กระบี่จงมา - บทที่ 988.1 ตรวจสอบต ำรำท่ำมกลำงเสียงขลุ่ย
“ฝึกวรยุทธและฝึกตน อันที่จริงเส้นแบ่งเขตของทั้งสองอย่ำงนี้ ไม่ได้มีกำรแบ่งชัดอย่ำงที่พวกเรำคิด”
“ข้ำถึงขั้นมีกำรคำดเดำอย่ำงหนึ่งที่ตอนนี้ยังมิอำจพิสูจน์ได้ นั่น คือผู้ฝึกตนสำยยันต์บนภูเขำทุกคนต่ำงก็มีฐำนกระดูกของผู้ฝึกยุทธ ขอบเขตทองมาตั้งแต่เกิด”
“คิดจะเรียนหมัด เจ้ำจ ำเป็ นต้องเข้ำใจตัวเองเสียก่อน จ้ำวซู่เซี่ย พวกเรำมาเริ่มจำกกำรหำยใจที่ง่ำยที่สุด เริ่มลองดู เหมือนคนอยู่ที่สูง มองลงต่ำ เซียนเหรินมองขุนเขำสำยน้ำผ่ำนฝ่ ำมือ”
เฉินผิงอันทั้งไม่ได้สอนท่ำหมัดท่ำเดินให้กับจ้ำวซู่เซี่ย แล้วก็ ไม่ได้รีบร้อนป้ อนหมัดให้จ้ำวซู่เซี่ย แต่น ำภำพต ำแหน่งลมปรำณใน ร่ำงกำยมนุษย์เจ็ดภำพออกมาไว้ในเรือนไม้ไผ่เสียก่อน แบ่งออกเป็ น ทัศนียภำพที่แตกต่ำงกันออกไปในฟ้ ำดินเล็กร่ำงมนุษย์ของเฉินผิง อันนับตั้งแต่ขอบเขตสำมถึงขอบเก้ำของกำรเรียนวรยุทธของเขำ ภำพวำดนี้จงใจลบเลือดเนื้อและเส้นเอ็นกระดูกทิ้งไป เหลือไว้เพียง จุดลมปรำณและเส้นชีพจร มีควำมสูงเท่ำตัวคน ช่องโพรงลมปรำณ มากถึงพันกว่ำช่อง จ ำนวนเหมือนกว่ำควำมรู้ควำมเข้ำใจของผู้ฝึก ตนทั่วไปส่วนหุ่นไม้ที่หมอจับยาในร ้ำนยาของหมู่ชำวบ้ำนใช ้ฝฝึก กำรฝังเข็มและอังด้วยควำมร้อนแน่นอนว่ำก็ยิ่งมิอำจเทียบเคียงได้
ภำพเจ็ดภำพ ตำแหน่งลมปรำณที่ไม่เหมือนกันกระจำยตัวกันเหมือน ดวงดำว ส่องประกำยระยิบระยับ สีสันแตกต่ำงกันไป สำดสะท้อนให้ เรือนไม้ไผ่ทั้งหลังสว่ำงไสว ประหนึ่งภำพดวงดำวพร่ำงพรำวภำพแล้ว ภำพเล่ำที่แขวนอยู่กลำงจักรวำลนอกฟ้ ำ
ทุกครั้งที่ “เฉินผิงอัน” ในภำพวำดทั้งเจ็ดหำยใจ ฟ้ ำดินที่เป็ น ปรำกฏกำรณ์ดวงดำวเจ็ดแห่งก็เกิดภำพเหตุกำรณ์ผิดปกติมากมาย เช่นเหมือนมีทำงช ้ำงเผือกที่ห้อยกลับหัวลงมา มีรุ ้งขำวพำดผ่ำน กลำงอำกำศ ดวงดำวซักนะกันและกันให้หมุนโคจร ฯลฯ
ภำพวำดทุกภำพก็เหมือนค่ำยกลปรำกฏกำรณ์ดวงดำวแห่งหนึ่ง ที่สีสันพร่ำงพรำวอย่ำงถึงที่สุด ยิ่งขอบเขตของ “เฉินผิงอัน” ต่ำ ลม หำยใจยิ่งเร็วกำรเว้นระยะยิ่งสั้น เป็ นเหตุให้กำรเปลี่ยนแปลงของภำพ ดวงดำวยิ่งมีมากกว่ำเดิม รำวกับว่ำฟ้ ำดินทั้งแห่งต่ำงก็กำลังขยับ ขยาย หดย่อไปตำมกำรหำยใจทุกครั้งของคนคนหนึ่ง คล้ำยกับเกิด เป็ นวงโคจรหมุนเวียนไม่หยุด ยิ่งขอบเขตสูง ฟ้ ำดินในภำพดวงดำวก็ ยิ่งมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หำกเพ่งมองอย่ำงละเอียดก็จะสังเกตเห็นว่ำ ในควำมเป็ นจริงแล้วกลับตรงกันข้ำมพอดี
เฉินผิงอันเอำสองมือไพล่หลัง เอ่ยเนิบช ้ำว่ำ “จุดลมปรำณในร่ำง มนุษย์พวกนี้ ตำรำแพทย์และตำรำของลัทธิทั้งหลำยมีกำรบันทึกไว้ อย่ำงชัดเจน ถูกมองว่ำเป็ นช่องโพรงลมปรำณที่สำคัญ ไม่ไปพูดถึง จุดลมปรำณที่แค่ชื่อเรียกไม่เหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วกลับอยู่ใน ตำแหน่งเดียวกัน ข้ำรวบรวมมาหลำยปี ขนำดนี้ คิดดูแล้วควำม
คลำดเคลื่อนก็คงจะมีไม่มาก อันที่จริงก็มีแค่เจ็ดร ้อยกว่ำจุดเท่ำนั้น หำกยังรวมถึงที่ถูกระบุไว้ในกำรสืบทอดลับชนิดต่ำงๆ ของพรรคและ สำนักต่ำงๆ ที่หำเจอใน “พื้นที่ลับ” โดยบังเอิญ จำกนั้นข้ำยังอำศัย บันทึกลับในคฤหำสน์หลบร ้อนและบันทึกในสวนกงเต๋อศำลบุ๋น แล้ว ยังเพิ่มจุดลมปรำณอีกเกือบร ้อยตำแหน่งที่คล้ำยกลำยเป็ นซำกปรัก ถูกคนหลงลืมไป ช่องโพรงลมปรำณบำงจุดก็เป็ นซี่โครงไก่อย่ำงที่ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันจริงๆ ผ่ำนกำรทบทวนตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่ำ ถึงได้ถูกผู้ฝึกลมปรำณค่อยๆ ทอดทิ้งไป แต่ก็มีจุดลมปรำณไม่น้อยที่ หำกผู้ฝึ กลมปรำณคิดอยากจะ “บุกเบิกจวน” กลับมีธรณีประตูสูง เกินไป ถึงได้ถูกเมินเฉย จำกนั้นก็หำยสำบสูญไปนอกจำกนี้ใครบำง คนยังเคยให้ข้ำยืมมรรคกถำขอบเขตสิบสี่ชั่วครำว จึงมีจุดลมปรำณ เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย เจ้ำลองดูภำพที่เจ็ดที่จำนวนช่องโพรงลมปรำณมี มากที่สุดนี้ มีจุดลมปรำณทั้งหมดหนึ่งพันห้ำสิบกว่ำจุด เป็ นเหตุให้ ลมปรำณแท้จริงของผู้ฝึกยุทธเต็มตัวเฮือกหนึ่ง ยิ่งเส้นทำงที่เดินยาว เท่ำไร ก็จะยิ่งชักนำหยวนซี่ (พลังชีวิต พลังที่เชื่อว่ำมีติดตัวมาตั้งแต่ ก ำเนิดก่อนคลอด) ในฟ้ ำดินร่ำงมนุษย์มาหลอมรวมกับปณิธำนหมัด ได้มากกว่ำเดิม หมัดที่ปล่อยออกไปก็ย่อมหนักกว่ำเดิม”
ปีนั้นในตรอกหนีผิง เฉินผิงอันเพิ่งจะได้ต ำรำหมัดเขย่ำขุนเขำ เล่มนั้นมาครอง ซ่งจี๋ซินและสำวใช ้จื้อกุยออกไปจำกถ้ำสวรรค์หลีจู ได้ทิ้งกุญแจพวงหนึ่งไว้ให้เขำ สุดท้ำยเฉินผิงอันเจอหุ่นไม้ที่ถูกผ่ำใน ห้องครัวของบ้ำนที่อยู่ติดกับบ้ำนของเฉินผิงอัน ด้ำนบนวำดภำพจุด
ลมปรำณและชีพจรในร่ำงมนุษย์ไว้จนเต็ม นี่สำหรับเฉินผิงอันที่เพิ่ง หัดเรียนหมัดใหม่ๆ แล้วตำรำหมัดก็คือเส้นทำงเดินขึ้นสู่ที่สูงที่ นำมาใช ้ต่อชีวิต ถ้ำอย่ำงนั้นหุ่นไม้ที่เฉินผิงอันเก็บมาประกอบเข้ำ ด้วยกันอีกครั้งก็คือมีดผ่ำฟืน ขวำนเปิดภูเขำ
อันที่จริงตอนนั้นเฉินผิงอันก็รู ้แล้วว่ำจื้อกุยจงใจทำ เพรำะนำงรู ้ดี ว่ำหำกเป็ นหุ่นไม้ที่สมบูรณ์ เฉินผิงอันต้องไม่มีทำงมาเก็บเอำไป แน่นอน ไม่แน่ว่ำอำจจะไม่เหลือบมองสักครั้งก็ได้ แต่พอนำงย่ำยีมัน อย่ำงนี้ ด้วยนิสัยหลงใหลในเงินทองและประหยัดอดออมของเฉินผิง อันจะต้องยินดีขนกลับไปที่บ้ำนบรรพบุรุษของตัวเอง เอำไปใช ้ ร่วมกับต ำรำหมัดเน่ำๆ เล่มหนึ่งที่ถูกเขำบูชำไว้ ตั้งใจศึกษำวิชำ ควำมรู ้ที่ซุกซ่อนอยู่แน่นอน
เรื่องนี้จื้อกุยอดีตสำวใช ้แห่งตรอกหนีผิง หวังจูมังกรที่แท้จริงสุ่ย จวินแห่งมหำสมุทรบูรพำในภำยหลัง ได้พบกับเฉินผิงอันอีกหลำย ครั้ง แต่นำงกลับไม่เคยพูดถึงแม้แต่ครึ่งคำบำงทีอำจคิดว่ำไม่มีเรื่องนี้ เกิดขึ้น หรือบำงทีนำงอำจจะลืมไปนำนแล้ว
แต่เฉินผิงอันกลับจดจ ำไว้ในใจอยู่เสมอ
เฉินผิงอันถำม “จ ำได้เท่ำไรแล้ว?”
จ้ำวซู่เซี่ยหลับตำลงแล้วลืมตำอีกครั้ง เอ่ยว่ำ “จำตำแหน่งของ จุดลมปรำณได้อย่ำงชัดเจนประมาณเจ็ดร้อยกว่ำจุด”
เฉินผิงอันพยักหน้ำ พลันเหวี่ยงแขนออกไป ลงมือในเวลำเพียง ชั่วฟ้ ำแลบ ใช ้ฝ่ ำมือแนบไปที่ลำคอของจ้ำวซู่เซี่ยเบำๆ จำกนั้น กระชำกเหวี่ยง ร่ำงทั้งร่ำงของจ้ำวซู่เซี่ยกลิ้งเป็ นวงกลมอยู่ในห้อง รอ กระทั่งจ้ำวซู่เซี่ยกลับมาที่ตำแหน่งเดิมก็ค้นพบด้วยควำมตกตะลึงว่ำ เหนือวงกลมนี้มีภำพปรำกฏกำรณ์ดวงดำวที่เป็ น “จ้ำวซู่เซี่ย” ยืนอยู่ หลำยสิบคน เฉินผิงอันกวำดตำมองอยู่สองสำมที มอง “หนังสือ ภำพวำดตำมแบบ’ แต่ละแผ่นที่เป็ นฟ้ ำดินร่ำงกำยมนุษย์และกำรไหล รินลมปรำณของจ้ำวซู่เซี่ย อยู่ดีๆ เฉินผิงอันก็พยักหน้ำ ยิ้มเอ่ยว่ำ “สอนหมัดแบบนี้สิถึงจะถูก มีควำมมั่นใจเพิ่มมากขึ้นแล้ว”
สอนลูกศิษย์อย่ำงจ้ำวซู่เซี่ยถึงจะมีควำมรู ้สึกถึงกำรประสบ ควำมส ำเร็จ
เฉินผิงอันประกบสองนิ้วชี้ๆ จิ้มๆ ไปที่ภำพปรำกฏกำรณ์ดวงดำว ภำพหนึ่งในนั้นอย่ำงว่องไว พริบตำเดียวก็ระบุชื่อของจุดลมปรำณ ออกมาได้สำมสี่ร ้อยจุด ล้วนเป็ นด่ำนและจวนที่ลมปรำณแท้จริงของ ผู้ฝึกยุทธซึ่งเป็ นดั่ง “มังกรไฟเดินลงน้ำ” ของจ้ำวซู่เซี่ย เหมือนว่ำเขำ ได้วำดภำพแผนที่ชัยภูมิที่ชัดเจนภำพหนึ่ง จำกนั้นให้จ้ำวซู่เซี่ยกลั้น หำยใจทำสมาธิ ลองเดินนิ่งหกก้ำวครั้งหนึ่ง จำกนั้นเฉินผิงอันก็ คัดลอกภำพแผนที่อีกครั้ง โบกชำยแขนเสื้อหนึ่ งที ภำพ ปรำกฏกำรณ์ดวงดำวสองภำพผสำนรวมเป็ นหนึ่ง เฉินผิงอันเอ่ยว่ำ “สำมารถลองดูอย่ำงละเอียดได้ สองอย่ำงนี้ต่ำงกันตรงไหน ลอง สังเกตดูก่อนหนึ่งก้ำนธูป หลังจำกนั้นก็เดินนิ่งหกก้ำวอีกรอบ หำกไม่
มีกำรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นอย่ำงเห็นได้ชัด ข้ำก็จะได้บอกให้พ่อครัว เฒ่ำไปเตรียมยาสมุนไพรและถังน้ำเอำไว้”
หนึ่งก้ำนธูปผ่ำนไป จ้ำวซู่เซี่ยนอนอยู่บนพื้น สลบเหมือดไปแล้ว เฉินผิงอันตะโกนเรียก “จูเหลี่ยน เริ่มงำน”
ผู้เฒ่ำหลังค่อมรีบตะโกนกลับเสียงดังทันใด “มาแล้วๆ เตรียมไว้ นำนแล้ว”
จูเหลี่ยนมาที่ชั้นสองของเรือนไม้ไผ่ มองจ้ำวซู่เซี่ยที่ไม่มีทั้งเลือด ท่วมตัว แล้วก็ไม่ได้ “เดินนิ่ง” แบบชักกระตุกก็ทอดถอนใจเอ่ยว่ำ “คุณชำยยังคงใจบุญมีเมตตำ”
เฉินผิงอันแบกจ้ำวซู่เซี่ยลงมาจำกชั้นสอง มุ่งหน้ำไปยังเรือนพัก ของลูกศิษย์ปิดส ำนักคนนี้ อธิบำยว่ำ “เส้นเอ็นหัวใจของซูเชี่ยขมวด ตึงอยู่ตลอดเวลำ วันนี้ไม่เหมาะจะสอนหมัดไปมากกว่ำนี้ ค่อยเป็ น ค่อยไปเถออะ เจ้ำว่ำข้ำควรจะโทษใคร?”
สรุปแล้วเป็ นใครกันแน่ที่ทำให้จ้ำวซู่เซี่ยรู้ควำมหมายแฝงของค ำ ว่ำ “ปิดประตู” แต่เนิ่น?
จูเหลี่ยนรีบแฉตัวเองทันที “ต้องโทษที่ข้ำแพร่งพรำยควำมลับ สวรรค์ล่วงหน้ำ”
เฉินผิงอันพูดไม่ออกไปทันที
จูเหลี่ยนพูดกลั้วหัวเรำะเบำๆ ว่ำ “คุณชำย วันนี้ก็ช่ำงเถิด พรุ่งนี้ ล่ะ วันมะรืนล่ะ กำรฝึกหมัดที่แท้จริงมีตอนใดบ้ำงที่ไม่ต้องร่อแร่เกือบ ตำย”
ตำมหลักแล้วหำกเปลี่ยนมาเป็ นซุยฉำน จ้ำวซู่เซี่ยไม่ปำงตำย เจ็ดแปดตลบ หมดสติแล้วถูกตีจนฟื้นขึ้นมาใหม่ ถูกตีจนฟื้นแล้ว หมดสติไปอีกรอบ จ้ำวซู่เซี่ยก็ไม่มีทำงได้เดินออกไปจำกเรือนไม้ไผ่ แน่
แต่ตำมควำมเห็นของจูเหลี่ยน ในฐำนะลูกศิษย์ปิดสำนักของเฉิน ผิงอัน หำกจ้ำวซู่เซี่ยสำมารถเรียนวิชำหมัดจำกชุยเฉิงซึ่งลำดับ อำวุโสห่ำงกันสองรุ่นได้จริง กลับไม่แน่ เสมอไปว่ำจะมีสภำพ อเนจอนำถเช่นนี้ เพรำะควำมสนิทสนมข้ำมรุ่นนั้นเป็ นเรื่องที่ไม่มี เหตุผลให้อธิบำยได้จริงๆ
เฉินผิงอันพยักหน้ำ “ตอนนี้ข้ำยังตัดใจลงมืออำมหิตไม่ได้จริงๆ ดังนั้นข้ำเองก็ต้องปรับสภำพจิตใจด้วย”
จูเหลี่ยนถอนหำยใจเบำๆ หนึ่งที ปีนั้นคุณชำยเรียนหมัด มีเพียง หน่วนชูกับเฉินหลิงจวินเท่ำนั้นที่รู ้สถำนกำรณ์ แต่กำรเรียนหมัดของ เผยเฉียนในภำยหลัง จูเหลี่ยนเห็นอยู่ในสำยตำอย่ำงแท้จริงตั้งแต่ต้น จนจบ ไม่พูดถึงว่ำนำงต้องเจอกับควำมยากลำบำกในชั้นสองมากแค่ ไหน พูดถึงแค่ปีนั้นตอนที่ถ่ำนดำน้อยกินข้ำวแล้วมักจะก้มหน้ำก้มตำ กินเป็ นประจ ำรอกระทั่งนำงเงยหน้ำขึ้นอีกครั้ง คนข้ำงๆ ต้องเห็น สภำพน่ำขนลุกที่เลือดไหลออกมาจำกทั้งดวงตำและรูหูของนำง ส่วน
ใหญ่ตัวเผยเฉียนเองมักจะไม่รู ้ตัวแม้แต่น้อย กลับกันยังยิ้มกว้ำงพวก เจ้ำมองอะไรกัน มองผีหรือ กินข้ำวสิ!
คำดว่ำหำกคุณชำยได้เห็นภำพเหตุกำรณ์นี้กับตำตัวเอง อย่ำว่ำ แต่สงสำรเลย คงจะใจสลำยเลยด้วยซ้ำ ต้องขึ้นเรือนไม้ไผ่ไปสู้ตำย กับชุยเฉิงแน่นอน
เฉินผิงอันพลันถำมว่ำ “เจ้ำคิดจะถำมหมัดกับข้ำตอนไหน? บอก เวลำและสถำนที่มา”
จูเหลี่ยนถูมือยิ้มเอ่ย “หำกคุณชำยไม่เป็ นฝ่ ำยถำม ข้ำก็ไม่กล้ำ พูดถึงหรอก”
เฉินผิงอันหัวเรำะหึหึ “จะเกรงใจข้ำไปไย ตอนถำมหมัด ข้ำไม่มี ทำงเกรงใจเจ้ำอยู่แล้ว”
ควำมหมายในคำพูดนี้ก็คือ เฉินผิงอันไม่มีทำงกดขอบเขต
เพรำะถึงอย่ำงไรจูเหลี่ยนก็เป็ นขอบเขตยอดเขำที่ห่ำงจำก ขอบเขตปลำยทำงแค่กระดำษหน้ำต่ำงชั้นหนึ่งกั้นขวำงเท่ำนั้น
จูเหลี่ยนครุ่นคิด “ถ้ำอย่ำงนั้นก็เลือกหน้ำหนำวของปีนี้ เลือก วันที่หิมะตกหนัก สถำนที่เป็ นเมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยนในพื้นที่ มงคลรำกบัว?”
เฉินผิงอันพยักหน้ำ “ได้สิ” ……
บังเอิญยิ่งนัก ทำงฝั่งของภูเขำลั่วพั่วได้รับกระบี่บินส่งข่ำว เรือ ฟำนโม่และเรือเฟิงยวนจะมาถึงท่ำเรือหนิวเจี่ยวภำยในวันนี้ แต่ต้อง รออีกประมาณหนึ่งชั่วยาม
นอกจำกหมี่ลี่น้อยแล้วเฉินผิงอันยังเรียกหงเซี่ยและอวิ๋นจื่อ ชุ ยฮวำเซิงแห่งตรอกฉีหลงไปด้วย พวกเขำจะติดตำมเรือข้ำมฟำกเฟิง ยวนมุ่งหน้ำไปยังอุตรกุรุทวีป จะข้ำมทวีปไปถึงส ำนักพีหมาที่ ชำยหำดโครงกระดูกก่อน จำกนั้นเลียบเส้นทำงเดินเรือเลียบ มหำสมุทรจำกตะวันออกไปยังทิศใต้ จอดเทียบท่ำที่ตำหนักน้ำค้ำง วสันต์ จำกนั้นเลียบลำน้ำจี้ตู๋ไปยังท่ำเรือใต้กำรปกครองของต ำหนัก นภำกำศหน่วยฉงเสวียนนที่อยู่ภำคกลำง ไปต่อที่นครเหนือเมฆที่อยู่ ทำงใต้….แม้จะบอกว่ำนั่งโดยสำรเรือออกเดินทำงไกล แต่จะดีจะชั่วก็ ถือว่ำได้ไปเยือนเกือบครึ่งทวีปของอุตรกุทวีปแล้ว ก็เหมือนอย่ำง หงเซี่ยที่ตอนนี้เฉยๆ ไม่มีท่ำทีอะไรแต่อวิ๋นจื่อกับเด็กสำวชุยฮวำเซิง ต่ำงก็ดีใจกันมาก ฝ่ ำยหลังนี้ดีใจยิ่งกว่ำ แน่นอนว่ำเป็ นเพรำะอีกไม่ นำนก็จะได้พบเจอกับพี่ชำยที่พลัดพรำกจำกกันไปนำนหลำยปีกว่ำ จะได้กลับมานับญำติกันอีกครั้งผู้นั้น ทุกวันนี้เขำเป็ นเจ้ำสำนักของ สำนักแห่งหนึ่งแล้วนะ นำงที่เป็ นน้องสำว ช่วงนี้นอนหลับก็ยังตื่นมา พร ้อมเสียงหัวเรำะเลยนะ
ยังอยู่ห่ำงจำกช่วงเวลำที่เรือมังกรจะมาจอดเทียบท่ำอีกเล็กน้อย กลุ่มของเฉินผิงอันจึงเดินเล่นไปตำมร ้ำนรวงของบ้ำนตัวเอง หมี่ลี่
น้อยสนิทสนมกับพวกผู้ฝึกตนหญิงของภูเขำหลังอ๋ำวมาก ต่ำงฝ่ ำย ต่ำงทักทำยกันอย่ำงกระตือรือร ้น
ร ้ำนผ้ำห่อบุญได้ทิ้งสิ่งปลูกสร ้ำงไว้ที่ภูเขำหนิวเจี่ยวแห่งนี้ไม่น้อย สิ้นเปลืองหินหยกวัสดุไม้ของตระกูลเซียนไปไม่น้อย อู๋โซ่วที่เป็ นผู้มี สิทธิ์ตัดสินใจของร ้ำนผ้ำห่อบุญในแจกันสมบัติทวีป เห็นได้ชัดว่ำ แรกเริ่มนั้นอยากให้ท่ำเรือหนิวเจี่ยวของต้ำหลีเป็ นฐำนทัพใหญ่แล้ว ทำกำรดำเนินให้ดีๆ ผลคือขุดบ่อขุดไปได้ครึ่งทำงก็เผ่นหนีเสียแล้ว ก็ไม่แปลกที่จำงจื่อผู้เป็ นบรรพบุรุษจะจงใจพำเขำไปเยือนภูเขำเซียน ตูด้วย ดื่มน้ำชำที่ท่ำเรือชิงชำนไปรอบหนึ่ง คำดว่ำหำกไม่ได้อบรม บ่มเพำะตัวเองเป็ นเวลำหกสิบปีหรือร ้อยปี หัวใจดวงนั้นของอู๋โซ่วก็คง คืนสภำพกลับมาดีเหมือนเดิมไม่ได้
ร ้ำนที่ทุกวันนี้เปิดประตูทำกำรค้ำมีไม่ถึงหนึ่งส่วนสำม นอกจำก สมุนไพรหลำกหลำยชนิดบนภูเขำที่ตำหนักน้ำค้ำงวสันต์เป็ นผู้ปลูก ยังมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อหำยากอย่ำงของแคว้นหลันฝำง พ่อครัวเฒ่ำ ยังตั้งใจแต่งตำรำกล้วยไม้ขึ้นมาโดยเฉพำะ ได้ยินมาว่ำยอดเขำของ ตำรำนี้ยังดีกว่ำกล้วยไม้เสียอีก
นอกจำกนี้ก็ยังมีเครื่องเคลือบลำยครำมและภำพวำดผลงำนกำร เขียนตัวหนังสือด้วยพู่กัน ของจุกจิกสำรพัดอย่ำง รำคำล้วนไม่ต่ำ แต่ทำงร ้ำนสำมารถรับรองว่ำเป็ นของจริงทั้งหมด แล้วก็มีสมบัติอีก กองใหญ่ที่หม่ำตู่อี๋ตั้งใจรวบรวมมา ล้วนส่งมาวำงขำยที่นี่ นำงคือคน โลภในทรัพย์สินอย่ำงไม่หักไม่ลบ เอำเงินสะสมทั้งหมดทุ่มลงทุนไป
แล้ว มีหลำยครั้งที่เก็บตกของดีได้ แล้วก็ที่ถูกต้ม แต่โดยภำพรวม แล้วยังนับว่ำได้ก ำไรมาไม่น้อย
ก็เหมือนอย่ำงก่อนหน้ำนี้ตอนที่เฉินผิงอันอยู่บนเกำะหลังอำว ได้ เจอกับหลิวเสีย ก่วนชิงและป๋ ำยแชว่ผู้ฝึกตนหญิงของเกำะจูไช ลูก ศิษย์ผู้สืบทอดของหลิวจ้งรุ่นแทบทุกคนล้วนเคยมารับงำนควบช่วย ขำยของอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังไม่ได้ค่ำตอบแทนด้วย จ้ำวหลวนและเถียน จิ่วเอ๋อร ์ก็มาช่วยที่นี่เป็ นประจำ เจ้ำลูกคิดน้อยน่ำหลันอวี้เตี๋ยได้รับ กำรสืบทอดอันดีงำมของตระกูลตัวเองมา อำยุน้อยๆ ก็คิดอยากจะท ำ กำรค้ำโดยที่อยากมีหอเรือนสักหลังที่นำงเป็ นผู้ดูแลเอง ถึงอย่ำงไร ร ้ำนค้ำที่ว่ำงก็มีมากขนำดนั้น ก่อนจะทำพิธีเปิดป้ ำยเริ่มค้ำขำย นำง ก็จะลงนำมกับภูเขำลั่วพั่วก่อน มีกำรรับประกัน หำกขำดทุนนำงจะ จ่ำยเอง แต่หำกได้ก ำไรค่อยมาแบ่งส่วนแบ่งกัน
ทุกครั้งที่ผ่ำนท่ำเรือหนิวเจี่ยวแห่งนี้ เฉินผิงอันจะต้องอดนึกถึงผู้ เฒ่ำที่ชื่อหงหยางโปของหอชิงผู้ท่ำเรือตระกูลเซียนภูเขำตี้หลงไม่ได้
ครำวก่อนตั้งใจไปเยือนหอชิงฝู เฉินผิงอันใช ้เงินร ้อนน้อยห้ำ เหรียญซื้อเทียบอักษรที่เป็ นฉบับส ำเนำของ “เทียบน่ำเสียดำย” มา ถือว่ำเป็ นเทียบที่ใกล้เคียงกับผลงำนจริงมากแล้ว
ตัวอักษรเริ่มต้นของเทียบอักษรคือ “น่ำเสียดำยปรำณกระบี่ห่ำง
สำหรับเด็กน้อยแล้ว อะไรเรียกว่ำเติบใหญ่ คงจะเป็ นกำรที่พ่อแม่ ไม่ต้องควบคุมอยากกินอะไรก็ได้กินอย่ำงนั้น
สำหรับผู้ใหญ่แล้ว อะไรเรียกว่ำมีเงิน บำงทีก็คงเป็ นกำรที่อยาก ซื้ออะไรก็ซื้อได้โดยไม่ต้องดูรำคำ
ไปที่ท่ำเรือหนิวเจี่ยว เฉินผิงอันเห็นป้ ำยไม้ “สะดุดตำ’ ที่ตั้งอยู่ ข้ำงทำงแผ่นนั้นแล้วพยักหน้ำ โจวจวิ้นเฉินคล่องแคล่วว่องไวดีมาก ไม่ผัดวันประกันพรุ่งแม้แต่น้อย
ตอนนี้สองสำนักบนล่ำง บ้ำนตัวเองได้ครอบครองเรือข้ำมฟำก สำมล ำ เรือฟำนโม่เรือมังกรล ำแรกสุด เรือเฟิงยวนในภำยหลัง และ ต่อมาคือเรือข้ำมฟำก “ถงอิน” ที่หลิวจวี้เป่ ำและอวี๋พ่ำนสุ่ยร่วมกัน มอบให้ตอนเข้ำร่วมงำนพิธีที่สำนักกระบี่ชิงผิง ระดับขั้นเทียบเท่ำกับ เรือมังกร แม้ว่ำจะไม่ใช่เรือขนำดใหญ่ที่สำมารถข้ำมทวีปได้ แต่ เส้นทำงกำรเดินเรือก็ข้ำมผ่ำนพื้นที่ของครึ่งทวีปได้อย่ำงไม่มีปัญหำ อีกทั้งจำนวนสิ่งของที่บรรทุกลงเรือได้ก็เหนือกว่ำเรือมังกรที่เป็ นเรือ ทัศนำจรระดับหนึ่ง
หำกไม่เป็ นเพรำะกังวลว่ำจะตกเป็ นที่ต้องสงสัยว่ำทำดีหวังผล เดิมทีเฉินผิงอันยังอยากจะขอซื้อเรือข้ำมฟำก “เหลยเชอ” มาจำก สกุลเหยาต้ำเฉวียน หรือไม่ก็ถอยมาเลือกลำดับรอง ทำกำรสั่งจอง เรือลำที่สี่กับรำชสำนักต้ำเฉวียน
ทำไมเขำจะไม่อยากไปทำกิจกำรที่ฝูเหยาทวีปเล่ำ?
ส ำหรับภูเขำลั่วพั่วแล้วนี่ถือเป็ นกำรได้เปรียบก่อนใคร เส้นทำง กำรเดินเรือเส้นนี้จะทยอยเดินทำงผ่ำนเกำะหลูฮวำ สำนักอวี่หลง
จำกนั้นไปยังฝูเหยาทวีป แล้วนับประสำอะไรกับที่ที่ฝูเหยาทวีปเฉินผิง อันก็ยังต้องจับตำมองเรื่องหนึ่งด้วย
นอกจำกนี้หลิ่วเซินเจ้ำของเรือ “หนีชำง” ก็ได้ส่งจดหมายมาเชื้อ เชิญ บอกว่ำอำจำรย์เจ้ำประมุของพรรคนำงเพิ่งจะออกจำกด่ำนได้ สำเร็จ เลื่อนเป็ นขอบเขตหยกดิบแล้ว อยากจะถำมอิ่นกวำนหนุ่มว่ำมี เวลำจะเข้ำร่วมงำนพิธีหรือไม่ แน่นอนว่ำกำรเชื้อเชิญประเภทนี้ก็เป็ น แค่กำรท ำให้พอเป็ นพิธีเท่ำนั้นเอง ได้รับจดหมายตอบกลับที่ปฏิเสธ อย่ำงละมุนละม่อมฉบับหนึ่ง หลิ่วเซินก็พึงพอใจแล้ว เพรำะนำงรู ้ดีอยู่ แก่ใจว่ำ เฉินอำนกวำนต้องไม่มีทำงข้ำมน้ำข้ำมทะเลมาเข้ำร่วมงำน พิธีที่พรรคของตัวเองแน่ พรรคของหลิ่วเซินตั้งอยู่บนเกำะแห่งหนึ่ง บนทะเลทิศตะวันตกเฉียงใต้ของใต้หล้ำไพศำล เจอกองทัพใหญ่เผ่ำ ปีศำจแห่งเปลี่ยวร ้ำงรุกรำน ระหว่ำงที่เกิดสงครำมใหญ่ได้ถอนหนี ออกไป ภำยหลังหวนกลับมายังมาตุภูมิเดิมแต่เปลี่ยนมาสร ้ำงศำล บรรพจำรย์บนเกำะอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงแทน