เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 727
ตอนที่ 727 กองทัพนับล้าน
“เอาล่ะ!” จ่อหมิงวกกลับมานั่งที่ของมันพร้อมกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง
“ตอนนี้ข้าได้รับรายงานมาว่ากําลังเสริมจากเมืองหลักทั้งหมดเดินทางมาถึงเมืองหลวงปีศาจเป็นที่เรียบร้อย” จ่อหมิงกล่าวต่อ
“โฮ เจ้าพวกนั้นมากันแล้ว” อ๋องฉกรรจ์กล่าวพลางผงกหัว อารมณ์ของเหล่าผู้นําแปรเปลี่ยนมีรอยยิ้มประดับมุมปากทําให้บรรยากาศภายในห้องไม่มืดมนดังเดิม แดนปีศาจครอบครองพื้นที่ครึ่งนึ่งของโลกใบนี้…ซึ่งพื้น ที่ส่วนใหญ่เป็นน้ําทะเลล่ะนะกระนั้นพื้นที่อยู่อาศัยก็ยังกว้างนับหมื่นลี้เรียกได้ว่าต้องใช้เวลาเดินทางนับเดือนเลยที่เดียวในโลกที่ไม่มีเทคโนโลยีอย่างยานพาหนะเช่นรถหรือเครื่องบิน
แต่เมืองหลักที่ซื่อหมิงกล่าวถึงสามารถใช้เวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้นหลังได้รับข่าวสาร พวกมันเดินทางมาถึงโดยใช้เวลาอันสั้นยิ่งนั่นคงต้องขอบคุณพาหนะโดยสารแสนพิศดารอย่างนกยักษ์ที่พวกมันขี่มานั่นแลส่วนเมืองเล็กหมู่บ้านน้อยที่ไม่มีกําลังทรัพย์หรือมิได้เลี้ยงสัตว์พาหนะจําพวกนี้ไว้ก็ต้องจําอ้าวเดินหรือวิ่งมากันตลอดทาง
ครื้น
ภายในห้องประชุมลับ มีเสียงดังออกมาจากผนังห้องด้านหนึ่งพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนผนังห้องขนาดใหญ่เคลื่อนไหวหมุนด้วยกลไกพิเศษเผยให้เห็นทางออกไปยังอีกฟากอีกด้านหนึ่งของห้องลับแท้จริงแล้วคือห้อง โถงที่พํานับของจักรพรรดิปีศาจนั่นเองตรงกลางห้องโถงมีบุรุษและสตรีวัยฉกรรจ์ค่อนไปทางวัยชราราวยี่สิบ คนยืนเกาะกลุ่มสนทนากันอยู่
เมื่อพวกมันเห็นการเคลื่อนไหวของผนังห้องโถง บุรุษและสตรีทั้งหมดค่อมหัวแสดงความเคารพต่อจักรพรรดิปีศาจพร้อมกับตบเท้าเดินเข้ามาด้านในห้องลับทันที
ก่อนที่ผนังห้องผืนใหญ่ที่ดูแล้วจะมีน้ําหนักไม่น้อยกว่าหนึ่งตันจะเคลื่อนปิดเข้าที่ดังเดิม
“นั่นท่านฮุยมิใช่เรอะ ไม่เจอกันซะนานท่านยังดูแข็งแรงเหมือนเดิม”
“ฮ่าๆ น้องเป๋ยกล่าวเกินไปแล้ว”
“โอะ พี่เขย ไม่คิดว่าท่านก็มาด้วย” เหล่าบุรุษเจื้อยแจ้วกล่าวทักทายกันด้วยความตื่นเต้น ฝั่งสตรีเองก็มน้อยหน้าบางรายกล่าวทักทายอย่างมีมารยาท บางรายดีใจจนออกนอกหน้าโผเข้ากอดหายคิดถึงพวกมันแต่คน ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์มีหน้าที่ปกป้องเขตแดนของตนจัดการความเป็นอยู่ราษฎรน้อยนักที่จะมีเวลาย่างกรายออกจากเมืองไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่ามิตรสหายคุ้นเคยหรือญาติใกล้ชิด
“อะแฮ่มะ ตอนนี้ผู้ร่วมประชุมทั้งหมดล้วนมาอยู่ที่นี่ครบหมดแล้ว ข้าต้องขออภัยด้วยที่มันแออัดเกินไปสักหน่อยและไม่มีเก้าอี้มากพอให้บริการพวกท่าน” จ่อหมิงกล่าวต้อนรับผู้ร่วมประชุมรายใหม่ด้วยตนเอง
“เนื่องจากวาระการประชุมครั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าปีศาจทั้งมวล ข้าจึงระมัดระวังอย่างยิ่งโดยการจัดประชุมเหล่าผู้นําขึ้นที่ห้องลับแห่งนี้เพื่อมิให้ความลับรั่วไหลออกไป”จ่อหมิงกล่าวต่อ
“ท่านจื่อหมิง ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว” เหล่าแม่ทัพเห็นพ้องต้องกันไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิม
“ถ้าอย่างงั้นพวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” จ่อหมิงอธิบายรายละเอียดบทสนทนาก่อนหน้าให้แก่หน้าใหม่ทั้งหลายทราบอีกครั้ง
“ตอนนี้กําลังรบฝ่ายเรามีอยู่ทั้งสิ้นราวสี่สิบห้าล้านนาย จํานวนนี้คือทหารฝีมือดีทั้งหมด” จ่อหมิงกล่าวในจํานวนนี้สิบล้านนายเป็นนักรบจากเมืองหลวงปีศาจ ส่วนที่เหลือเป็นทหารฝีมือดีจากเมืองหลักที่ส่งมาสมทบอย่าง เช่นเมืองวารีหรืออัคคี
“ในส่วนนี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกท่าน ฉะนั้นข้าคงไม่ต้องจัดการอะไรมาก”
“นอกจากทหารฝีมือดีแล้ว พวกเรายังมีทหารอาสาที่เข้ามาเป็นกําลังรบเฉพาะกิจอยู่ด้วยจํานวนยี่สิบห้าล้านนายในส่วนนี้ข้าจะแต่งตั้งแม่ทัพเพื่อรับตําแหน่งควบคุมกองทัพชั่วคราวทั้งสิ้นสองร้อยห้าสิบนาย”จ่อหมิงกล่าวต่อทหารอาสาเหล่านี้เป็นเพียงทหารเลวที่ผ่านการศึกมาในระยะสั้น มิอาจเทียบประสบการณ์และฝีมือกับนักรบชั้นดีได้
โฮม
เสียงแห่งความประหลาดใจเกิดขึ้นภายในห้องลับ เหล่าผู้นําตกใจกับตัวเลขกําลังรบฝ่ายตนเองอย่างยิ่ง จํานวนนี้มากกว่าที่พวกมันคิดไว้หลายเท่าเลยทีเดียว
“ต่อไปนี้ ข้าจะจัดระเบียบภายในกองทัพมอบหมายหน้าที่ให้พวกท่านแต่ละคน หลังจากนั้นเราจะมาหารือเรื่องแผนการรบ”
พรบ
จ่อหมิงเดินไปอยู่บริเวณหัวโต๊ะอีกฝั่งที่สามารถมองเห็นทุกคนในกรอบสายตาได้โดยชัดเจน
“แต่งตั้งจื่อเฟิงเป็นจอมพลเป็นผู้บัญชาการทัพอากาศ นํากําลังทหารสามสิบทัพรับหน้าที่โจมตีทางอากาศปกป้องน่านฟ้า” แม่ทัพจอหมิงออกคําสั่งด้วยเสียงอันทรงพลัง
“เมืองฮัวหง หวงกุ้ยและจ่อเป่ยส่งมอบกองทัพทั้งหมดให้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจื่อเหยา รับตําแหน่งผู้นํา หน่วยจู่โจมที่หนึ่ง”
“ชื่อม นําทหารจากเมืองเซียนลุ่ยและตําหนักเหลียง รับผิดชอบการป้องกันชั้นนอกทั้งหมด”
จ่อหมิงสาธยายมอบหมายตําแหน่งหน้าที่ให้แต่ละรายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีตกหล่นรายชื่อของผู้นําทั้งสามสิบกว่าชีวิตในห้อง ผู้นําบางเมืองต้องเข้าไปอยู่ใต้สายบังคับบัญชาของอีกรายบางคนได้รับตําแหน่งใหญ่ควบคุมกองทหารนับสิบล้านบางรายต้องส่งมอบทหารของตนให้แก่ผู้นํารายอื่น
“หากท่านใดมีข้อสงสัยหรือไม่พอใจกับตําแหน่งของตนสามารถโต้แย้งได้ที่นี่ตอนนี้เท่านั้น หากข้าประกาศออกไปแล้วจะไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนผังไม่รับเรื่องร้องเรียนอันใดอีก”สิ้นสุดการแต่งตั้งจ่อหมิงประกาศกร้าว
เหล่าผู้นําภายในห้องนั่งตัวตรงอย่างองอาจไม่ปริปากแม้แต่รายเดียว
“ดี!! ที่ท่านจักพรรดิจัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้นเพื่อหาวิธีรับมือการบุกรุกของศัตรู”
“แต่ก่อนที่พวกเราจะวางแผนกัน ข้ายังมีเรื่องสําคัญอีกประการหนึ่งที่จะแจ้งให้พวกท่านทราบ”
“ข่าวลือที่พวกท่านได้ยินมานั้นเป็นเรื่องจริง!” จ่อหมิงใช้ฝ่ามือทุบโต๊ะกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง
“ข่าวลือ ข่าวลืออะไร?” ผู้ร่วมประชุมรายหนึ่งสอบถามด้วยความสงสัย
“องค์ชายใหญ่ รัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังค์ลําดับหนึ่งแห่งเผ่าปีศาจ…ได้แปรพักตร์เข้าร่วมกับเผ่าอสูร!!!”จ่อหมิงกล่าว
“อะไรนะ!”
“ฮ่าๆ ท่านจื่อหมิงช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง ฮ่าๆ ฮ่า ฮะ ฮ…” ผู้ร่วมประชุมหลายคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานก่อนที่น้ําเสียงของพวกมันจะเบาลงอย่างช้าๆ เมื่อเห็นว่าผู้ร่วมประชุมส่วนใหญ่ล้วนก้มหน้าผงกหัวบางรายกอดอกอย่างเคร่งขรึมคล้ายกับพวกมันทราบอยู่แล้วถึงสิ่งที่จื่อหมิงกล่าวมา
จ่อหมิงล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อควักเอาแผ่นป้ายสีทองแผ่นหนึ่งออกกระแทกลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่นแผ่นป้ายทองนี้มีรอยตําหนิที่คล้ายกับถูกหลอมด้วยความร้อนทําให้มันแหว่งไปข้างหนึ่งบนป้ายมีตัวอักษรคําว่า”จ่อประทับอยู่ตรงกลางพร้อมกับคราบเลือดแห้งกรัง
“พวกท่านทราบหรือไม่ว่าป้ายทองนี้คืออะไร?” จ่อหมิงกล่าว
“น-แน่นอน มันคือป้ายประจําราชวงศ์ปีศาจ” ผู้ร่วมประชุมหนึ่งรายกล่าวขึ้นพร้อมกับควักเอาป้ายประตัวของตนออกมาวางไว้บนโต๊ะ วางเทียบลงกับป้ายที่จ่อหมิงเอามา
“ใช่ มันคือป้ายประจําตระกูลฮุยของพวกเราผู้ก่อตั้งราชวงศ์จ่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่หนึ่งหมื่นปีก่อน”จ่อหมิงกล่าว
“ผู้ที่ครอบครองป้ายที่อยู่ตรงหน้าพวกท่านในปัจจุบันก็คือ ฮียจื่อหนิงชวน องค์ชายใหญ่หรือรัชทายาทองค์ปัจจุบัน”