กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 129
บทที่ 129 ชวน
สายเรียกเข้าจากกัวเหลียงไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่เป็นเพราะว่าสหายคนนี้ไม่สามารถที่จะอดทนต่อความเดียวดายได้ และต้องการที่จะออกไปเที่ยวกลางคืน
ฮวงเฟิงคิดอยู่ชั่วครู่ในเมื่อไม่มีอะไรจะต้องทำอยู่แล้ว เขาจึงตกลง
แต่อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงไม่รู้ว่ากัวเหลียงได้เรียกให้เขามาทำไม
เมื่อเขามาถึงที่บาร์เขาก็พบเพียงกัวเหลียงและโจวหรูหรานอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
“นี่พวกนายจะไม่ปล่อยให้ฉันมาเป็นมือที่สามเลยใช่ไหมเนี่ย?”เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างกัวเหลียงและโจวหรูหรานนั้นดีอยู่แล้วและสำหรับฮวงเฟิงเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นแค่เรื่องกระเซ้าเย้าแหย่กัน
“ไม่มีทางนี่ก็ยังไม่มีใครมาเลย” กัวเหลียงกล่าว
“คงจะไม่ใช่กัวเมิ่งหานหรอกนะใช่ไหม?” ฮวงเฟิงกล่าว
“คำตอบของคุณถูกต้องแล้วเด็กน้อย นี่แกคิดถึงฉันใช่ไหม? แกเดาเอาจากสิ่งที่ฉันพูดใช่ไหม?” กัวเหลียงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ฮวงเฟิงกรอกตาและกล่าวว่า“ถ้าฉันรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ฉันคงจะมาพร้อมกันกับเธอนั่นแหละ”
“แกหมายความว่ายังไง?”กัวเหลียงถามด้วยความสงสัย
ในเวลานี้นั้นกัวเมิ่งหานก็มาถึงทันเวลา สายตาของกัวเหลียงนั้นกวาดมองคนทั้งสองขณะที่เขากำลังคิดว่ามีนัยบางอย่างซ่อนอยู่ในคำพูดของฮวงเฟิง
“ฉันพักอยู่ที่เดียวกันกับเธอ”ฮวงเฟิงไม่ได้ปิดบังอะไรเขา
“ห๊า!”กัวเหลียงและโจวหรูหรานต่างพากันตกใจด้วยกันทั้งคู่
กัวเหลียงมองดูฮวงเฟิงและกล่าวว่า“แล้วนายย้ายไปตั้งแต่เมื่อไร? ทำไมฉันถึงไม่รู้เลย?”
คนทั้งสองติดต่อกันอย่างเป็นประจำดังนั้นกัวเหลียงรู้มาตลอดว่าฮวงเฟิงนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไกลออกไป
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่เอ่ยปากที่จะช่วยฮวงเฟิงแต่เป็นเพราะฮวงเฟิงเองที่ไม่เคยเห็นด้วย
ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆฮวงเฟิงจะย้ายบ้านอย่างเงียบๆ ในตอนนี้?
ไม่เพียงแค่นั้นเขายังไปอยู่ที่เขตเดียวกันกับกัวเมิ่งหานอีกด้วย
“ฉันเพิ่งจะย้ายมาวันนี้เอง”ฮวงเฟิงหัวเราะเบาๆ และกล่าวออกมา
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่านายย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านของเธอ?นี่นายตั้งใจงั้นเหรอ?” กัวเหลียงพูดขณะที่เขามองดูฮวงเฟิงพร้อมกับจะยิ้มก็ไม่เชิง
ใบหน้าของกัวเมิ่งหานแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อยเพราะเธอเข้าใจความหมายของกัวเหลียง
จริงๆแล้วเมื่อตอนที่เธอพบกับฮวงเฟิงเมื่อตอนบ่าย ในใจของเธอเองนั้นก็สงสัยเช่นกัน
“ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันไปส่งเธอกลับบ้านฉันก็ได้มองดูพื้นที่พักอาศัยรอบๆ ไว้อยู่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เลวนักและมันก็ใกล้ที่ทำงานของฉันด้วย ดังนั้นฉันก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่” ฮวงเฟิงอธิบาย
“เหตุผลแค่นั้นจริงๆหรือ?” เห็นได้ชัดว่ากัวเหลียงนั้นไม่เชื่อเขา
“เอาล่ะพวกเรามาสั่งอะไรกันก่อนดีกว่า กินไปคุยไปก็ได้” โจวหรูหรานที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นกัวเมิ่งหานเขินอายจึงได้เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาในทันที
“ใช่ใช่ สั่งมาสักสองสามอย่าง อาหารวันนี้เพื่อเลี้ยงฉลองให้เจ้าบ้า และนี่เป็นรางวัลของแก” กัวเหลียงกล่าวขึ้นมาทันที
“ไม่มีปัญหา”ฮวงเฟิงกล่าว ในที่สุดเขาก็ย้ายออกมาจากที่นั่นแล้ว และมันก็น่าจะเป็นเวลาสำหรับการเลี้ยงฉลองจริงๆ นั่นแหละ
จริงๆแล้ว วัตถุประสงค์ของการมารวมตัวกันในวันนี้ก็เพื่อให้กัวเหลียงและโจวหรูหรานได้สนทนากัน และจุดประสงค์หลักก็คือจับคู่ให้ฮวงเฟิง
ตามสถานการณ์ก่อนหน้านี้กัวเมิ่งหานเองก็ไม่ได้เกลียดฮวงเฟิงและยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขาเสียด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกัวเหลียงและโจวหรูหรานถึงอยากจะจับคู่ให้เขา
ในเวลาเดียวกันเป็นเพราะว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาทั้งคู่เป็นฮวงเฟิงและซูหยูโม่ไปปรากฏตัวอยู่ด้วยกันที่ห้าง
ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะอธิบายได้อย่างชัดเจนแต่คนทั้งคู่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
เพราะว่าฮวงเฟิงเป็นเพื่อนที่ดีกัวเหลียงจึงไม่อยากให้เพ้อฝันถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และในท้ายที่สุดก็คว้าไว้ได้เพียงแค่ลมเท่านั้น
แต่เพราะทั้งกัวเหลียงและโจวหรูหรานไม่คาดคิดว่าฮวงเฟิงจะย้ายบ้านในตอนนี้
แล้วยังย้ายมาอยู่ในเขตเดียวกับกัวเมิ่งหานอีกด้วย
ดังนั้นถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะได้อธิบายให้พวกเขาทราบแล้วแต่พวกเขาทั้งสองคนก็ยังไม่เชื่อและคิดว่าฮวงเฟิงเองก็ต้องคิดอะไรบางอย่างกับกัวเมิ่งหานเป็นแน่
ทั้งฮวงเฟิงและกัวเมิ่งหานนั้นเข้าใจสิ่งที่กัวเหลียงและโจวหรูหรานพูดไม่มากก็น้อยแต่คนทั้งสองก็ไม่ได้พูดออกมาดังๆ
ฮวงเฟิงรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นและยิ่งไปกว่านั้นยิ่งเขาแก้ตัวมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะทำให้กัวเมิ่งหานเจ็บปวด
แต่กัวเมิ่งหานเองไม่ได้อธิบายอะไรเพราะรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
แน่นอนว่าเป็นเพราะว่าเธอเองนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดฮวงเฟิงเช่นกันและยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเขาด้วยซ้ำ
ถ้าคนทั้งสองพยายามลองปรับตัวเข้าหากันเธอเองก็คงจะไม่ยากนักที่จะยอมรับเขา
ในขณะที่ฮวงเฟิงและอีกสามคนกำลังกินดื่มกันอยู่ที่บาร์นั้น
ซูหยูโม่ก็ได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยเมิ่งเจียวว่าเธอนั่งเครื่องกลับมาวันนี้และซูหยูโม่ก็ได้ขับรถไปรับเธอที่สนามบิน
”นี่มันน่าโมโหนักไอ้พวกสารเลวนั่นหลอกฉันมาตั้งนานแล้ว” ภายในสนามบินหลังจากที่ซูหยูโม่รับเพื่อนแล้ว เธอก็ขับรถกลับ
เมื่อพวกเขาขึ้นรถเซี่ยเมิ่งเจียวก็เริ่มบ่น เห็นได้ชัดว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นที่นั่น
“ฉันไม่ได้บอกเธอก่อนว่าถ้าเธอทำไม่ได้เธอก็สามารถกลับมาได้งั้นหรือ? ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราและมันก็น่าเสียดายถ้าเราจะเสียเขาไป แต่ถ้าหากเธอยังคงรบกวนเขาต่อไปแม้จะรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ก็เท่ากันเธอกำลังสร้างปัญหาอยู่นะ” ซูหยูโม่กล่าว
“ฉันยอมไม่ได้”เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวว่า: “ฉันไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก่อนหน้านี้ความร่วมมือของเรานั้นดีมากไม่ใช่หรือ? และในตอนนี้ออคิดบีนกรุ๊ปก็ได้ก้าวเข้ามาและทิ้งเราไว้ในฝุ่น นี่มันมากเกินไปแล้ว”
”มันไม่มีอะไรมากไปกว่าผลประโยชน์หรอก”ซูหยูโม่วิเคราะห์ว่า:“ เป็นไปได้ไหมว่าออคิดบีนกรุ๊ปได้ให้สัมปทานจำนวนไม่น้อยเพื่อที่จะโจมตีพวกเรา ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องแปลกใจเลย”
”ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นแหละ”เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวว่า: “เดิมทีฉันอยากจะอยู่ให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่วันนี้ฉันพบว่าพวกนั้นกำลังพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือใหม่กับออคิดบีนกรุ๊ป และมีความคืบหน้าของการเจรจามาก ดังนั้นฉันจึงรีบกลับมา”
“กลับมาก็ดีเหมือนกันเราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนและถูกอีกฝ่ายจับได้อย่างไม่ได้เตรียมตัว ต่อไปนี้พวกเราจะจัดการกับพวกเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาจะเอาเปรียบเราง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้” ซูหยูโม่กล่าวอย่างมั่นใจ เธอและเซี่ยเมิ่งเจียวได้พัฒนาเฮฟเว่นส์ไพรด์กรุ๊ปมาเป็นอย่างดีในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่มีความสามารถ
”ใช่ถูกต้อง” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวด้วยความมั่นใจ: “โอ้ ใช่ฉันได้ยินมาว่าพวกที่เกลียดชังเราพวกนั้นโจมตีผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรางั้นเหรอ?”
”ใช่พวกเขาติดสินบนคนของเราคนหนึ่งและเกือบจะประสบความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามพวกเราาก็ยังหยุดได้ทันเวลา” ซูหยูโม่กล่าว
”คนพวกนี้น่ารังเกียจจริงๆไม่มีทาง พวกเราต้องหาโอกาสโจมตีพวกเขาด้วย” เซี่ยเมิ่งเจียวผู้ที่ไม่เคยต้องทนทุกข์กับการสูญเสียและไม่สามารถอดทนได้ ตอนนี้เธอทุกข์ทรมานมาก แล้วเธอจะยอมแพ้โดยไม่รั้งอะไรไว้ได้อย่างไรกันเล่า?
“ตราบใดที่ผลิตภัณฑ์ของเราออกขายมันก็จะเป็นการโต้กลับที่ดี” ซูหยูโม่กล่าว
“ฉันเองก็รู้เรื่องนั้นดีแต่ฉันแค่รู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับคำพูดเหล่านั้น พาฉันไปหาอะไรดื่มหน่อยสิ” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว
“นี่เธอจะไม่กลับบ้านไปก่อนงั้นหรือ?”ซูหยูโม่ถาม
“ไม่ล่ะตรงไปที่บาร์เลยดีกว่า” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวตอบ