กระบี่จงมา - บทที่ 969.1 แย่งลูกศิษย์
ค่าคืนที่มีลมหิมะ คนทั้งกลุ่มเดินไปยังประตูเมืองท่มกลางลม หิมะที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้ ำ
ขุนเขาสายน้ำของหนึ่งทวีป ส่วนใหญ่มักจะมีแต่นครผีผุพังที่ไร ้ ร่องรอยของผู้คน ก็เหมือนโครงกระดูกแห้งเหี่ยวที่ยังไม่ย่อยสลาย เมื่อลมผัดผ่ำนตัวเมืองก็เหมือนเสียงเป่ำขลุ่ยกระดูก
เด็กหนุ่มร่ำงผอมบำง คิ้วตาเรียวยาว หน้ำตาหล่อเหลาเย็นชา ตรงใต้รักแร ้เหน็บดาบไว้เล่มหนึ่ง
ในมือของเด็กหนุ่มมีลูกหิมะที่ถูกบีบไว้จนแน่นหนา สลับโยนไป มาระห ว่างมือซ ้ำยและมือขวาซ้ำไปซ้ำมา
ผู้เฒ่ำร่ำงแข็งแกร่งก ำย ำ ฝีเท้ำหนักแน่น เพียงแต่เขาไอไม่หยุด คล้ำยจะทนรับลมหนาวไม่ไหว
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งสวมชุดผ้ำฝ้ ำย พกกระบี่
ยังมีอีกสองคน คนที่เดินอยู่ใกล้หน่อยคือชายฉกรรจ์ร่ำงกาย แข็งแรง มีรูปโฉมเหมือนคนโบราณ สะพำยห่อสัมภำระไว้เอียงๆ
สตรีหุ่นสูงเพรียว รูปโฉมไม่ถือ ว่าโดดเด่นสักเท่ไร แต่บุคลิก องอาจมีชีวิตชีวา ตรงเอวพกดาบแคบฝักเป็ นสีด ำสนิท ด้ำมไม้ท ำมา จากไม้ป๋ ำยหยาง
เด็กหนุ่มถามเสียงเบำ “คนผู้นั้นอยู่ในเมืองผีแห่งนี้จริงหรือ? อาจารย์เจิง ท่น ว่าเขาจะค้นพบร่องรอยของพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว หรือไม่?”
บุรุษที่สวมชุดผ้ำฝ้ ำยสีเขียวตัวหนาพยักหน้ำยิ้มเอ่ย “รู ้มาตั้ง นานแล้ว”
ผู้เฒ่ำกระแอมอยู่หลายที ระห ว่างฟ้ ำดินมีหิมะตกลงมาอย่าง ต่อเนื่อง ท ว่าเกล็ดหิมะเหล่านั้นกลับหลอมละลายไปรอบกายผู้เฒ่ำ ด้วยตัวเอง ไอหมอกขาวโพลน ไอร้อนลอยระอุ
ผู้ที่บรรลุมรรคำซึ่งฝึ กตนอยู่บนภูเขาก็มักจะได้เปรียบเช่นนี้ สามารถมองลมปราณเห็นแต่ไกลๆ หรือไม่ก็ใช้การมองขุนเขา สายน้ำผ่ำนฝ่ ำมือ รวมไปถึงอาศัยการเปลี่ยนแปลงของริ้วกระเพื่อม แห่งปราณวิญญำณฟ้ ำดิน ถึงขั้นสามารถอาศัยการทำนายมา วิเคราะห์ถึงร่องรอยของพวกเขาได้ด้วย
ผู้ฝึกยุทธเต็มตัว ต่อให้ผู้เฒ่ำจะเป็ นปรมาจารย์ใหญ่ขอบเขต ปลายทำง แต่ในเรื่องนี้กลับไม่ได้เปรียบเลยจริงๆ
เผยเปยแห่งทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง หันกวงหู่แห่งเกราะทอง ทวีป อู๋ซูแห่งใบถงทวีป เพ่ยอาเชียงแห่งธวัลทวีป ล้วนเป็ นผู้น ำด้ำน วิถีวรยุทธในทวีปหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยพูดง่ำยๆ ก็คือเป็ นบุคคล อันดับหนึ่งที่ตีบุคคลอันดับสองได้โดยที่ฝ่ ำยหลังไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบ โต้เอาคืน
ที่เหลืออีกไม่กี่ทวีปไม่อาจนับรวมได้ ยกตัวอย่างเช่นทำงฝั่งของ แจกันสมบัติทวีป ทุกวันนี้ก็มีผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทำงสองคนที่มา จากราชวงศ์ต้ำหลี หนุ่มคนนั้นไม่เคยต่อสู้กันมาก่อน แต่ช่งจ่ำงจิ้ง กับอิ่นกวาน
ส่วนอุตรกุรุทวีป ว่ากัน ว่ามีหลี่เอ้อแห่งยอดเขาสิงโตที่ไม่รู ้ ว่าโผล่ ออกมาจากมุมไหนที่เคยมีการถามหมัดกับหวังฟูขู่ผู้ฝึกยุทธเฒ่ำเป็ น การส่วนตัวครั้งหนึ่ง เล่าลือกัน ว่าตอนที่หวังฟู่ ขู่ตกปลาอยู่บนเกาะ ยวนยาง ระห ว่างที่พูดคุย คำพูดที่เอ่ยออกมาล้วนไม่เห็นหมัดเท้ำ ของหลี่เอ้ออยู่ในสายตาเลยสักนิด
ส่วนผู้เฒ่ำที่มีโรคภัยรุมเร ้ำผู้นี้ก็คือผู้นาอันดับหนึ่งบนวิถีวรยุทธ ของเกราะทองทวีป มีฉำยา ว่า “หัน ว่านจ่ำน” ภำยในเวลาร ้อยก ว่าปี ยังเคยได้ให้การสนับสนุนและปลดฮ่องเต้มาถึง หกรุ่น
เขาเคยร่วมมือกับสวีเซี่ยเซียนกระบี่ใหญ่ขัดขวางหวานเหยียน เหล่าจิ่ง ด้วยเหตุนี้ขอบเขตจึงถดถอย เคยได้รับค ำเชิญจากศำลบุ๋น แต่ไม่ได้เข้ำร่วมการประชุมศำลบุ๋นครั้งนั้น นี่แตกต่ำงจากเทพเซียน บนภูเขาหลายคนที่มักจะชอบตีสนิทไปโผล่หน้ำให้เห็นที่ศำลบุ๋น บ่อยๆ อย่างสิ้นเชิง
ผู้เฒ่ำรู ้สึก ว่าไปถึงที่นั่นก็ไม่มีอะไรให้พูดคุย ถึงอย่างไรก็มีคน สนิทอยู่แค่ไม่กี่คน จางเถียวเสียที่มักจะไปตกปลาอยู่ในอาณำเขต ของเกราะทองทวีปเป็ นประจ ำ เขากลับพอจะรู ้จักอยู่บ้ำง แต่ทั้งสอง ฝ่ ำยก็ไม่ถือ ว่าถูกชะตากันสักเท่ไร จางเถียวเสียค่อนข้ำงที่จะรัก
อิสระเสรีตลอดทั้งปีเอาแต่ไปโน่นมานี่ไม่อยู่ติดที่ หันกวงหู่กลับชอบที่ จะหมกตัวอยู่กับกองหนังสือราชการ แต่เหตุผลที่สาคัญที่สุดยังเป็ น เพราะผู้เฒ่ำไม่ยินดีจะไปพบหน้ำซึ่งจ่ำงจิ้งแห่งแจกันสมบัติทวีป หำก ขอบเขตไม่ถดถอยกลับพอจะลองถามหมัดกันได้สักครั้ง แต่ขอบเขต ถดถอยแล้ว ต่ำต้อยก ว่าคนอื่นหนึ่งขั้น พูดจาเสียงแข็งไม่ได้ มีแต่จะ รู ้สึกไม่เป็ นตัวของตัวเอง
