กระบี่จงมา - บทที่ 988.2 ตรวจสอบต ำราท่ามกลางเสียงขลุ่ย
ปีนั้นในกำรประชุมที่เรือนชุนฟำน หลิ่วเซินสตรีเจ้ำของเรือคือ โอสถทองอำยุน้อยคนหนึ่งที่พรสวรรค์ธรรมดำอย่ำงมาก ในบรรดำ เจ้ำของเรือและผู้ดูแลมากมาย ก็เป็ นนำงที่ขอบเขตต่ำที่สุด ดังนั้น เก้ำอี้จึงตั้งอยู่ใกล้กับเส้ำอวิ๋นเหยียนที่นั่งอยู่หน้ำประตู แต่หลิ่วเซินมี ศิษย์น้องหญิงอยู่คนหนึ่ง อำยุน้อยมาก แต่กลับเป็ นผู้มีพรสวรรค์ด้ำน กำรฝึ กตนอย่ำงสมชื่อคนหนึ่ง เซียนดินโอสถทองอำยุยี่สิบกว่ำปี ดังนั้นตอนนั้นอิ่นกวานคนใหม่ถึงได้ข่มขู่นำงว่ำจะยินดีจ่ำยเงินฝน ธัญพืชสองร ้อยเหรียญ หรือไม่ก็ใช ้วัตถุสิ่งของในหอยำมา แลกเปลี่ยนกับกำรที่ศิษย์น้องของนำงรับหน้ำที่ดูแลเรือ “หนีชำง” ดี แน่นอนว่ำกำรประชุมที่บรรยำกำศตึงเครียดครั้งนั้น สุดท้ำยแล้วก็ ไม่ได้มีใครถึงแก่ชีวิต ตอนนั้นหลิ่วเซินกับหลิวอวี่ยังได้รับงานท ำ หน้ำที่เป็ นนักบัญชีในห้องโถงใหญ่ด้วย
เรือมังกรฟำนโม่จอดเทียบท่ำช ้ำๆ เด็กชำยชุดเขียวคนหนึ่งเดิน อำดๆ ลงมาจำกตัวเรือชำยแขนเสื้อสองข้ำงสะบัดพึ่บพั่บ ด้ำนหลังยัง มีเด็กสำวที่ถือไม้เท้ำไผ่เขียวคนหนึ่งเดินมา
ก็คือเฉินหลิงจวินกับกวอจู๋จิ่วที่เข้ำร่วมงานพิธีเปิดยอดเขาของ พรรคหวงเหลียงและไปเยือนเมืองหลวงแคว้นเมิ่งเหลียงมารอบหนึ่ง
คนทั้งสองกลุ่มมาเจอกันแล้ว เฉินผิงอันก็ยิ้มเอ่ย “ในที่สุดก็ กลับมาเสียทีนะ”
กวอจู๋จิ่วยิ้มกว้ำง ถำมว่ำ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ไม่ได้ติดตำมอำจำรย์ พ่อกลับมาบ้ำนด้วยหรือ?”
เฉินผิงอันอธิบำย “นำงต้องอยู่เป็ นผู้ช่วยศิษย์พี่เล็กพวกเจ้ำ ที่ ใบถงทวีปจะต้องขุดลำน้ำใหญ่ใหม่เอี่ยมเส้นหนึ่ง มีงานให้ทำแล้ว เผยเฉียนคงไม่ได้กลับมาที่ภูเขาลั่วพั่วง่ำยๆหำกว่ำเจ้ำคิดถึงนำงก็ สำมารถไปหำนำงที่ใบถงทวีปได้ทุกเมื่อ
เฉินหลิงจวินอัดอั้นอยู่นำน สุดท้ำยก็ยังทนไม่ไหว ถำมว่ำ “นำย ท่ำน เรียกหงเซี่ยกับอวิ๋นจื่อให้ไปวิ่งเต้นช่วยทำงานเบ็ดเตล็ดแล้ว ห่ำนขาวใหญ่กลับไม่ได้เชิญให้ข้ำไปที่สำนักกระบี่ชิงผิง เข้ำร่วม กิจกรรมอันใหญ่โตมโหฬำร วางแผนถึงอนำคตด้วยกันหรอกหรือ?!”
พระรำชโองกำรกับคำสั่งลับ อย่ำงแรกเอำไว้ให้คนนอกดู อย่ำง หลังก็ยิ่งมีความส ำคัญมาก เฉินหลิงจวินคิดบทงิ้วสำมเชิญสำม ปฏิเสธเอำไว้เรียบร้อยแล้ว ในวงกำรขุนนำงก็มักจะมีข้อพิถีพิถัน เช่นนี้ไม่ใช่หรือ
ข้ำตอบตกลงหรือไม่เป็ นเรื่องของข้ำ แต่หำกจะบอกว่ำชุยตง ซำนไม่เชิญตน นี่ก็ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว
เฉินผิงอันกล่ำว “ไม่ได้พูดถึงเจ้ำ”
กล้ำขุดมุมก ำแพงมาถึงเฉินหลิงจวิน? ชุยตงซำนไม่มีความกล้ำ นี้จริงๆ
แต่เฉินหลิงจวินหรือจะรู ้เรื่องวงในที่เกี่ยวพันกับ “ความรัก ความแค้น” ระหว่ำงอำจำรย์และลูกศิษย์ครั้งนี้
เฉินหลิงจวินถำมหยั่งเชิง “ห่ำนขาวใหญ่คงจะรู ้ว่ำข้ำต้องรับ หน้ำที่เป็ นผู้ถวายงานเชื้อพระวงศ์ รู ้สึกว่ำเชิญข้ำคงไม่เป็ นผล? กลัว ว่ำข้ำจะมีกิจธุระรัดตัว ปลีกตัวไปไม่ได้ใช่ไหม? ต้องเป็ นแบบนี้ แน่นอน!”
เฉินผิงอันกล่ำว “ข้ำไม่ได้คุยกับชุยตงซำนเรื่องนี้ เล่ำแค่ว่ำเจ้ำ กับจู๋จิ่วไปเข้ำร่วมงานพิธีที่พรรคหวงเหลียง”
เฉินหลิงจวินอึ้งค้ำงไร ้คำพูดไปนำน นำยท่ำนใหญ่อย่ำงข้ำแย่ กว่ำหงเซี่ยและอวิ๋นจื่อที่เป็ นสมุนของเขาตรงไหน? หวนนึกถึงปีนั้น อวิ๋นจื่อยังเป็ นลูกน้องที่ตำมกันตัวเองต้อยๆ อยู่เลยนะ
เด็กชำยผมเขียวตีอกชกตัวทันใด “ห่ำนขาวใหญ่ตัวดี ได้เป็ น เจ้ำส ำนักแล้วก็สำยตำมองสูงไม่เห็นหัวใคร ไม่เห็นแก่เพื่อนเก่ำแก่ที่ ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันเลย ท ำให้ข้ำโมโหจะตำยอยู่แล้ว โมโหจะ ตำยอยู่แล้ว!”
เฉินผิงอันเอ่ยอย่ำงไม่สบอำรมณ์ “ถ้ำอยำกไปจริงๆ ก็ได้ ข้ำจะ บอกกับชุยตงซำนให้อีกเดี๋ยวเจ้ำก็นั่งเรือเฟิงยวนไปพร ้อมกับหงเซี่ย และอวิ๋นจื่อเลยแล้วกัน”
เฉินหลิงจวินโทสะทะยำนฟ้ ำ “ไปกะผีอะไรเล่ำ ห่ำนขาวใหญ่ไม่มี ความจริงใจแม้แต่น้อย ครำวหน้ำกลับมาที่ภูเขาลั่วพั่ว ข้ำต้องพูดกับ เขาให้ดีสักหน่อย ไม่มีใครที่เป็ นพี่น้องอย่ำงเขาหรอกนะ”
เห็นใครก็ไม่ขี้ขลำด แต่หำกท่ำไม่ดีก็ขี้ขลำดได้เร็วกว่ำใคร มักจะสำมารถแสดงความอ่อนข้อได้อย่ำงว่องไวรำวกับฟ้ ำผ่ำไม่ทัน ป้ องหูเสมอ แสร ้งทำเป็ นเดินละเมอ หำกมั่วผ่ำนด่ำนไปไม่ส ำเร็จก็จะ รีบก้มหน้ำยอมรับผิด ก้มหน้ำยอมรับผิดแล้วยังไม่เป็ นผล แค่โขกหัว ไม่กี่ทีจะนับเป็ นอะไรได้ ลูกผู้ชำยยืดได้หดได้ ใบหน้ำที่หล่นอยู่บน พื้นไม่ถือว่ำเป็ นใบหน้ำ
กวอจู๋จิ่วยิ้มเอ่ย “อำจำรย์พ่อ ระหว่ำงทำงที่พวกเรำเดินทำงไป เมืองหลวงแคว้นหวงเหลียงได้เจอกับยอดฝี มือลัทธิเต๋ำคนหนึ่งที่ เดินทำงไปทั่วสำรทิศ มีรูปโฉมเป็ นวัยกลำงคนสะพำยกระบี่ถือแส้ ห้อยกำเหล้ำ มีมาดแห่งเซียนอย่ำงมาก บอกว่ำตัวเองมีฉำยำว่ำฉุนห ยำงชื่อว่ำหลวี่เหยียน”
เฉินหลิงจวินเชิดหน้ำแคะจมูก คนที่แม้แต่นำยท่ำนใหญ่อย่ำงข้ำ ก็ยังไม่เคยได้ยินฉำยำชื่อแซ่มาก่อน จะร ้ำยกำจได้สักแค่ไหนกัน เชียว
หำกจะบอกว่ำป๋ ำยเสวียนที่อยู่ในศำลำริมทำง เรียบเรียงตำรำ วีรบุรุษที่จะต้องทวงความยุติธรรมในยุทธภพมาจำกเผยเฉียนขึ้นมา เล่มหนึ่งอย่ำงยำกลำบำก
ถ้ำอย่ำงนั้นหลำยปีมานี้เฉินหลิงจวินเองก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เขา คอยสืบข่ำวไปทั่ว อำศัยรำยงานขุนเขาสำยน้ำ บุปผำในคันฉ่อง จันทรำในสำยน้ำและข่ำวลือเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลำยรวบรวมรำยงานมา อย่ำงยำกล ำบำก กวาดเอำผู้ฝึ กตนขอบเขตบินทะยำน ขอบเขต เซียนเหรินทั่วทั้งใต้หล้ำไพศำลมาไว้ด้วยกันหมดไม่มีละเว้น สุดท้ำย รวมเล่มเป็ นต ำรำบำงๆ เล่มหนึ่งที่เฉินหลิงจวินตั้งชื่อให้ว่ำ “รวมเล่ม คนผ่ำนทำง
นำมาใช ้เตือนตัวเองว่ำ วันหน้ำเจอกับเทพเชียนผู้เฒ่ำเหล่ำนี้ ก็ คิดเสียว่ำเรำเป็ นแค่คนผ่ำนทำง เป็ นแค่แขกที่ผ่ำนมาซึ่งเดินสวนไหล่ กับพวกเขาไป ไม่ไปตีสนิท
เฉินผิงอันยิ้มพลำงพยักหน้ำ “คือผู้อำวุโสท่ำนหนึ่งที่ข้ำเพิ่งรู ้จัก ตอนอยู่ใบถงทวีปก่อนหน้ำนี้ เป็ นคนของแจกันสมบัติทวีปของพวก เรำ พื้นที่ประกอบพิธีกรรมที่เจินเหรินท่ำนนี้สร ้ำงโอสถทองอยู่ใน อำณำเขตของแคว้นเมิ่งเหลียง ถึงได้หวนคืนกลับมายังสถำนที่เดิม ก่อนหน้ำนี้ไม่นำนผู้อำวุโสหลวี่ยังมาเป็ นแขกที่ภูเขาลั่วพั่วของพวก เรำ หำกว่ำพวกเจ้ำกลับมาถึงเร็วกว่ำนี้ ไม่แน่ว่ำอำจจะรั้งตัวผู้อำวุโส ให้อยู่กินข้ำว ดื่มเหล้ำด้วยกันสักมื้อได้?”
เฉินหลิงจวินรีบหยุดกำรกระทำทันที สะบัดมือ เช็ดกับเสื้อ หันไป ส่งสำยตำให้กวอจู๋จี่วอย่ำงสุดชีวิต บอกเป็ นนัยกับนำงว่ำอย่ำพูด ต่อไป ไม่มีความหมาย ก็แค่กำรพบเจอกันอย่ำงผิวเผินครั้งหนึ่ง เท่ำนั้น ดื่มเหล้ำด้วยกันเล็กน้อย พูดคุยกันแค่ไม่กี่ประโยค ไม่มีความ
จำเป็ นที่จะต้องโอ้อวดให้นำยท่ำนรู ้ถึงกำรดื่มเหล้ำครั้งนี้ เรื่อง บำงอย่ำงไม่มีค่ำพอให้พูดถึงปล่อยให้มันลอยไปตำมสำยลมเถอะ
กวอจู๋จิ่วยิ้มบำงๆ เอ่ยว่ำ “ได้ดื่มเหล้ำกันแล้ว เฉินหลิงจวินพูดคุย กับฉุนหยำงเจินเหรินอย่ำงถูกคอ อยู่บนเรือข้ำมฟำกจึงดึงอีกฝ่ ำยมา ดื่มเหล้ำด้วยกัน ความไม่สมบูรณ์เพียงหนึ่งเดียวในความงดงามก็คือ อีกฝ่ ำยเล่นทำยหมัดไม่เป็ น จนถึงตอนนี้เฉินหลิงจวินยังบ่นอยู่เลยว่ำ ก็ไม่รู ้ว่ำพี่ใหญ่หลวี่เล่นไม่เป็ นหรือไม่ยินดีจะเล่นกันแน่ ตอนนั้นดื่ม เหล้ำไปเล็กน้อย เฉินหลิงจวินรู ้สึกว่ำบรรยำกำศไม่เลว เลยถำมอีก ฝ่ ำยว่ำใช่ผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตสิบสี่หรือไม่ ฉุนหยำงเจินเหรินหลุด หัวเรำะพรืด เพียงแค่ส่ำยหน้ำ เฉินหลิงจวินจึงถำมอีกทันทีว่ำใช่ ขอบเขตบินทะยำนหรือไม่ สีหน้ำของนักพรตคนนั้นค่อนข้ำงอ่อนใจ ไม่รอให้เขาพูด เฉินหลิงจวินก็ถำมอีกว่ำใช่เซียนเหรินหรือไม่ นักพรตส่ำยหน้ำอีกครั้ง เฉินหลิงจวินจึงไม่ถำมต่ออีก ดื่มกันไปจนถึง ท้ำยที่สุดก็จะขอเรียกตัวเองเป็ นพี่เป็ นน้องกับเขา แต่ว่ำฉุนหยำงเจิน เหรินไม่ตอบตกลง”
เฉินผิงอันหันหน้ำไปมองเฉินหลิงจวิน คลี่ยิ้มด้วยรอยยิ้ม คลุมเครือ
ไม่รอให้เขาพูด” ช่ำงเป็ นคำกล่ำวที่ดีเสียจริง อ้อมผ่ำนเรื่องที่ เป็ นกุญแจส ำคัญไปได้นี่ก็ถือว่ำเป็ นพรสวรรค์อย่ำงหนึ่งหรือไม่?
เฉินหลิงจวินยกฝ่ ำมือข้ำงหนึ่งขึ้นสูง ตีหน้ำเคร่ง เอ่ยเสียงทุ้ม หนักว่ำ “นำยท่ำน ไม่ต้องพูดแล้ว ข้ำเข้ำใจ! จ ำได้แล้ว รับรองว่ำจะ จ ำไว้เป็ นบทเรียนไม่ท ำอีก!”
คงจะเตะโดนแผ่นเหล็กอีกแล้วสินะ เรื่องแบบนี้คุ้นเคยดียิ่งนัก ชินไปแล้วก็ดีเอง
“จ ำไว้เป็ นบทเรียนไม่ท ำอีก?”
เฉินผิงอันยิ้มตำหยี ลูบหัวสุนัขของเด็กชำยชุดเขียว “นำยท่ำน ใหญ่หลิงจวิน เสียดำยหรือไม่เล่ำ? ไม่อย่ำงนั้นลำดับอำวุโสบนภูเขา ก็จะเพิ่มขึ้นแล้ว เพรำะถึงอย่ำงไรขนำดข้ำก็ยังต้องเรียกฉุนหยำงเจิน เหรินว่ำผู้อำวุโสเลยนะ”
เด็กชำยชุดเขียวท ำคอย่น ได้แต่หัวเรำะแห้งๆ รีบใช ้สองมือคว้ำ มือของนำยท่ำนเอำไว้ช่วยสะบัดข้อมือยืดเส้นยืดสำยให้นำยท่ำน
กวอจู๋จิ่วฟ้ องพลำงใช ้เสียงในใจอธิบำยต้นสำยปลำยเหตุของ กำรดื่มเหล้ำครั้งนี้ให้อำจำรย์พ่อฟังไปด้วย ที่แท้เป็ นเฉินหลิงจวินที่ รู ้สึกว่ำนักพรตคนนั้นมองนำงด้วย “สำยตำที่ไม่ถูกต้อง” ลับๆ ล่อๆ คล้ำยกับมีเจตนำอย่ำงอื่น รอกระทั่งไปนั่งกันที่โต๊ะเหล้ำแล้ว โดย ภำพรวมเฉินหลิงจวินก็ยังถือว่ำมีมารยำทอย่ำงมาก พูดถึงอำจำรย์ พ่อดีๆ อยู่หลำยค ำ
นอกจำกนี้นักพรตฉุนหยำงท่ำนนั้น ตอนที่นำงกับเฉินหลิงจวิน จะจำกมาก็เคยใช ้เสียงในใจเตือนนำงด้วยว่ำ กระบี่บินแห่งชะตำชีวิต เล่มใหม่ของกวอจู๋จิ่ว อย่ำเอำออกมาให้ใครเห็นง่ำยๆ
เฉินผิงอันใช ้เสียงในใจเอ่ยอย่ำงตกตะลึงระคนยินดีว่ำ “มีกระบี่ บินแห่งชะตำชีวิตเล่มที่สองแล้วหรือ?”
กวอจู๋จิ่วยิ้มกว้ำง “ตอนอยู่ที่ใต้หล้ำห้ำสีมีครั้งหนึ่งออกไปหำ ประสบกำรณ์ข้ำงนอกถือว่ำจับผลัดจับผลูอย่ำงแท้จริง อยู่ดีๆ ก็มีได้”
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “อย่ำเย่อหยิ่งลำพองตน พยำยำมให้มากขึ้นไป อีก”
กวอจู๋จิ่วส่ำยหน้ำ “แบบนั้นก็ไม่ได้หรอก หำกไม่เอำหำงชี้ขึ้นฟ้ ำ ก็จะผิดต่ออำจำรย์พ่อของตัวเอง”
“อย่ำพูดจำเอำอย่ำงเฉินหลิงจวินสิ”
“ไม่ถือว่ำเอำอย่ำงใคร ก้ำวหน้ำไปด้วยกัน”
“นำยท่ำน แรงที่มือใช ้ได้ไหม?”
เฉินหลิงจวินไม่ได้ยินเสียงในใจของสองอำจำรย์และศิษย์ ได้แต่ รู ้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเป็ นทบทวี สะบัดแขนให้นำยท่ำนต่อ ด้วยเหตุนี้จึง ต้องเดินขวางเหมือนปู พึมพ ำเสียงเบำว่ำ “ข้ำก็แค่เคยชินกับกำร ระมัดระวังขับเรือได้นำนหมื่นปีไม่ใช่หรือ ท่องยุทธภพบ่อยเข้ำ จึง เชี่ยวชำญที่จะตำมองหกทำงหูฟังแปดด้ำน ก่อนหน้ำนี้พบว่ำผู้อำวุโส
ที่อยู่บนเรือข้ำมฟำกคนนั้นมองกวอจู๋จิ่วอยู่หลำยที หำกใช ้ค ำกล่ำว ในตำรำก็คือ “แววตำเผยความชื่นชม” ข้ำกังวลว่ำเขาจะเป็ นคนที่ แสร ้งวางมาดภูมิฐำน เจอกับคนชั่วที่มีจิตใจคิดร ้ำย ก็เลยอยำกจะ ช่วยสืบเสำะให้รู ้ก ำพืดของเขา กวอจู๋จิ่ว เจ้ำเอำมาฟ้ องนำยท่ำน ท ำ ให้ข้ำเสียใจมากนะ นำยท่ำน ท่ำนไม่แบ่งแยกขาวดำเช่นนี้ ในใจข้ำ เจ็บปวดยิ่งนัก”
เฉินผิงอันหัวเรำะหึหึ
หร่วนฉง เว่ยป้ อ ชุยเฉิง ลู่เฉิน ชุยฉำน เฉินชิงหลิว เจ้ำแห่งถ้ำปี้ เซียว มรรคำจำรย์เต๋ำ ปรมาจำรย์มหำปรำชญ์ เจิ้งจวีจง…
รำยชื่อที่ยำวเป็ นพรวนนี้ เลือกสักสำมคนมา “ท้ำท้ำย’ เลือกใคร ก็ได้ เกรงว่ำคงเป็ นปัญหำใหญ่เทียมฟ้ ำที่ทำให้คนแหลกสลำยได้เลย กระมัง
ให้ผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตบินทะยำนคนหนึ่งหลับตำเลือก ก็ต้อง จิตแห่งมรรคำไม่มั่นคง
เสี่ยงดวง? ต่อให้ดวงดีที่สุด เลือกโดนหร่วนฉงอริยะสำนัก กำรทหำรและเว่ยป้ อซำนจวินแห่งขุนเขาเหนือ แต่ก็ยังต้องเลือกอีก คนหนึ่ง จะทำอย่ำงไรล่ะ?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่ว่ำทุกวันนี้เฉินหลิงจวินเพิ่งจะมีตบะเป็ น ก่อกำเนิดเท่ำนั้น มิน่ำเล่ำความทะเยอทะยำนที่ใหญ่ที่สุดในช่วง หลำยปีมานี้ก็คือโดนหมัดหนึ่งต่อยแล้วยังไม่ตำย
ในอดีตตอนที่เพิ่งติดตำมเฉินผิงอันมาอยู่ในเมืองเล็ก ตอนที่อยู่ ร ้ำนตีเหล็ก ก็เคยด่ำหร่วนฉงต่อหน้ำว่ำแก่แล้วยังหน้ำไม่อำย อำยุตั้ง ปูนนี้แล้วยังกล้ำมาแย่งกับนำยท่ำนบ้ำนข้ำจะซ ้อมเจ้ำให้ปำงตำยเลย …
ภำยหลังตบไหล่นักพรตหนุ่มคนหนึ่ง แล้วยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เด็กชำยชุดเขียวเคยทบทวนกระดำนซ้ำไปซ้ำมาก็ได้ข้อสรุปว่ำ ข้ำ จะรู ้ได้อย่ำงไรว่ำอีกฝ่ำยคือขอบเขตสิบสี่ จะโทษข้ำไม่ได้นะ
ทำงฝั่งของเว่ยป้ อ นำยท่ำนบ้ำนตนอยู่ด้วยก็คือเว่ยซำนจวิน นำยท่ำนไม่อยู่ก็คือพี่ใหญ่เว่ย ในอดีตเคยกินน้ำแกงประตูปิดที่ภูเขา พีอวิ๋น เสียใจสุดขีด พูดถึงเว่ยป้ อที่แล้งน้ำใจหนึ่งครั้งก็ร ้องเฟ้ ยหนึ่ง ครั้ง ถ่มน้ำลำยลงบนพื้นแรงๆ ใช ้ปลำยเท้ำขยี้แล้วขยี้อีก แล้วยังทรุด ตัวลงนั่งยองถำมว่ำพี่เว่ยเจ้ำทำอะไรนะ ทำไมไปนอนอยู่บนพื้นไม่ ยอมลุกขึ้นมาล่ะ…
ปีนั้นเจอกับรำชครูชุยฉำน จำอีกฝ่ ำยไม่ได้ เด็กชำยชุดเขียวก็ เคยทิ้งคำพูดอำมหิตเอำไว้ว่ำ คิดอยำกจะเจอนำยท่ำนบ้ำนข้ำ เจ้ำก็ ต้องตีข้ำให้ตำยเสียก่อนแล้วค่อยข้ำมศพข้ำไป
ป๋ ำยหมาง เฉินจั่วหลิว สหำยใหม่ที่ได้รู ้จักที่อุตรกุรุทวีป อันที่จริง คือคนเดียวกัน ผลคือต้องไปกินข้ำวแดงอยู่ในคุกกับป้ ำยหมางมา รอบหนึ่ง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ ำยจะจำกลำกันรู ้สึกว่ำสหำยรักของตนดื่ม เหล้ำเมาแล้วพูดจำเหลวไหล งูน้ำแห่งแม่น้ำอวี่เจียงที่ตอนนั้นเป็ นแค่ โอสถทองกระโดดตบหัวคนพิฆำตมังกรไปหนึ่งที
มีนักพรตเด็กหนุ่มคนหนึ่งขี่วัวเข้ำเมืองเล็กมาจำกทำงทิศ ตะวันออก เฉินหลิงจวินเหลือบไปเห็นพอดี จึงพลิ้วกำยลงพื้น ตบเขา วัว แล้วยังบอกด้วยว่ำ “บนภูเขาบ้ำนข้ำมีหญ้ำเยอะ” “แค่ได้ยินค ำว่ำ กินก็เข้ำใจได้เลยนะ
สุดท้ำยเด็กชำยชุดเขียวยังเสนอแนะ “มรรคำจำรย์เต๋ำ” ด้วย ความหวังดีว่ำทำงที่ดีที่สุดควรเปลี่ยนชื่อซะ….
ได้ยินว่ำบัณฑิตที่สวมชุดขาวคนนั้นคือลูกศิษย์ของสหำยรัก ของตัวเอง ก็รับอีกฝ่ ำยเป็ นหลำนทันที…อืม หลำนที่ได้มาเปล่ำๆ ซึ่ง ลำดับอำวุโสต่ำกว่ำหนึ่งรุ่นผู้นี้ ก็คือเจิ้งจวีจงแห่งนครจักรพรรดิขาว
ประสบกำรณ์ในยุทธภพส่วนนี้ของเฉินหลิงจวิน กำรที่เขายังมี ชีวิตกระโดดโลดเต้นมาได้จนถึงทุกวันนี้ หำกใช ้คำกล่ำวของจูเห ลี่ยนก็คือเคยเจอคนที่ชะตำแข็งมาก่อน แต่ไม่เคยเจอใครที่ชะตำแข็ง ขนำดนี้ ชีวิตก่อนเฉินหลิงจวินต้องทำเรื่องดีๆ ไว้มากแค่ไหน สะสม บุญกุศลไว้มากน้อยเท่ำไร ชีวิตนี้ถึงได้มีบุญมากทั้งยังดวงแข็งเช่นนี้
น้อยครั้งนักที่จะมีเรื่องที่จูเหลี่ยนคิดแล้วไม่เข้ำใจ แต่พอเป็ นเฉิน หลิงจวิน คิดไปคิดมาแล้วก็คงต้องบอกว่ำคนดีสวรรค์ย่อมคุ้มครอง เท่ำนั้นแล้วจริงๆ เพรำะมีเพียงอธิบำยเช่นนี้หำไม่แล้วก็คงหำ ค ำอธิบำยไม่ได้
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “อันที่จริงชุยตงซำนเชิญให้เจ้ำไปที่สำนักกระบี่ ชิงผิงด้วย แต่ข้ำปฏิเสธไป ตอนที่ข้ำขึ้นเรือ ชุยตงซำนยังไม่ถอดใจ
ยังอยำกจะต่อรองอีก หวังว่ำข้ำจะเปลี่ยนใจปล่อยให้เจ้ำไปภูเขาเซียน ตู โดนข้ำด่ำไปรอบหนึ่ง”
เฉินหลิงจวินร ้องหำ แล้วยกสองมือเท้ำเอว หัวเรำะดังลั่น ก็ว่ำ แล้วเชียว ห่ำนขาวใหญ่ลืมใครก็ไม่มีทำงลืมนำยท่ำนใหญ่เฉินได้ หรอก
กวอจู๋จิ่วย่อมรู ้ความจริง อำจำรย์พ่อหลอกคนน่ะสิ เจ้ำนี่ก็เชื่อ เสียจริงจัง ดังนั้นแม้ว่ำเรื่องรำวจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ความดีใจกลับ เป็ นของจริง คนโง่มีโชคของคนโง่
เฉินผิงอันยิ้มกล่ำว “จู๋จิ่ว ข้ำทำหีบไม้ไผ่ให้เจ้ำใหม่ เดี๋ยวกลับไป ลองดูว่ำสะพำยแล้วเหมาะหรือไม่”
กวอจู๋จิ่วดวงตำเป็ นประกำย พูดด้วยสีหน้ำลิงโลด “ดี ดีมากๆๆ เลย หีบไม้ไผ่น้อยที่ติดตำมข้ำวิ่งวุ่นมาตลอด ในที่สุดก็มีบ้ำนให้ พักผ่อนแล้ว!”
ดูจำกท่ำทำงแล้ว ดูเหมือนนำงจะยังไม่คิดคืนหีบไม้ไผ่ใบเล็ก ให้กับศิษย์พี่หญิงเผย
เฉินหลิงจวินเหลือบตำมองกวอจู๋จิ่ว เฮ้อ ไม่รู ้จักโตเสียที คือคน ไม่เต็มบำทคนหนึ่ง
เฉินผิงอันหันหน้ำมายิ้มเอ่ย “หงเซี่ย อวิ๋นจื่อ จะพูดคุยกับพวก เจ้ำสักหน่อย เดินไปคุยไป”
เจียวน้ำหงเซี่ยสวมชุดสีเหลือง ร่ำงสูงโปร่งสะโอดสะอง ฝึกตนอยู่ ในภูเขามานำนหลำยปี ย่อมต้องมีมาดของผู้ฝึกตนที่สันโดษ
ฉำยำของนำงกับอวิ๋นจื่อล้วนเป็ นชุยตงซำนที่ช่วยตั้งให้
ในสำยตำของเฉินผิงอันแล้ว พูดถึงแค่รูปโฉมและบุคลิกของหง เซี่ย อันที่จริงก็ไม่ด้อยไปกว่ำหวงอือวิ่นเลยแม้แต่น้อย
เฉินผิงอันยึดมั่นในความซื่อสัตย์เที่ยงตรงก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่ คนโง่ที่มองไม่ออกว่ำสตรีงามหรือไม่งาม
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “เดินทำงไปเยือนใบถงทวีปครั้งนี้ ไม่ใช่ว่ำแค่ สองสำมปีก็จะกลับมาภูเขาลั่วพั่วได้ ข้ำคำดว่ำสั้นหน่อยก็ต้องเจ็ด แปดปี ยำวหน่อยก็คือสิบปีหรืออำจจะถึงยี่สิบปีแต่วางใจเถอะ ไม่ได้ ให้พวกเจ้ำช่วยเปล่ำๆ แน่นอน ยกตัวอย่ำงเช่นหงเซี่ย สำนักกระบี่ชิง ผิง จะช่วยให้เจ้ำได้ใช ้คุณความชอบแลกสิทธิ์ในกำรเดินลงน้ำใน อนำคตมา ต่อให้คุณความชอบไม่มากพอ ชุยตงซำนก็สำมารถช่วย เสริมให้ได้ ส่วนอวิ๋นจื่อ ในอนำคตชุยตงซำนก็ได้วางแผนไว้ให้แล้ว”