กระบี่จงมา - บทที่ 983.3 คำตอบของปริศนา
เข้ำไปในร ้ำนแล้ว เฉินผิงอันก็ถำมว่ำ “ข้ำขอเปิ ดลิ้นชักดู สมุนไพรที่อยู่ในนั้นหน่อยได้ไหม?”
สือหลิงซำนเอ่ยอย่ำงไม่สบอำรมณ์ “เปิ ดประตูท ำกำรค้ำ ถึง อย่ำงไรก็ท ำไปตำมกฎเกณฑ์ ข้ำกับเจ้ำก็ไม่ได้มีควำมแค้นต่อกัน เชิญเจ้ำดูได้ตำมสบำย”
เฉินผิงอันยกมือขึ้นเช็ดกับเสื้อชุดเขียวตรงช่วงเอวด้วยควำม เคยชิน จำกนั้นจึงเดินไปที่ตู้ยำ มองชื่อที่ระบุไว้ด้ำนบน เปิดลิ้นชัก หนึ่งออกเบำๆ
เก็บยำ จับยำ ต้มยำ ในเรื่องพวกนี้ บำงทีงเฉินผิงอันอำจจะไม่ ด้อยไปกว่ำหมอที่มีประสบกำรณ์ซึ่งอยู่ในร ้ำนยำเลยด้วยซ้ำ
ต่ำงก็พูดกันว่ำน้ำและดินของพื้นที่แห่งหนึ่งเลี้ยงดูคนของพื้นที่ แห่งหนึ่ง สมุนไพรก็เป็ นหลักกำรเดียวกัน จดจำดินได้ดีที่สุด สมุนไพรแบบเดียวกันเติบโตในอำณำเขตของภูเขำที่ต่ำงกัน ฤทธิ์ยำ ก็จะมีควำมต่ำงกันเยอะมำก ถ้ำอย่ำงนั้นปริมำณในกำรใช ้ยำก็จะ เปลี่ยนแปลงตำมไปด้วย หลำยปีมำนี้ภูเขำใหญ่ทำงทิศตะวันตกได้ กลำยเป็ นกิจกำรส่วนตัวหมดแล้ว ถ้ำอย่ำงนั้นคิดจะขึ้นเขำไปเก็บ สมุนไพรก็กลำยเป็ นเรื่องที่ไม่ง่ำยเลย ดังนั้นสมุนไพรหลำยอย่ำงใน
ร ้ำนยำจึงต้องหำช่องทำงใหม่ ยกตัวอย่ำงเช่นไปขอซื้อจำกพ่อค้ำ ที่มำจำกถิ่นต่ำงๆ และจำกทำงฝั่งของเมืองหงจู่
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เด็กชำยผมขำวพลันลุกขึ้นยืน วิ่งเข้ำไปในห้อง คิดว่ำจะใช ้ทำงลัดอ้อมหัวหน้ำใหญ่แห่งศูนย์บัญชำกำรณ์อย่ำงเผย เฉียนไป ขอพระรำชโองกำรมำจำกบรรพบุรุษอิ่นกวำนโดยตรงเลย ขอให้ตนได้เป็ นรองหัวหน้ำของศูนย์ใหญ่ก็แล้วกัน คนที่รู ้จักพอย่อม มีควำมสุข ไม่รังเกียจที่ตำแหน่งขุนนำงเล็กไป
เด็กชำยผมขำวกดเสียงลงต่ำพูดเรื่องนี้กับบรรพบุรุษอิ่นกวำน ผลลัพธ ์ไม่ผิดไปจำกที่คำด บรรพบุรุษอิ่นกวำนพูดมำค ำเดียวว่ำให้ นำงไสหัวไป
เฉินผิงอันเปิดลิ้นชักอีกอันหนึ่ง สูดดมกลิ่น ชื่อของยำสมุนไพร ชนิดนี้น่ำสนใจมำกเรียกว่ำหวังปู้ หลิวสิง (แปลตรงตัวว่ำอ๋องไม่ทิ้ง ร่องรอย เป็ นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ำยเมล็ดผักกำด สำมำรถน ำมำแปะบริเวณจุดสะท้อนของอวัยวะต่ำงๆ ตำมเส้น ลมปรำณที่หู)
เฉินผิงอันผลักลิ้นชักกลับไปเบำๆ หันหน้ำมำพูดเสนอแนะด้วย รอยยิ้มว่ำ “สือหลิงซำน วันหน้ำหำกทำงร ้ำนยำอยำกจะขึ้นเขำไป เก็บสมุนไพรก็สำมำรถไปตำมสถำนที่ต่ำงๆ อย่ำงภูเขำเซียนฉ่ำว ภูเขำเซียนตูและยังมียอดเขำเว่ยเสียได้ บนนั้นมีสมุนไพรอยู่ห้ำสิบ หกสิบชนิด บำงทีอำจดีกว่ำไปหำซื้อมำจำกข้ำงนอก แล้วยังประหยัด เงินได้ด้วย”
สือหลิงซำนที่กำลังดีดลูกคิดพูดอย่ำงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่ำ “เจ้ำพูดเรื่องนี้กับข้ำไปก็เท่ำนั้น ขึ้นเขำเก็บสมุนไพรไม่ใช่หน้ำที่ข้ำ ข้ำก็แค่ลูกจ้ำงที่เฝ้ ำร ้ำน แต่ข้ำสำมำรถเอำไปบอกเจ้ำคนผู้หนึ่งที่ พึ่งพำไม่ได้ให้ได้ บอกไว้ก่อนนะว่ำเจ้ำหมอนั่นน่ะพึ่งไม่ได้ พูดจำ เสียงดังกว่ำผำยลม ท ำงำนน้อยกว่ำผำยลม ได้ยินแต่เสียงฟ้ ำผ่ำไม่ เห็นฝนตก ร ้ำนนี้อำศัยเขำจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้ปิดร ้ำนก็ถือว่ำมี ควันเขียวผุดออกมำจำกหลุมศพบรรพบุรุษแล้ว”
เฉินผิงอันยิ้มรับ
ขนบธรรมเนียมของเมืองเล็ก แต่ไหนแต่ไรมำก็เรียบง่ำยเช่นนี้ เสมอ
ยำมพูดจำชอบเหน็บหอกพกกระบอง (เปรียบเปรยถึงกำรเสียดสี เหน็ บแนม) แต่ละคนล้วนเป็ นยอดฝี มือในยุทธภพที่ต่อให้ไม่มี อำจำรย์สั่งสอนก็เข้ำใจได้ด้วยตัวเอง
สือหลิงซำนที่มำจำกตรอกเถำเย่ อย่ำงมำกสุดก็ได้แต่เป็ นลูก ศิษย์นักกำรฝ่ำยนอกของพรรคนี้เท่ำนั้น
เด็กชำยผมขำวรู ้สึกนับถือชำยหนุ่มผู้นี้จริงๆ ถึงกับกล้ำพูดจำ แบบนี้กับบรรพบุรุษอิ่นกวำนของตน
ต่อให้วันเวลำผันผ่ำน คนในท้องถิ่นของบนถนนฝูลู่และตรอก เถำเย่ของเมืองเล็ก รวมไปถึงตรอกและถนนแห่งอื่นที่ยังอยู่ที่นี่ต่อ
หำกไม่พูดถึงควำมต่ำงระหว่ำงเซียนและคนธรรมดำซึ่งซ่อนอยู่หลัง ม่ำน อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมำกนัก
ยังคงมีคนที่สวมเสื้อผ้ำสะอำดสะอ้ำน อ่ำนตำรำเป็ นนักเล่ำนิทำน
แล้วก็มีคนที่ในซอกเล็บมักจะมีครำบดิน มือที่ด้ำนหยำบถูกควัน ถ่ำนรมจนด ำ ชอบด่ำกรำดคนอื่นไปทั่ว
เฉินผิงอันเดินออกมำจำกในร ้ำน หลังจำกข้ำมธรณีประตูมำแล้ว ก็ยืนอยู่ที่เดิมพักหนึ่ง
หลังจำกนั้นก็เดินผ่ำนซุ้มก้ำมปู
เฉินผิงอันเดินวนรอบซุ้มป้ ำยไปช ้ำๆ หนึ่งรอบ สองมือสอดกันไว้ ในชำยแขนเสื้อ แหงนหน้ำมองอยู่ตลอดเวลำ
ตังเหรินปู้ รั่ง (มิเกี่ยงงอนต่อหน้ำที่ที่พึงกระทำ) ซีเหยียนจื้อหรำน (ปล่อยไปตำม ธรรมชำติ) โม่เซี่ยงว่ำยฉิว (ไม่แสวงหำสิ่งนอกกำย) วี่ ชงหนิวโต้ว (พลังท่วมทะยำนฟ้ ำ)
เด็กชำยผมขำวยืนอยู่ที่เดิมตลอดเวลำ มองอะไรไม่ออก เพรำะ ทุกวันนี้กรอบป้ ำยทั้งสี่ล้วนไม่เหลือกลิ่นอำยแห่งมรรคำอยู่แล้วแม้แต่ เศษเสี้ยว
เฉินผิงอันเดินเล่นต่อไปอีกครั้ง เหลำสุรำที่เป็ นสิ่งปลูกสร ้ำงที่สูง ที่สุดในเมืองเล็กซึ่งตั้งอยู่ข้ำงทำง เจ้ำของตัวจริงคือเฟิ งอี๋ กิจกำร ยังคงดีมำก ทุกครั้งที่มีงำนเลี้ยงฉลอง ไม่ว่ำจะเป็ นงำนแต่งหรืองำน
ฉลองตำแหน่งอะไรก็ตำม คนในพื้นที่ก็ล้วนชอบมำโอ้อวดควำม ร่ำรวยที่นี่ ผู้ฝึ กลมปรำณบำงคนที่ซื้อบ้ำนไว้ที่นี่เป็ นพื้นที่ประกอบ พิธีกรรมก็ชอบมำจิบเหล้ำสองสำมจอกที่นี่เหมือนกัน แต่เหล้ำที่พวก เขำดื่ม ย่อมไม่เหมือนกับของชำวบ้ำนทั่วไป
บ่อโซ่เหล็กได้ถูกที่ว่ำกำรอำเภอล้อมปิดไว้นำนแล้ว มีกำรนำหิน มำก่อเป็ นรั้วรอบขอบชิด พวกชำวบ้ำนมิอำจหิ้วถังน้ำมำตักน้ำที่นี่ได้ อีก
ต้นไหวโบรำณก็ยิ่งไม่อยู่แล้ว
เดินเลียบถนนหลักของตัวอ ำเภอออกไปก็จะเดินไปถึงบ้ำนดิน เหลืองที่ตั้งอยู่ทำงทิศตะวันออกสุดของเมืองเล็ก เป็ นบ้ำนของเจิ้งต้ำ เฟิง คนเฝ้ ำประตูภูเขำลั่วพั่วคนแรกของบ้ำนตน
เดินออกไปข้ำงนอกอีกก็คือสุสำนเทพเซียนที่ในอดีตมีหญ้ำขึ้น รกชัฏ สำมำรถเดินอ้อมเส้นทำงไปยังภูเขำเครื่องกระเบื้องที่อยู่ทำง เหนือ แต่ทั้งสองสถำนที่ต่ำงก็ถูกรำชสำนักต้ำหลีแยกมำสร ้ำง ศำลปุ่นบู๋ไปแล้ว
เฉินผิงอันเดินไปนั่งลงบนตอไม้ข้ำงทำง พูดกับเด็กชำยผมขำว ว่ำ “ไม่ต้องตำมมำแล้วเดี๋ยวคนอื่นจะเข้ำใจผิด”
เด็กชำยผมขำวแกล้งโง่ ชูมือขึ้นสูงวัดควำมสูงระหว่ำงคนทั้งสอง “พวกเรำสองคนเนี่ยนะ จะเข้ำใจผิดเรื่องอะไรได้?”
แต่บอกตำมตรง หำกว่ำได้เป็ นลูกสำวของบรรพบุรุษอิ่นกวำน จริงๆ คิดดูแล้วก็น่ำจะเป็ นเรื่องที่โชคดีมำกเรื่องหนึ่งกระมัง?
ดูอย่ำงเผยเฉียน เฉินหน่วนซู่ หมี่ลี่น้อยสิ แค่นี้ก็รู ้แล้วว่ำหำกใน อนำคตเจ้ำหมอนี่มีลูกสำวจะรักและตำมใจมำกถึงเพียงใด
ถ้ำอย่ำงนั้นเจ้ำก็หัดทำท่ำเสือโหยกระโจนหำลูกแกะอย่ำงหนิง เหยำเข้ำสิ รีบท ำข้ำวสำรให้กลำยเป็ นข้ำวสุกซะ มัวแต่ขี้ขลำดอยู่ อย่ำงนี้ก็สมควรแล้วที่ต้องแห้งเหี่ยว
เฉินผิงอันคร ้ำนจะถือสำนำง นั่งอยู่บนตอไม้ หันหน้ำไปมอง เส้นทำงที่ทอดยำวออกไปไกล
กำแพงเมืองปรำณกระบี่มีผู้ฝึกกระบี่มำกมำยดุจก้อนเมฆ หำกจะ บอกว่ำผู้ฝึกลมปรำณนอกเหนือจำกผู้ฝึกกระบี่แล้วไม่เหมำะที่จะไป ฝึ กตนที่กำแพงเมืองปรำณกระบี่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นั่นมีปรำณ กระบี่เข้มข้นเกินไป อัดแน่นอยู่ทั่วทั้งฟ้ ำดิน สำหรับผู้ฝึกลมปรำณ แล้วก็คือควำมทรมำนอย่ำงหนึ่ง
แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เฉินผิงอันคิดเป็ นร ้อยตลบแล้วก็ยังไม่เข้ำใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู ้สึกได้ถึงควำมลี้ลับ
นั่ น ก็ คือ จ ำ น ว น ข อ ง ผู้ฝึ ก ยุ ท ธ ข อ บ เ ข ต ป ล ำ ย ท ำ ง ใ น ประวัติศำสตร ์ของก ำแพงเมืองปรำณกระบี่มีน้อยมำกเกินไปจริงๆ! ถึง ขั้นสำมำรถพูดได้ว่ำน้อยจนทำให้คนโมโหเลยทีเดียว
ป๋ ำยหมัวมัว นำงเคยเป็ นปรมำจำรย์ใหญ่ขอบเขตปลำยทำง เพียงแต่ว่ำได้รับบำดเจ็บบนสนำมรบจึงขอบเขตถดถอย กลำยมำ เป็ นขอบเขตยอดเขำ
ตำมบันทึกที่อยู่ในเอกสำรของคฤหำสน์หลบร ้อน บวกกับย้อน ทวนขึ้นไป ในช่วงเวลำที่ยำวนำนอย่ำงยิ่ง กำแพงเมืองปรำณกระบี่มี ผู้ฝึ กยุทธขอบเขตปลำยทำงแค่คนเดียวเท่ำนั้นอีกทั้งยังเป็ น ปรมำจำรย์หญิงเหมือนกันด้วย
รำวกับว่ำโชคชะตำบู๊ของกำแพงเมืองปรำณกระบี่เมตตำต่อผู้ฝึก ยุทธหญิงเท่ำนั้น?
เฉินผิงอันใช ้นิ้วเคำะหัวเข่ำเบำๆ หัวคิ้วขมวดแน่น
ตอนที่อยู่บนสะพำนยำวสีทอง นำงเคยเอ่ยประโยคหนึ่งที่เป็ นกำร แพร่งพรำยควำมลับสวรรค์ดวงดำวโบรำณส่องสว่ำง มีอีกชื่อหนึ่งว่ำ ฉำงเกิง อันที่จริงก็คือที่ตั้งของยอดเขำประหลำดลูกนั้น
ผู้ฝึกยุทธเต็มตัว กำยเนื้อกลำยเป็ นเทพ
น่ำเสียดำยที่บรรพบุรุษสำนักกำรทหำรคนนั้นมิอำจเดินไปบน มหำมรรคำเส้นนี้ได้อย่ำงแท้จริง
ต ำแหน่งขุนนำงสำมตำแหน่งของกำแพงเมืองปรำณกระบี่ สิง กวำน อิ่นกวำน จี้กวำน
ตำมเจตจำนงเดิมที่แต่งตั้งสำมตำแหน่งนี้ขึ้นมำ คือให้สิงกวำน รับหน้ำที่ด้ำนกำรเช่นฆ่ำสังหำร อิ่นกวำนวำงแผนใช ้กลอุบำย จี้ กวำนรับหน้ำที่เซ่นไหว้บวงสรวง
และจี้กวำนคนก่อน หำกอิงตำมบันทึกในเอกสำรลับสุดยอดของ คฤหำสน์หลบร ้อนเอกสำรที่จี้กวำนเก็บรวมไว้ในแต่ละยุคแต่ละสมัยมี ข้อมูลละเอียดมำก มีเพียงบันทึกถึงจี้กวำนเท่ำนั้นที่มีแค่ไม่กี่ประโยค ผู้ฝึกกระบี่ ขอบเขตหยกดิบ คุณูปกำรในกำรสู้รบน้อยนิดสำมำรถ พูดได้ว่ำไม่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย
จำได้ว่ำหนิงเหยำเคยเล่ำว่ำครั้งแรกที่นำงมำเยือนเมืองเล็ก เคย ได้ยินหยำงเหล่ำโถวเป็ นฝ่ ำยพูดถึงเรื่องนี้ในร ้ำนยำตระกูลหยำงด้วย ตัวเอง บอกว่ำเคยมีเซียนกระบี่คนหนึ่งที่เดินทำงผ่ำนมำแล้วได้ทิ้ง บันทึกขุนเขำสำยน้ำเล่มหนึ่งเอำไว้
ตำมคำกล่ำวของผู้เฒ่ำคือเขำมักจะเปิดอ่ำนบันทึกเล่มนี้บ่อยๆ จึงรู ้เรื่องรำวภำยนอกบำงอย่ำง
พูดถึงผู้ฝึ กกระบี่คนหนึ่งกับหนิงเหยำที่มำจำกกำแพงเมือง ปรำณกระบี่ ผู้เฒ่ำกลับใช ้ค ำเรียกขำนอย่ำงให้ควำมเคำรพว่ำ ‘เซียน กระบี่
เมื่อก่อนเฉินผิงอันไม่เคยสนใจในรำยละเอียดเรื่องนี้ ตอนนี้กลับ จ ำต้องครุ่นคิดอย่ำงลึกซึ้งแล้ว
ดังนั้นเฉินผิงอันจึงสงสัยว่ำเอกสำรที่เกี่ยวกับจี้กวำนรุ่นก่อนๆ ของคฤหำสน์หลบร ้อนล้วนจงใจปลอมแปลงขึ้นมำ
เฉินผิงอันคิดไปถึงอวี่ลู่อย่ำงเป็ นธรรมชำติ
ลุกขึ้นยืน เฉินผิงอันไม่ได้ไปที่สุสำนเทพเชียน แต่ย้อนกลับไป ทำงเดิม เดินทะลุผ่ำนตรอกและถนน แล้วจึงออกจำกเมืองเล็กมุ่งหน้ำ ไปยังสะพำนหินโค้ง
เด็กชำยผมขำวยังตำมมำด้ำนหลัง ก้ำวเดินอำดๆ พอเดินขึ้นมำ บนสะพำนโค้งแล้วก็ชี้ไปยังสีเขียวขจีแถบหนึ่งที่อยู่ริมลำคลอง พืช น้ำเหมือนด้ำมพู่กัน เป็ นปล้องๆ นำงจึงถำมอย่ำงใคร่รู ้ว่ำนั่นคืออะไร
เฉินผิงอันเหลือบมอง บอกว่ำคือต้นโหลวเฮำ เอำไปผัดกับเนื้อ จะสดกรอบ อร่อยมำกแต่ถือเป็ นพืชป่ ำที่ขึ้นตำมฤดูกำล ไม่ใช่ว่ำมี ให้พบเห็นได้ทุกเมื่อ
ท่ำมกลำงสำยลมวสันต์ หมื่นสรรพสิ่งเติบโตอย่ำงรุ่งเรือง คล้ำย กับว่ำไม่ว่ำอะไรก็มีหมด รอกระทั่งหน้ำหนำวมำเยือน ก็คล้ำยกับว่ำ ไม่เหลืออะไรอยู่เลย กำรขุดหน่อไม้ฤดูหนำวอันที่จริงไม่ใช่เรื่องง่ำย โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งตอนที่หิมะทับถมเต็มภูเขำ
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ยว่ำบทกวีที่เกี่ยวกับโหลวเฮำ บำงทีแรกเริ่มสุด น่ำจะมำจำกฝี มือของซูจื่อ แค่ใช ้ถ้อยคำไม่กี่คำ ซูจื่อก็สำมำรถ บรรยำยควำมงำมของทัศนียภำพประจำฤดูกำลที่ท ำให้คน เคลิบเคลิ้มได้แล้ว
เด็กชำยผมขำวจึงถำมว่ำพ่อครัวเฒ่ำทำกับข้ำวชนิดนี้เป็ น หรือไม่ เฉินผิงอันบอกว่ำข้ำก็ทำเป็ น เด็กชำยผมขำวร ้องอ้อหนึ่งที แต่กลับไม่มีควำมคิดจะไปเด็ดผักป่ำมำ
เฉินผิงอันยืนอยู่บนสะพำน ทอดสำยตำมองไปไกล พลัน สังเกตเห็นว่ำดูเหมือนในลำคลองจะมีเปิดเพิ่มจำกเดิมเยอะมำก ใช่ แล้ว หลิวเสี้ยนหยำงและแม่นำงหน้ำกลมต่ำงก็ไม่อยู่ที่ร ้ำนตีเหล็ก
มิน่ำเล่ำ มิน่ำเล่ำ
เด็กชำยผมขำวเดินไปบนผิวสะพำน ไปนั่งลงบนขั้นบันได เอ่ย ว่ำ “บรรพบุรุษอิ่นกวำนข้ำจะรออยู่ตรงนี้นะ”
เพรำะนำงรู ้ว่ำเฉินผิงอันจะไปท ำอะไร เรื่องรำวมำกมำยล้วน มองข้ำมข้อห้ำมได้ แต่มีเรื่องบำงเรื่องที่ไม่ควรล้อเล่น
เฉินผิงอันหันหน้ำมำยิ้มเอ่ย “ตำมมำก็ได้ ไม่ได้มีข้อพิถีพิถัน หรือข้อห้ำมอะไรสักหน่อย”
ไปจุดธูปและเติมดินที่หลุมศพ
เดินทำงไปเยือนใบถงทวีปครั้งนี้ได้ไปเยือนภูเขำดีๆ มำอีกหลำย ลูก ระหว่ำงที่เดินทำงกลับภูเขำลั่วพั่ว ลงเรือที่นครมังกรเฒ่ำ เดิน ทำงผ่ำนภูเขำสำยน้ำระยะทำงหนึ่งไปร่วมกับผู้อำวุโสซ่ง หลังจำกลำ กัน อันที่จริงเฉินผิงอันได้แอบตำมไปด้ำนหลังผู้เฒ่ำเงียบๆ จนกระทั่ง ผู้เฒ่ำไปถึงหน้ำประตูเมืองแห่งหนึ่งแล้วยกมือขึ้นโบกลำกะทันหัน เฉินผิงอันที่ติดตำมมำเงียบๆ ถึงได้คลี่ยิ้มแล้วจำกไป หลังจำกนั้นก็
ได้เดินทำงผ่ำนและหยุดพักที่ภูเขำเขียวดีๆ อีกหลำยลูก บำงแห่งก็ยัง มีหิมะทับถม เฉินผิงอันจุดธูปเติมดินเรียบร ้อยแล้วก็หยิบเหล้ำกำหนึ่งออกมำ นั่งยองลง เทเหล้ำลงหน้ำหลุมศพ เด็กชำยผมขำวนั่งยองมองอยู่ไกลๆ เฉินผิงอันหันหน้ำไปมอง หลุมศพที่อยู่ด้ำนหลังอยู่ตรงกับภูเขำ ลูกหนึ่งที่ห่ำงไปไกลในภูเขำลูกนั้นมียอดเขำคู่ที่เหมือนที่วำงพู่กัน อึ้งตะลึงไปพักใหญ่ เพรำะนี่เป็ นครั้งแรกที่เฉินผิงอันสังเกตเห็น เรื่องนี้ เด็กหนุ่มไม่รู ้ควำมในอดีต ไหนเลยจะรู ้เรื่องพวกนี้ ภำยหลังออกจำกบ้ำนเกิดไปหลำยครั้ง เข้ำใจเรื่องกำรมอง ลมปรำณและศำสตร ์ชัยภูมิอย่ำงผิวเผิน เพียงแต่ว่ำทุกครั้งที่มำที่ หลุมศพ เฉินผิงอันเองกลับไม่เคยมองไปยังภูเขำเขียวที่อยู่ห่ำงไกล เฉินผิงอันจึงนั่งลงข้ำงหลุมศพ มองภูเขำลูกนั้นเงียบๆ เสียเลย นี่แสดงให้เห็นว่ำ ปีนั้นหลังจำกที่ท่ำนพ่อท่ำนแม่จำกไป กำรที่ เลือกหลุมศพไว้ที่นี่เพรำะมีข้อพิถีพิถัน บำงทีอำจเป็ นพวกคนเฒ่ำคนแก่ในเมืองเล็กที่ช่วยเลือกให้ ทำงฝั่งของเมืองเล็กที่เป็ นบ้ำนเกิด ปีแล้วปีเล่ำที่ผ่ำนพ้น คนเฒ่ำ คนแก่น้อยลงไปเรื่อยๆ กลิ่นอำยของปีใหม่ก็เจือจำงลง
เคยได้ยินเผยเฉียนและหมี่ลี่น้อยเล่ำว่ำ ทุกวันนี้กำรถำมมื้อข้ำม ปีล้วนไม่ครึกครื้นอีกแล้ว
บำงทีที่เฉินผิงอันไม่อยู่บ้ำน พวกเผยเฉียนที่ยังเป็ นถ่ำนดำน้อย ก็จะเฝ้ ำคืนที่บ้ำนบรรพบุรุษในตรอกหนีผิง เช ้ำตรู่ก็เปิ ดประตูจุด ประทัด
หำกไม่เป็ นเพรำะเฉินผิงอันกำชับไว้นำนแล้ว คำดว่ำเผยเฉียนที่ ตอนนั้นพอจะมีเงินอยู่ในกระเป๋ ำมำกแล้วก็คงเหมำซื้อประทัดของทั้ง ร ้ำนมำเลยทีเดียว
หมี่ลี่น้อยเคยมีปริศนำอยู่ข้อหนึ่ง เป็ นปริศนำที่แม่นำงน้อยชุดดำ คิดขึ้นมำเองจริงๆเฉินผิงอันไม่ได้สอนนำง
มีครั้งหนึ่งหมี่ลี่น้อยถำมว่ำอะไรที่วิ่งได้เร็วที่สุด อะไรที่วิ่งได้ช ้ำ ที่สุด แต่กลับตำมไม่ทัน เฉินผิงอันให้คำตอบไปเยอะมำก หมี่ลี่น้อย ต่ำงก็บอกว่ำไม่ถูก ไม่ถูก เป็ นคำถำมที่ยำกส ำหรับเฉินผิงอันที่ถือว่ำ ฉลำดเฉลียวจริงๆ ทำเอำแม่นำงน้อยดีใจยิ่งนัก ชอบใจสุดขีดก่อนจะ บอกคำตอบของปริศนำให้กับเจ้ำขุนเขำคนดีด้วยท่ำทำงตื่นเต้นมี ควำมสุข บอกว่ำคือเมื่อวำนกับพรุ่งนี้!
ดูเหมือนว่ำจะเป็ นอย่ำงนี้จริงๆ ทุกๆ เมื่อวำนล้วนมิอำจหวน คืนกลับมำได้ ทุกๆ พรุ่งนี้ก็ล้วนอยู่ที่วันพรุ่งนี้
เด็กชำยผมขำวไม่ได้รบกวนเขำ
ภูเขำอบอุ่นสำยน้ำนุ่มนวล ต้นหลิวต้นหยำงเคียงคู่ พืชหญ้ำ เติบโตฝูงนกโบยบินวสันต์อำกำศอบอุ่นดอกไม้ผลิบำน