คนกลุ่มนี้ก่อนหน้ำนั้นได้ไปเจอกันที่พรรคชิงจ้วนของราชวงศ์ สกุลอวี่มาก่อน จากนั้นจึงไปเยือนราชวงศ์ต้ำเฉวียนมารอบหนึ่งแล้ว ถึงได้เดินทำงขึ้นเหนือ พวกเขาเดินทำงกันอย่างไม่รีบร ้อน เหมือน การมาเที่ยวเล่นตามขุนเขาสายน้ำมากก ว่า
นอกจากหันกวงหู่แล้วก็ยังมีเจี่ยนหมิง อาจารย์เจิง ลั่วหยางมู่ เค่อที่มีฉำยา ว่า “ซงจือ คือร ้ำนผ้ำห่อบุญคนหนึ่ง และฉินปู้ อี๋คนของ เขตการปกครองหลงถงแผ่นดินกลาง
เจี่ยนหมิงมีชาติกาเนิดมาจากแคว้นสือหำวแจกันสมบัติทวีป ตั้ง ฉำยาให้ตัวเอง ว่า “เยว่เหรินเกอ” (บทเพลงชาวเยว่)
เด็กหนุ่มเคยได้เจอศพไร ้หัวที่สวมเสื้อผ้ำหรูหราท่มกลางวันที่มี พำยุหิมะ เขา “เก็บ” หยกพกชิ้นหนึ่งมาได้ สองด้ำนหน้ำหลังแยกกัน แกะสลักสามคำ ว่า “ภูเขาเมฆำเรื่อง” กับคำถาตระกูลเซียนที่คล้ำย บทกลอนบทหนึ่ง จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถูกอาจารย์เจิง “หมายตา” ใน ฐำนกระดูก นับแต่นั้นมาจึงได้เดินไปบนเส้นทำงของการฝึกตน
ฉินปู้ อี๋ยิ้มเอ่ย “หิมะของใบถงทวีปครั้งนี้ตกได้ประหลาดนัก”
ชายฉกรรจ์เงียบขรึมที่มีฉำยา ว่าชงจือพยักหน้ำรับ “ปราณ วิญญำณที่ซุกซ่อนอยู่ภำยในมีค่อนข้ำงมาก หิมะตกลงมาเท่กับมี เงินตกลงมา”
อาจารย์เจิงกล่าว “คำด ว่าคงต้องยกคุณความชอบให้กับ “การ ท่องราตรี” ที่พลังอานาจยิ่งใหญ่น่ำเกรงขามครั้งก่อนหน้ำนี้ ใจคนที่ กระจัดกระจายได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ถึงได้มีหิมะตกที่ฟ้ ำและ คนขานรับกันครั้งนี้เกิดขึ้น”
ฉินปู้ อี๋เอ่ย ว่า “ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในประวัติศำสตร ์” หรือ ว่าจะเป็ นฝีมือของเจ้ำลัทธิท่นใดของศำลบุ๋น? หลี่เซิ่งออก คำสั่ง ศำลบุ๋นจึงท ำตาม?
น่ำเสียดายก็แต่นางกับอริยะปราชญ์ของศำลบุ๋นและส ำนักศึกษา ลัทธิขงจื๊อไม่เคยมีการไปมาหำสู่กันมาก่อน
อาจารย์เจิงอืมรับเบำๆ หนึ่งที “เกินครึ่งก็น่ำจะเป็ นเรื่องที่จะไม่มี ปรากฏขึ้นอีกในภำยหลังแล้ว พวกเราโชคดีได้พบเจอก็ถือ ว่าไม่ง่ำย เลย”
เด็กหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งถือไม้เท้ำไผ่เขียวอยู่ในมือ นาพำจอม ยุทธผู้กล้ำและเทพซียนที่ฝึกตนกลุ่มหนึ่งมาขวางอยู่กลางถนนใหญ่
ชุยตงซำนใช ้ไม้ไผ่เขียวทิ่มพื้นหนักๆ เอ่ยเสียงดังกังวาน ว่า “ประตูบำนนี้ข้ำเป็ นคนเปิดต้นไม้ต้นนี้ข้ำเป็ นคนปลูก หำกคิดจะผ่ำน ไป ก็จงทิ้งเงินค่าผ่ำนทำงเอาไว้”
ก่อนหน้ำนี้อยู่บนเรือข้ำมฟำก อาจารย์อู๋แห่งตาหนักสุ้ยฉูที่ ร่ำรวยมือเติบโบกมือเป็ นวงกว้ำงทีหนึ่ง ไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครั้ง ก็มอบของขวัญจากลาให้ถึงสองอย่าง ชิ้นหนึ่งคือฝักกระบี่ที่โจว อันดับหนึ่งได้รับไป สามารถเอามาใช ้หล่อเลี้ยงใบหลิ่วครึ่งใบได้
ชุยตงซำนได้ไม้เท้ำไผ่เขียว ‘สิงชี่หมิง” แต่ ว่าอีกเดี๋ยวก็จะไม่ได้ เป็ นของเขาอีกแล้ว เพราะชุยตงซำนคิด ว่าจะมอบให้กับไฉอู๋เพื่อเป็ น ของขวัญแสดงความยินดีในการฝ่ำทะลุขอบเขต
จากขอบเขตเส้นเอ็นหลิ่วขอบเขตที่สามของผู้ฝึกลมปราณ เดิน หนึ่งก้ำวกลับก้ำวข้ำมขอบเขตไปได้มากมายขนาดนั้น เลื่อนเป็ นห้ำ ขอบเขตบนโดยตรง นับตั้งแต่ที่หลิ่วชีเป็ นผู้ริเริ่มการกระทำนี้ เวลา ผ่ำนมานานหลายพันปีแล้ว กวาดตามองไปหลายใต้หล้ำ ผู้ฝึกตนที่ สร ้ำงวีรกรรมนี้สาเร็จมีน้อยจนนับนิ้วได้ หลิ่วชีคือบุคคลอันดับหนึ่ง โจวมี่อาจเป็ นอันดับสองช่วงล่าสุดนี้มีอีกคนหนึ่ง ก็คือลูกศิษย์ผู้สืบ ทอดที่หลิ่วชีรับมาในพื้นที่มงคลซืออวี๋ใต้หล้ำมืดสลัว ในช่วงเวลา ระห ว่างนี้อาจมีผู้ฝึกตนที่อาพรางตัวตนอย่างลึกลับอยู่อีกหลายคน เพียงแต่ ว่าไม่ได้แสดงออกอย่างเด่นชัด
พวกวังม่ำนเมิ่งและเฉียนโหวเอ๋อร ์ที่อยู่ข้ำงกายถูกบังคับให้มา ดักปล้นกลางทำงด้วยกัน เดิมทีก็ไม่เต็มใจอยู่แล้ว เวลานี้ต่ำงก็รู ้สึก อับอายขายหน้ำจนหมดสิ้นแล้ว
เจี่ยนหมิง หัวเราะ คนกลุ่มนี้ช่ำงใจกล้ำยิ่งนัก ถึงกับดักปล้น กลางทำงลามมาถึงบนหัวตน ถือ ว่าเป็ นศำลเล็กปีศำจมากอานาจ น้ำ ตื้นตะพำบเยอะอย่างนั้นหรือ?
ชุยตงซำนมองบุรุษที่สะพำยห่อสัมภำระเอียงๆ คนนั้นแล้วดวงตา เป็ นประกาย ใช ้ได้ๆดีมากๆ ส่งหมอนมาให้หนุนเลยเชียว
ก่อนหน้ำนี้ไม่นานยังปรึกษากับอาจารย์อยู่ ว่าควรจะเชื้อเชิญ บรรพจารย์ร ้ำนผ้ำห่อบุญให้มาลงหลักปักฐำนที่ท่เรือชิงซำน อย่างไรดี คราวนี้ลั่วหยางมู่เค่อซึ่งมาจากสายของบรรพจารย์ร ้ำนผ้ำ ห่อบุญกลับมาเยือนทันที
ลั่วหยางมู่เค่อคือคำเรียกรวมๆ อย่างหนึ่ง หมายถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ เร ้นกายซ่อนตัวอยู่ในป่ำเขาลึก มีกฎเกณฑ์เก่ำแก่ที่สืบทอดต่อกันมา หลายรุ่น สองมือไม่อาจแตะเงิน มีบำงครั้งที่หำกลงจากภูเขามาพบ เจอผู้คนก็มักจะชอบเอาสิ่งของมาแลกเปลี่ยนสิ่งของ และบรรพจารย์ ที่เป็ นผู้ริเริ่มอาชีพอย่างร ้ำนผ้ำห่อบุญนี้ก็มีชาติกาเนิดมาจากลั่ว หยางมู่เค่อ แต่เนื่องจากฝ่ ำฝื นกฎบรรพบุรุษจึงถูกตัดชื่อออกจาก ศำลบรรพชน ทั้งสองฝ่ำยถือเป็ นสาย เดียวกันแต่อยู่กันคนละกระแส
ส่วนสตรีที่พกดาบคนนั้นก็มีประวัติความเป็ นมาเหมือนกัน
เป็ นคนบ้ำนเดียวกันกับป๋ ำยเหย่ ถือ ว่าเป็ นคนวัยเดียวกันบน ภูเขา ป๋ ำยเหย่เองก็ยังเคยเขียนกลอนชื่นชมนางจนกลายเป็ น ประโยคติดปำกผู้คน
หนึ่งในสิบตัวสารองของคนรุ่นเยาว์ของหลายใต้หล้ำอย่างเด็ก สาวขุนชิงแห่งถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ วิชาการโจมตีของแม่นางน้อยก็เรียนรู ้ มาจากฉินปู้ อี๋
ฉินปู้ อี๋กับซงจือต่ำงก็เคยติดตามเฉินหรงที่มีชาติกาเนิดจากสกุล เฉินผู้รอบรู ้ของทักษินาตยทวีปเดินทำงไปเที่ยวเยือนอาเภอไหวหวง ด้วยกัน ผู้ที่มารับรองแขกแทนภูเขาลัวพั่วในตรอกฉีหลงครั้งนั้นคือ เทพเซียนผู้เฒ่ำและเฉินหลิงจวิน
ชุยตงซำนพูดด้วยสีหน้ำเป็ นการเป็ นงำน “พี่หญิงม่ำนเมิ่ง เฉียน โหวเอ๋อร ์ พวกเจ้ำถอยกันไปก่อน ศัตรูค่อนข้ำงแข็งแกร่ง รับมือได้ ยาก! ข้ำใคร่ครวญ ว่าอีกฝ่ ำยมีกองกาลังที่น่ำครั่นคร ้ำม พวกเราก็ได้ แต่ใช ้สติปัญญำมาต้ำนรับ มิอาจใช ้ก ำลังงัดข้อได้ ขอให้ข้ำได้ลอง หยั่งเชิงความตื้นลึกของอีกฝ่ำยก่อน หำก ว่าพูดไม่เข้ำหูกันค ำเดียวก็ ตีกันแล้ว พวกเจ้ำก็ไม่ต้องสนใจ ว่าข้ำจะถูกคนรังแกหรือไม่ รีบไปหำ อาจารย์ของข้ำ ขอกองทัพเสริมมาช่วยข้ำฝ่ ำวงล้อมให้ว่องไว บอก ไว้ก่อนนะ ว่าพวกเจ้ำห้ำมโยนภำระท ำตัวเป็ นเต่ำหดหัวล่ะ วางใจได้ เลย ใต้หล้ำนี้ไม่มีสถานการณ์ใดที่อาจารย์ข้ำกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืน มาไม่ได้!”
เจี่ยนหมิงหลุดหัวเราะพรืด ยังคิดจะใช ้สติปัญญำด้วยหรือ?
อาจารย์เจิงใช ้เสียงในใจตักเตือน “เจี่ยนหมิง”
“หำกครั้งนี้ไม่ใช่เพราะข้ำมีเรื่องอยากปรึกษา ก็ไม่มีทำงจะเป็ น ฝ่ ำยไปหำเรื่องเขาก่อนแน่นอน แค่เจอหน้ำก็มีแต่จะเดินอ้อมหลบไป ทำงอื่น”
เจี่ยนหมิงเอ่ยอย่างกังขา “คือยอดฝีมือนอกโลกที่มองดูเหมือน ไม่ยี่หระสิ่งใด ขอบออกมาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์อย่างนั้นหรือ?”
อาจารย์เจิงกาลังจะพูด แต่กลับได้ยินเจี่ยนหมิงเอ่ยต่ออีก ว่า “ต้องใช่แน่นอน ท่นบรรพบุรุษของข้ำคนนี้ช่ำงสง่ำงำมดุจต้นไม้ หยกรับลม อายุน้อยมากความสามารถเสีย จริง…”
อาจารย์เจิงหน้ำเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย พริบตานั้นก็ยื่นมือออกไป กดไหล่ของเจี่ยนหมิง จากนั้นงอสองนิ้วเคำะตรงท้ำยทอยเด็กหนุ่ม ติดกันหลายที สุดท้ำยใช ้นิ้วหัวแม่มือยันท้ำยทอยของเจี่ยนหมิง เอาไว้ จ้องเด็กหนุ่มชุดขาวเขม็ง ใช้เสียงในใจเอ่ย ว่า “เจ้ำส ำนักชุย ทำเช่นนี้เป็ นการลดสถานะตัวเองเกินไปหรือไม่”
เจี่ยนหมิง เพียงแค่ประหลาดใจในการกระทำติดต่อกันนี้ของ อาจารย์เจิง ผู้ฝึ กตนเด็กหนุ่มไม่รู้สึกเลยสักนิด ว่าค ำพูดของตนมี ตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง
เพราะอยู่ในสภำวะอันลี้ลับที่ไม่รู ้ตัวเลยสักเนิด ใจยังไม่ลอย แต่ สติยังไม่กลับคืนมา
ชุยตงซำนท ำหน้ำเหลอหรา ข้ำไม่ยอมรับเสียอย่าง เจ้ำจะท ำ อะไรข้ำได้? แน่จริงก็มาตีกับข้ำสิ มาถามหมัดกับข้ำสิ สามหมัดผ่ำน ไปแล้ว ข้ำผู้อาวุโสลงไปกลิ้งชักดิ้นชักงออยู่กับพื้น เจ้ำต้องขอร ้อง ข้ำ ว่าอย่าตายด้วย…
ผลคือโดนตบเข้ำที่ท้ำยทอยหนึ่งที
ชุยตงซำนรีบเก็บลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ นี้ของตนทันที
เฉินผิงอันยืนอยู่ข้ำงกายชุยตงซำน
ชุยตงซำนรีบทำความดีชดใช ้ความผิด ใช ้เสียงในใจพูดเบี่ยง ประเด็น ว่า “อาจารย์ เจ้ำ หมอนี่ นอกจากจะมีสถานะเป็ นคนเชื่อดาบ แล้วอาจจะยังเป็ น ‘คนขนย้ำยไม้” ในประวัติศำสตร ์คนนั้นด้วย”
เฉินผิงอันตกตะลึงไปเล็กน้อย ถาม “คนขนย้ำยไม้ไร ้ชื่อเสียงที่ อยู่ในเรื่องเล่า “ย้ำยเสาไม้สร ้ำงศรัทธำ’ น่ะหรือ?”
คนขนย้ำยไม้ แน่นอน ว่ามีสองประเภท ประเภทหนึ่งคือคนที่เหตุ ใดต้องย้ำยเสาไม้เพื่อสร ้ำงศรัทธำ อีกประเภทคือคนที่ขนย้ำยไม้ยาว ตามความหมายหน้ำตัวอักษร ฝ่ ำยแรกมีชื่อเสียงในประวัติศำสตร ์ ฝ่ำยหลังใครจะไปสนใจ
ชุยตงซำนพยักหน้ำรับ “น่ำจะไม่ผิดไปจากนี้แล้ว”
เฉินผิงอันถาม “คือผู้ฝึ กตนขอบเขตบินทะยานหรือ ว่าเป็ นผี เซียนคนหนึ่ง?”
ชุยตงซำนยิ้มเอ่ย “คืออย่างหลัง”
ชุยตงซำนสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ ผงกศีรษะให้กับหญิง สาวคนนั้น “และยังมีฉินปู้ อี๋ผู้นี้ คืออาจารย์ที่สอนหมัดให้ฉุนชิงในถ้ำ สวรรค์จู๋ไห่ ปีนั้นนางแฝงตัวเข้ำไปในเมืองลั่วจิง คือนักฆ่ำที่ตัดหัว ของฮ่องเต้สกุลอวี๋ คืออาจารย์ของชิงเถาข้ำรับใช ้หญิงที่อยู่ข้ำงกาย ฝูหนันหัว ซึ่งชิงเถาผู้นั้นก็คือศิษย์น้องหญิงของฉินปู้ อี๋ เพียงแต่ ว่าคน กลุ่มนี้มีร่องรอยไม่แน่ชัดมักจะหลบซ่อนอ ำพรางตัว ชอบเรียกตัวเอง ว่าผู้ล้ำงมลทิน ถือ ว่าเป็ นภูเขาลูกหนึ่งที่มีความหละหลวม ไม่ค่อยได้ พบเจอกันบ่อยนัก ต่ำงก็ไม่ยินดีจะเป็ นเทพเซียนอยู่บนภูเขา จึงมักจะ ชอบลงจากภูเขา ท ำอะไรคล้ำยคลึงกับส ำนักโม่ แต่ก็แค่คล้ำย เท่นั้น”
ตอนที่เฉินผิงอันกับชุยตงซำนมองประเมินคนทั้งกลุ่ม อีกฝ่ ำยก็ มองประเมินสองคนที่หนึ่งเขียวหนึ่งขาวเหมือนกัน ผู้ฝึกยุทธสองผู้ฝึก ตนหนึ่ง สามคนได้แก่หนึ่งคนแก่ หนึ่งชา หนุ่มและหนึ่งเด็กหนุ่มพอดี
เฉินผิงอันกุมหมัดยิ้มเอ่ยอยู่ไกลๆ “อาจารย์เจิง ไม่ได้เจอกันนาน หลายปี มาดยังองอาจอยู่เหมือนเดิม”
อาจารย์เจิงกุมหมัดคำรวะกลับคืน “ก็แค่ไม้ผุไร ้รากเท่นั้น มิ คู่ควรกับสองค ำ ว่า “องอาจ” เจ้ำขุนเขาเฉินความจ ำดี”
เด็กหนุ่มที่เหน็บดาบไว้ใต้รักแร ้ลังเลไปเล็กน้อย ก่อนจะปลุก ความกล้ำถาม ว่า “เจ้ำก็คือเฉินผิงอันหรือ?”
คนชุดเขียวที่อยู่ตรงหน้ำผู้นี้ไม่ค่อยเหมือนอิ่นกวานหนุ่มใน จินตนาการของเจี่ยนหมิงเท่ไร ตลอดทำงที่เดินทำงกันมานี้ มี บำงครั้งที่อาจารย์เจิงจะคุยเล่นถึงกาแพงเมืองปราณกระบี่บ้ำง
อาจารย์เจิงยังอมพะน ำ บอกแค่ ว่าตัวเองติดค้ำงหนี้คนผู้นี้ครั้ง หนึ่ง ในอนาคตหำกมีโอกาสจะต้องชดใช ้คืน แต่ติดค้ำงอย่างไร อาจารย์เจิงกลับไม่เคยเล่าอย่างละเอียด
ท ว่าปี นั้นเมื่อรู ้ ว่าอิ่นกวานหนุ่มคือคนของแจกันสมบัติทวีป เจี่ยนหมิง ก็ยังรู ้สึกดีใจอยู่มาก สามารถมีความเกี่ยวข้องกับเฉินผิง อัน ต่อให้จะต้องชดใช ้หนี้ เจี่ยนหมิง ก็ไม่รู ้สึกอะไร
เฉินผิงอันพยักหน้ำรับ ยิ้มเอ่ย “น้องชายคือลูกศิษย์ของอาจารย์ เจิงหรือ?”
เจียนหมิงยิ้มกว้ำง ไม่ได้พูดอะไร ท่องอยู่ในยุทธภพ ไม่ควรเผย ความในใจกับคนที่ไม่สนิทสนมกัน หลักการเหตุผลแค่นี้ยังต้องมีอยู่ บ้ำง
เจี่ยนหมิง กับอาจารย์เจิงที่อยู่ข้ำงกายผู้นี้ แม้ ว่าจะมีศักดิ์เป็ น อาจารย์และศิษย์กัน แต่เด็กหนุ่มก็ยังท ำตามข้อตกลง เรียกอีกฝ่ ำย ว่าอาจารย์เจิง
ก่อนหน้ำนี้เจี่ยนหมิง ไปเยือนนครเซิ่นจึงของราชวงศ์ต้ำเฉวียน อย่างลับๆ มาครั้งหนึ่งขโมยดาบล้ำค่าชื่อ ว่า “หมิงเฉวียน” เล่มนี้มา จากมือของสตรีผู้หนึ่งที่วรยุทธไม่เก่งกาจสักเท่ไรได้ส ำเร็จ
เพียงแต่อิงตามคำกล่าวของอาจารย์เจิง การกระทำที่เอาของคน อื่นมาโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้ไม่ถือ ว่าเป็ นการขโมย แต่เป็ นการเอา กลับคืนอย่างหนึ่ง เพราะสกุลหลี่ต้ำเฉวียนติดค้ำงเขา ในเมื่อถูก ก ำหนดมาแล้ว ว่าจะมิอาจใช ้ดอกเบี้ยคืนได้ ถึงอย่างไรก็ต้องเอา ต้นทุนกลับคืนมาบ้ำง
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ฟังจากสาเนียง เจ้ำคือคนของแคว้นสือหำว แจกันสมบัติทวีปหรือ?”
เจี่ยนหมิงอึ้งตะลึง ขมวดคิ้วน้อยๆ ตนก็แค่พูดภำษาทำงการของ ใบถงทวีปอย่างไม่ช ำนาญแค่ประโยคเดียว ก็สามารถเดาบ้ำนเกิด ของตนได้แล้วหรือ?
ใบหน้ำอาจารย์เจิงประดับยิ้มน้อยๆ ช่วยเปิดเผยความลับให้กับ เด็กหนุ่ม “ก่อนหน้ำนี้ระห ว่างที่เร่งเดินทำงท่มกลางพำยุหิมะ เคยมี กระบี่บินช่วยคุ้มกันไปส่งอย่างลับๆ”
ชุยตงซำนพึมพำเสียงเบำ “อาจารย์ อาจารย์เจิงผู้นี้เข้ำใจพูด จริงๆ นะ”
หันกวงหู่เดินออกไปข้ำงหน้ำหนึ่งก้ำวท่มกลางหิมะที่ทับถมอยู่ เต็มพื้น มองไปยังซ่งอวี่เขาที่ยืนอยู่ข้ำงกายอิ่นกวานหนุ่ม สองฝ่ ำย ผงกศีรษะให้กัน
จากนั้นผู้ฝึ กยุทธเฒ่ำก็เบี่ยงเส้นสายตามองไปยังคนหนุ่มที่ ชื่อเสียงเลื่องลือหลายใต้หล้ำ ยิ้มถาม “เจ้ำก็คืออาจารย์ของเจิ้ง เฉียนหรือ?”
เฉินผิงอันพยักหน้ำรับ “ข้ำก็คืออาจารย์ของเผยเฉียน ผู้อาวุโส คือ?”
เปิดฉำกด้วยคำพูดเช่นนี้ อีกทั้งผู้เฒ่ำยังเป็ นผู้ฝึกยุทธขอบเขต ปลายทำงคนหนึ่ง ต้องเป็ นหันกวงหู่แห่งเกราะทองทวีปอย่างไม่ต้อง สงสัยแน่แล้ว
แต่ดูจากสถานการณ์บนสนามรบทำงทิศเหนือของเกราะทอง ทวีปในครานั้น การที่เขาร่วมมือกับเซียนกระบี่สวี่เชี่ยขัดขวางหวาน เหยียนเหล่าจิ่งท ำให้ผู้ฝึกยุทธเฒ่ำได้รับบำดเจ็บไม่เบำ เห็นได้ชัด ว่า บำดเจ็บไปถึงอวัยวะภำยใน โรคตกค้ำงแทรกซ ้อนที่จะตามมาเป็ น พรวนจากการที่ขอบเขตถดถอยยังไม่เคยได้รับการจัดการแก้ไขที่ดี
เฉินผิงอันเหลือบมองผู้ฝึกลมปราณที่มีรูปโฉมเป็ นเด็กหนุ่มอีก ครั้ง ดาบที่อีกฝ่ ำยเหน็บไว้ใต้รักแร ้ดูเหมือนจะเป็ น “หมิงเฉวียน” ที่ เหยาหลิ่งจือทำหำยไป
หำกเป็ นเช่นนี้ การลงมือขโมยของเด็กหนุ่มครั้งนี้เกินครึ่งคงจะ ได้รับคำสั่งจากอาจารย์เจิง “คนเชื่อดาบ” อย่างแน่นอน
แค่ไม่รู ้ ว่าหนี้ครั้งนี้ชาระหนี้กันหมดจดแล้วหรือยัง หำกสกุลห ลี่ต้ำเฉวียนไม่อาจใช ้หนี้ ได้หมดสิ้นจะต้องเอาบัญชีไปจดลงบนหัว ของสกุลเหยาต้ำเฉวียนหรือไม่?
ผู้เฒ่ำแนะน ำตัวเอง “ข้ำแช่หันนามกวงหู มาจากเกราะทองทวีป”
เฉินผิงอันกุมหมัดคำรวะ “เฉินผิงอันแห่งภูเขาลั่วพั่วคำรวะ ปรมาจารย์หัน”