กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี - บทที่ 408 ไม่ใช่สายเลือด
บทที่ 408 ไม่ใช่สายเลือด
บทที่ 408 ไม่ใช่สายเลือด
เนื่องจากเซี่ยชิงหยวนกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอจึงรู้สึกง่วงนอนเร็วกว่าปกติ
ที่ชั้นล่าง เสิ่นอี้โจวพาปี่ฟู่หมานและเสิ่นอี้หลินไปดูบรรยากาศของวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนปี่เหลาซานนั่งกับพวกเขาสักพักแล้วกลับเข้าไปในห้อง
เซี่ยชิงหยวนหลับใหลไปเพราะความง่วงนอน แต่เธอก็ถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงประทัดอย่างกะทันหัน
เธอขยี้ตาแล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง
ได้ยินเสียงประทัดดังขึ้นนอกหน้าต่าง และบางคนก็จุดพลุดอกไม้ไฟ ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวขึ้นมา
มันเป็นวันตรุษจีนแล้วสินะ
ขณะที่ตกอยู่ในภวังค์ เธอก็ตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นจากคนที่อยู่ข้างหลังเช่นกัน
เสิ่นอี้โจวโน้มตัวเข้าใกล้ใบหูแล้วกระซิบแผ่วเบา “สวัสดีปีใหม่ครับ”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “สวัสดีปีใหม่ค่ะ”
เสิ่นอี้โจวพูดต่อ “คืนนี้อาจารย์และฟู่หมานบอกว่านี่คือปีใหม่แรกของพวกเขาที่สุขสบายและมีชีวิตชีวาขนาดนี้น่ะ พวกเขาให้ผมขึ้นมาพูดขอบคุณกับคุณสำหรับปีใหม่ที่ดีครั้งแรกนี้ด้วย”
ขณะเดียวกัน ปี่เหล่าซานก็ถอนหายใจขณะที่ดูปีใหม่อยู่ชั้นล่าง
เซี่ยชิงหยวนยิ้มกว้าง “ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณสำหรับการให้ฉันอยู่บ้านที่ดีแบบนี้ และคุณยังใจดีกับอาจารย์ของฉันมากด้วย”
เสิ่นอี้โจวดึงเธอเข้ามาใกล้อ้อมแขน “ผมรักคุณ แน่นอนว่าผมก็ต้องดีกับพวกเขาด้วยสิ”
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาน
เธอเปิดผ้าห่มและคลุมเสิ่นอี้โจวเข้าไป เงยหน้าขึ้นพลางจูบมุมปากของสามี “ฉันก็รักคุณเหมือนกัน”
ใบหน้าของเสิ่นอี้โจวยิ้มอย่างพึงพอใจ “ถ้าอย่างนั้นภรรยาที่รัก ผมควรจะได้รับรางวัลพิเศษใช่ไหม?”
เซี่ยชิงหยวนไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่เขาหมายถึงได้ และพูดด้วยความงุนงง “รางวัลอะไร?”
เสิ่นอี้โจวก้มศีรษะลงและจูบ “คุณไง”
เซี่ยชิงหยวนขยับปากพูดไม่ออกเพราะความประหลาดใจ เธอถูกเขารุกรานอีกแล้ว!
เธอกำเสื้อผ้าด้านหน้าของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง เธอรอคอยแต่ก็รู้สึกกังวลเช่นกัน
พวกเขาทั้งสองไม่ได้ร่วมรักกันมาสองเดือนแล้ว
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเสิ่นอี้โจวดังขึ้น “คนโง่ คุณตื่นเต้นจนลืมหายใจแน่ะ”
แก้มของเซี่ยชิงหยวนแดงก่ำทันที “เปล่าสักหน่อย!”
เสิ่นอี้โจวจับมือของภรรยาและประสานนิ้วกับเธอ “อย่ากลัวเลย ผมจะอ่อนโยนที่สุด”
เมื่อได้ยินแบบนี้เข้าไป เซี่ยชิงหยวนก็ยิ้มอย่างหยอกล้อ “คุณคิดว่านี่เป็นครั้งแรกของเราเหรอ?”
เสิ่นอี้โจว “…”
ฝ่ามือใหญ่ของเขาเอื้อมไปใต้ผ้าห่ม และขยับไปยังชายเสื้อ “ในเมื่อคุณพูดแบบนี้เราก็ไม่ต้องอดทนมากนักแล้วกัน”
เซี่ยชิงหยวนจับมือของเขาแล้วพูดว่า “แต่ยังไงก็ระวังหน่อยนะ”
เสิ่นอี้โจวจูบมุมปากของเธอ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
หลังจากพูดอย่างนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ถูกพลิกมาค่อมอยู่บนตัวของเขาแล้ว
มีประกายแสงอ่อน ๆ ออกมาจากนัยน์ตาของเขา ราวกับดวงดาวที่ระยิบระยับอย่างช้า ๆ “ท่านี้คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทับแล้ว”
เซี่ยชิงหยวนวางมือบนหน้าอกของเขา และมองออกไปข้าง ๆ อย่างเหนียมอาย “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว จะทำอะไรก็รีบทำ ๆ”
เสิ่นอี้โจวจับเอวเธอแล้วพูดว่า “ได้ครับ ที่รัก”
เซี่ยชิงหยวน “อื้ม…”
…
เดิมทีในวันที่สองของปีใหม่ ลูกสาวที่แต่งงานแล้วจะต้องกลับไปที่บ้านพ่อแม่ แต่เสิ่นอี้โจวรั้งเธอไว้ก่อน
เขาพูดว่า “เดี๋ยวอีกสองวันผลการทดสอบก็จะออกมาแล้ว ตอนนั้นผมจะกลับไปกับคุณด้วย”
อันที่จริงความคิดเดิมของเขาคือให้เซี่ยชิงหยวนรออยู่ที่มณฑลอวิ๋น ส่วนตัวเขาจะไปที่หมู่บ้านซิ่งฮวาเองเพื่อจัดการกับเรื่องนี้
แต่เซี่ยชิงหยวนปฏิเสธ “เรื่องนี้จะต้องสร้างความยุ่งยากครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ถ้าคุณไปคนเดียว ฉันเกรงว่าคนพวกนั้นจะรุมทึ้งคุณน่ะสิ ดังนั้นฉันจะกลับไป และอีกอย่าง ช่วงนี้คุณก็งานยุ่งมาก ถ้าคุณไม่ว่าง ฉันจะขอให้ฟู่หมานพาฉันกลับไปเอง”
ขณะเดียวกัน ตอนนี้เซี่ยเจิ้งกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในคืนวันส่งท้ายปีเก่าและยังไม่ฟื้นเลย
สถานการณ์ของเซี่ยเจิ้งในครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก ทุกคนบอกว่าได้ยินการทะเลาะกันระหว่างเซี่ยเจิ้งกับเซี่ยจื่ออี้ในคืนนั้น และเป็นเซี่ยจื่ออี้เองที่ทำให้เซี่ยเจิ้งโกรธมาก
เสิ่นอี้โจวพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าขาดผมไปสักคนแล้วทั้งมณฑลจะไม่สามารถทำงานกันต่อได้สักหน่อย นอกจากนี้ผมยังอยู่ในช่วงพักร้อน ผมอยากจะใช้เวลากับภรรยาของผมนะ”
ดังนั้นทั้งสองรอจนถึงวันที่สี่ของวันปีใหม่ ซึ่งฉู่ซิงอวี่ส่งรายงานผลการทดสอบมาให้
เซี่ยชิงหยวนเปิดซองกระดาษสีเหลืองแล้วดู รูม่านตาของเธอหดลง นิ้วของเธอกำกระดาษแน่น สีหน้าดูไม่ดีเลย
เมื่อเห็นแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็หยิบกระดาษรายงานมาดูเช่นกัน
ในตอนแรกเขายังคงคิดว่าโชคอาจเข้าข้างเซี่ยจิ่งเฉินบ้าง แต่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นอย่างที่เซี่ยชิงหยวนเดาไว้จริง ๆ
เซี่ยซือถงไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของเซี่ยจิ่งเฉิน
เขาเอื้อมมือออกไปจับมือของเซี่ยชิงหยวน “คุณจะทำอย่างไรต่อไป?”
เซี่ยชิงหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ฉันจะถามความเห็นของพี่รองก่อน หากเขาต้องการเก็บซือถงไว้ เราจะนำผลการทดสอบนี้ไปเจรจากับตระกูลจาง แต่ถ้าพี่รองไม่ต้องการเด็ก เราก็จะใช้ผลการทดสอบนี้ตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลจางไปซะ”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้าและพูดว่า “ตกลง ผมจะให้เสี่ยวฉู่จัดการเรื่องต่าง ๆ แล้วเราจะออกเดินทางกันในวันพรุ่งนี้เลย”
ฉู่ซิงอวี่ไม่ลังเลเลยแล้วตอบว่า “ได้ครับ”
เสิ่นอี้โจวกอดเธอ “คุณอย่ากังวลมากเกินไปนะ ผมเชื่อว่าพี่รองจะเข้าใจทุกอย่างได้แน่นอน”
สิ่งที่เซี่ยชิงหยวนกังวลมากที่สุดไม่ใช่เซี่ยจิ่งเฉิน แต่เป็นหวังผิงต่างหาก
เธอเปิดปาก แต่ก็ยังไม่ได้พูดสิ่งที่คิดในใจ “ฉันหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีนะ”
…
เนื่องจากคราวนี้พวกเขาจะกลับไปสะสางเรื่องกับตระกูลจาง ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ได้พาหลินตงซิ่วและเสิ่นอี้หลินกลับไปที่หมู่บ้านซีสุ่ยด้วย
ปี่เหลาซานพูดว่า “พวกเธอกลับไปได้เลย ฉันจะคอยเฝ้าดูที่นี่ให้เอง”
ข่าวการกลับมาของทั้งสองคนทำให้ตะกูลเซี่ย ซึ่งกำลังถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้าโศกนับตั้งแต่การหย่าร้างของเซี่ยจิ่งเฉินรู้สึกยินดีขึ้นมาบ้าง
หวังผิงไม่ได้พูดอะไร แต่เธอฆ่าไก่ในตอนเช้า ทั้งยังไปซื้อปลาตัวใหญ่จากเกษตรกรในหมู่บ้าน และท้ายที่สุดก็เข้าไปทำความสะอาดเก็บกวาดห้องเดิมของเซี่ยชิงหยวนกับกงเหลียนซิน
กงเหลียนซินกับเซี่ยจิ่งเยว่มองหน้ากันและยิ้ม พวกเขาหวังว่าคราวนี้เซี่ยชิงหยวนและหวังผิงจะสามารถแก้ไขความบาดหมางเก่าของพวกเธอได้
เมื่อเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวไปถึงหมู่บ้านซิ่งฮวา ขณะนี้เองในบ้านก็มีเสียงผู้คนมากมาย
บรรดาเพื่อนบ้านนั่งคุยกันในบ้าน เมื่อป้าข้างบ้านเห็นทั้งสองกลับมาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อวานฉันได้ยินจากแม่ของเธอว่าวันนี้เธอจะกลับมาน่ะ เราก็เลยมานั่งกันที่นี่”
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งยังพูดอีกว่า “ใช่แล้ว แม่ของเธอเริ่มเตรียมอาหารตั้งแต่เช้ามืดเลยนะ”
เซี่ยชิงหยวนนั่งอยู่บนรถมาเกือบสองวันแล้ว และเธอก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ตอนนี้เธอทำได้เพียงยืนอย่างมั่นคงโดยพิงเสิ่นอี้โจวไว้เท่านั้น
เธอกุมท้องด้วยสีหน้าซีดเซียวและฝืนยิ้ม “สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณป้า”
ความสนใจของเสิ่นอี้โจวมุ่งเน้นไปที่เซี่ยชิงหยวน เขาทักทายคนอื่นเพียงสั้น ๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่น แต่ไม่กระตือรือร้นเกินไป
เซี่ยโยว่หมิงสังเกตเห็นท่าทีของเซี่ยชิงหยวน จึงรีบดึงความสนใจแขกให้กินขนมหวานและชา จากนั้นส่งสัญญาณด้วยตาของเขาให้เสิ่นอี้โจวพาเซี่ยชิงหยวนเข้าไปในบ้านเพื่อพักผ่อน
ชาวบ้านจำนวนมากที่กำลังรอคุยกับเสิ่นอี้โจวและภรรยาของเขาต่างก็ตกตะลึง
เมื่อเห็นแบบนี้ คนอื่น ๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าหลังจากรับราชการเป็นใหญ่เป็นโตแล้วก็กลายเป็นดูถูกชาวบ้านงั้นเหรอ?
เซี่ยจิ่งเฉินช่วยทั้งสองคนพูดว่า “ชิงหยวนรู้สึกไม่สบาย น้องเขยของผมจึงพาเธอเข้าไปพักผ่อนก่อนน่ะครับ”
กงเหลียนซินยังช่วยพูดอีกว่า “ใช่ ฉันเห็นสีหน้าของชิงหยวนซีดขาวมากเลยค่ะ”
แต่หวังผิงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของเซี่ยชิงหยวน เธอเพียงคิดว่าลูกสาวคนเล็กไม่ชอบที่เธอเชิญคนมากมายมาที่บ้านในวันนี้
เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ยังไม่คิดจะต่อว่า ในตอนนี้เธอยิ้มให้กับเหล่าแขกแทน “พรุ่งนี้ฉันจะพาพวกเขาทั้งคู่ไปที่บ้านพวกเธอเพื่อนั่งคุยด้วยนะ”
ในพื้นที่ชนบท หากมีคนมากมายมาที่บ้านในช่วงปีใหม่ มันก็แสดงให้เห็นว่าบ้านนั้นเป็นที่นิยม ซึ่งหมายความอีกอย่างหนึ่งว่าตรุษจีนปีนี้จะนำพาความเจริญรุ่งเรืองและขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป
เซี่ยจิ่งเฉินเป็นบุคคลที่หย่าร้างคนที่สองในหมู่บ้านซิ่งฮวา ถัดจากหวังชุ่ยเฟิน
แม้ทุกคนจะรู้เกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในตระกูลจาง แต่บางคนก็ยังนินทา ซึ่งไม่เป็นที่พอใจอย่างมาก
ตอนนี้เธอแค่อยากใช้การกลับมาของเซี่ยชิงหยวนกับเสิ่นอี้โจวทำให้ครอบครัวมีชีวิตชีวา และเพื่อให้ผู้ที่รอดูเรื่องตลกของครอบครัวได้เห็นว่าพวกเขามีลูกเขยที่เป็นข้าราชการด้วย
อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของเธอกลับไม่เล่นตามน้ำด้วยเลย ซึ่งทำให้หญิงชราอับอายมาก
…
เซี่ยชิงหยวนนอนอยู่บนเตียงแล้วจิบน้ำที่กงเหลียนซินนำมาให้อีกครั้ง จนในที่สุดก็รู้สึกดีขึ้น
เสิ่นอี้โจวเช็ดคราบน้ำบนริมฝีปากของเธออย่างลำบากใจแล้วพูดว่า “ดีขึ้นไหม?”
เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “อื้ม ดีขึ้นบ้างแล้ว”
เสิ่นอี้โจวกังวลว่าเธอจะป่วยจากการถูกเหวี่ยงไปมาอยู่บนรถเป็นเวลานาน พวกเขาเดินทางจากเมืองหลวงของมณฑลมายังเตียนเฉิงโดยการนั่งรถไฟ และจากเตียนเฉิงมายังหมู่บ้านซิ่งฮวาก็นั่งมาโดยรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า
ถึงกระนั้น ถนนบนภูเขาที่เป็นหลุมเป็นบ่อและขรุขระ รวมถึงการตั้งครรภ์ได้ทำให้เธอมีอาการเมารถรุนแรงกว่าปกติมาก
ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงได้สักพักแล้ว ท้องของเธอจึงไม่ปั่นป่วนอีกต่อไป กลับมามีความสงบอีกครั้งและพูดกับเสิ่นอี้โจว “คุณช่วยฉันเรียกพี่รองของฉันเข้ามาทีนะ”