่งโมโห
เปิดข้อความขึ้นมาดู พบว่าเฉิงเฮ่านัดเจอเธอ หลังจากครุ่นคิดแล้ว ฉู่อีอีตัดสินใจไปตามนัด
พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เพิ่มภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับดินแดนนี้
เวลาสองทุ่ม เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ขับรถกลับบ้าน แต่ขับรถไปที่บาร์ทันที
ที่บาร์ร้องรำทำเพลง ไฟหลากสีส่องสลับไปมาไม่หยุด ชายหนุ่มและหญิงสาวบนฟลอร์เต้นรำกำลังเต้นอยู่ตลอดเวลา สีหน้ามีความสุข ตอนนี้ในบาร์มีคนไม่มากนัก เวลาเที่ยงคืนต่างหากที่เป็นช่วงเวลาสูงสุดของบาร์
เผยหนานเจวี๋ยเข้าไปที่เคาน์เตอร์บาร์และนั่งลง สั่งเหล้าที่มีความเข้มข้นสูงสุดกับบาร์เทนเดอร์ทันที อยู่ดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าอยู่ที่บาร์นั้น
ดวงตาที่มืดมนเต็มไปด้วยลมหายใจเยือกเย็นสุดขีด ถ้าหากมองดูดีๆ แล้ว ยังสามารถเห็นความสิ้นหวังในแววตาส่วนลึกของเขา
เอื้อมมือยกแก้วเหล้าขึ้น เงยหน้า แก้วเหล้าว่างเปล่าทันที
บาร์เทนเดอร์เห็นว่าเขาดื่มเหล้าในแก้วหมดแล้ว ก็ยื่นให้เขาอีกแก้ว
ที่บาร์ เผยหนานเจวี๋ยดื่มอย่างต่อเนื่อง บาร์เทนเดอร์เก็บแก้วเหล้าที่ว่างเปล่าของเขาอย่างเอาใจใส่ แล้วเปลี่ยนแก้วใบใหม่ให้เขาอย่างรวดเร็ว
ยิ่งดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ สมองก็เริ่มมีอาการร้อนผ่าว ความมืดมนปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ความคมกริบน้อยลงกว่าปกติ
ที่ไม่ไกลนัก มีผู้หญิงคนหนึ่งจ้องมองเผยหนานเจวี๋ยอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าตอนนี้เขากำลังเมาได้ที่แล้ว ก็เดินเข้ามาหาเขา “คุณคะ จะขอเลี้ยงคุณสักแก้วจะได้ไหม”
บาร์เทนเดอร์เห็นผู้หญิงที่เดินเข้ามากะทันหัน ส่งสายตาดูถูกให้เธอ เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้า เห็นผู้หญิงที่ปรากฏตัวตรงหน้าฉับพลัน และในมือของเธอกำลังถือเหล้าแก้วหนึ่ง ในเวลานี้แก้วนั้นกำลังยื่นมาตรงหน้าของเขา
ยื่นมือรับแก้วเหล้าในมือของผู้หญิงคนนั้น เงยหน้าดื่มรวดเดียวหมด “รสชาติไม่เลว”
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินแล้วรู้สึกเบิกบานใจ กล้าขึ้นมาอีกหน่อย เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงยั่วยวน “งั้นฉันจะรินให้อีกนะ?”
เผยหนานเจวี๋ยได้กลิ่นหอมของผู้หญิงคนนั้น สายตาเริ่มพร่ามัวเล็กน้อย มองดูเธอราวกับว่าเห็นฉู่เจียเสวียนกำลังส่งยิ้มให้เขา ริมฝีปากยกยิ้ม เสียงที่เปี่ยมด้วยแรงดึงดูดดังออกมาจากปากของเขา “คุณป้อนผมสิ”
ผู้หญิงคนนั้นยิ่งได้ใจกว่าเดิม รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ “คุณอยากดื่มแบบไหน”
เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือชี้เหล้าส่งเดช จากนั้นก็เหยียดยื่นมือกอดผู้หญิงคนนั้น อ้าปากดื่มเหล้าที่เธอยกขึ้นจรดปากของเขา
เห็นเผยหนานเจวี๋ยทีกำลังเมาได้ที่ ผู้หญิงคนนั้นเริ่มได้ใจ ยกมือขึ้นต้องการจะลูบคลำหน้าอกของเขา จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยราวกับสร่างเมา ผลักเธอออกไปทันที ผู้หญิงคนนั้นออกจากอ้อมอกของเขา และเซไปข้างหลังสองก้าวโดยไม่ทันตั้งตัว
บาร์เทนเดอร์เห็นดังนี้ แสยะยิ้มด้วยความรังเกียจ ราวกับเขารู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นโกรธพร้อมเดินย่ำเท้ามาหาเผยหนานเจวี๋ยอีกครั้ง ถึงอย่างไรเขาก็ดื่มจนเมาขนาดนี้แล้ว เธอยังกำราบเขาไม่ได้อีกเหรอ
“คุณคะ คุณไม่อยากให้ฉันดื่มเป็นเพื่อนแล้วเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นเดินไปข้างๆ เผยหนานเจวี๋ย พูดด้วยเสียงอันไพเราะ
ท่าทางที่ระมัดระวังนั้นทำให้เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกสนใจ ตวัดนิ้วเรียกเธอ และกอดอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง
เธอป้อนเหล้าเผยหนานเจวี๋ยแก้วแล้วแก้วเล่า ในใจเพียงต้องการจะมอมเขา
มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่ตอนนี้เมามายมากขึ้นกว่าเดิม สายตาของเธอมีความตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง ยื่นมือดึงๆ แขนเสื้อของเผยหนานเจวี๋ย “คุณคะ คุณเมาแล้ว ฉันส่งคุณกลับไปพักผ่อนดีไหม”
เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของเธอ ดวงตาที่พร่ามัวในตอนแรกเบิกกว้างทันที แววตาคมกริบ จ้องผู้หญิงคนนั้นเขม็งพร้อมพูดขึ้นเย็นชา “ไปให้พ้น!”
ตอนที่ 361 ไปหาผู้หญิงข้างนอก
สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกสับสนเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นตกใจ เมื่อเห็นสายตาที่เยือกเย็นของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ตัวของเธอก็สั่นอย่างรุนแรง ในที่สุดก็จากเขาไปอย่างไม่เต็มใจแล้ว
เธอเสียเวลาทั้งคืนเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเขา เพื่อต้องการมีความสัมพันธ์กับเขา คิดไม่ถึงว่าเขาจะพลิกหน้าได้เร็วกว่าพลิกหนังสือเสียอีก!
เผยหนานเจวี๋ยออกมาจากบาร์ ตอนที่กลับถึงวิลล่าก็เป็นเวลาตีสามครึ่งของตอนเช้าแล้ว
เปิดประตูเข้าบ้าน เปิดไฟในห้องรับแขก เดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้องรับแขก เห็นฉู่อีอีที่กึ่งพิงอยู่บนโซฟา เขาหยุดเดิน มองดูใบหน้าที่หลับใหลของฉู่อีอี
ฉู่อีอีขมวดคิ้วแล้วลืมตา แสงไฟที่แยงตาทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย “หนานเจวี๋ย คุณกลับมาแล้วเหรอ”
หลังจากปรับเข้ากับแสงได้แล้ว ฉู่อีอีลุกขึ้นยืนทันที มองดูเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ยปาก แววตามีรอยยิ้ม เธอนั่งรอเขาอยู่บนโซฟามาเจ็ดแปดชั่วโมงแล้ว
“ทำไมคุณมานอนตรงนี้” เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้วถาม
ฉู่อีอีเดินเข้ามาหาเผยหนานเจวี๋ย จมูกได้กลิ่นเหล้าทันที ทันใดนั้นอารมณ์ของเธอหล่นวูบ
เธอรอเขาที่บ้านนานขนาดนั้น เขาเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอกงั้นเหรอ
“ทำไมบนตัวของคุณถึงมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง คุณไปหาผู้หญิงข้างนอกเหรอ” ฉู่อีอีถามตำหนิ แววตาเจ็บปวด
เผยหนานเจวี๋ยถูกฉู่อีอีกวนจนปวดหัวอย่างแรง ยกมือขึ้นนวดๆ คิ้ว “คุณเงียบสักทีได้ไหม”
“หนานเจวี๋ย ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้” ความโกรธของฉู่อีอีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เธอจะเงียบได้ยังไง
ไม่รอเผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก ฉู่อีอีพูดขึ้น “ฉู่เจียเสวียนใช่ไหม คุณพูดสิ คืนนี้คุณไปอยู่กับเขาแล้วใช่ไหม”
ได้ยินฉู่อีอีพูดถึงฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋นรู้สึกรำคาญใจ ยื่นมือสะบัดมือของเธอออก “คุณอย่าเดาส่งเดช และอย่าพูดถึงเขาอีก”
นึกถึงวันนี้ทีออฟฟิศ คำที่ฉู่เจียเสวียพูดกับเขา ‘คุณเผยคะ ตอนนี้พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว’
‘ตอนนี้แฟนของฉันชื่อกงจวิ้นฉือ รบกวนคุณให้เกียรติกันหน่อย’
ทุกคำพูดทุกประโยคของฉู่เจียเสวียนดังก้องอยู่ในหัวของเขาอย่างชัดเจน
“งั้นคือใคร คุณพูดสิ!” ฉู่อีอีเอ่ยปากอย่างไม่ลดละ ยื่นมือดึงแขนเสื้อของเขาอีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำ
ยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม เผยหนานเจวี๋ยยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม จ้องเธอด้วยความหงุดหงิด ชักมือกลับอย่างไร้ปรานี “อย่าแตะต้องผม”
เห็นได้ชัดว่าฉู่อีอีไม่ได้คาดหวังว่าเผยหนานเจวี๋ยจะถอนมือของเขาออก ทันใดนั้นเธอก็ทรุดตัวลงไปกับพื้น
เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีที่นั่งลงไปกับพื้น เพียงแค่ชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา ไม่ได้รู้สึกปวดใจ และไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรือไม่ หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว
ฉู่อีอีมองดูเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่เดินตุปัดตะเป๋ ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น แววตาเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง
เธอคิดมาตลอดว่าเขาไม่มีวันหักหลังเธอ แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะกลายเป็นแบบนี้ โหดร้ายกับเธอเพียงนี้
เดิมทีเธอมักจะรู้สึกผิดที่มีความสัมพันธ์กับเฉิงเฮ่าเสมอมา แต่ว่าตอนนี้ความรู้สึกผิดในใจของเธอนั้นได้หายไปแล้ว
แสงไฟสลัวทำให้เงาของฉู่อีอีเหยียดยาวขึ้น จ้องมองทิศทางที่เผยหนานเจวี๋ยหายไปเนิ่นนาน ครุ่นคิด เธอนึกว่าเธอทำมากมายขนาดนั้น นึกว่าจะได้หัวใจของเขามาแล้ว แต่ว่าตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนกลับมา เธอก็พบว่าดวงตาของเขาเป็นประกายทุกครั้งที่มองฉู่เจียเสวียน
ทำไมผู้ชายถึงเปลี่ยนใจได้ง่ายแบบนี้
ทั้งๆ ที่เขาชอบเธอเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้หัวใจของเขาถูกฉู่เจียเสวียนเอาชนะได้รวดเร็วขนาดนั้นเชียวหรือ
ท่าทางที่เผยหนานเจวี๋ยโอบกอดกับผู้หญิงคนอื่นผุดขึ้นมาในหัว ความไม่สบายใจยิ่งหนักอึ้งขึ้น
ทำไมระหว่างพวกเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้กันแน่