เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 716
ตอนที่ 716 หลินหยาง
“!???” สองเฒ่ามองหน้าสบตากันปริบๆด้วยความงุนงง
“เจ้าหนุ่มนี่มันพูดอะไร?” เฒ่าโอสถกล่าวบางเบา
“ทั่วทุกสารทิศในแดนปีศาจข้าล้วนไปเยือนมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะภาษาพื้นเมืองหรือภาษาเฉพาะชนเผ่าข้าล้วนเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วทั้งนั้น แต่ภาษาที่พ่อหนุ่มคนนี้ใช้…” จ่อเจียงกล่าวพลางส่ายหัว
แต่มิใช่เพียงสองเฒ่าที่ฟังการสนทนามิออก ชายหนุ่มเองก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน สิ่งที่มันได้ยินคําที่เปร่งออกจากปากของชายชราทั้งสองรายและเด็กสาวตัวน้อยผู้มีปีกติดหลังนี้ล้วนแปลกใหม่ทั้งภาษาคํากระทั่ง สําเนียงมันยังมิเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อน
เมื่อภาษาที่ใช้สื่อสารแตกต่างกัน…จึงเป็นเรื่องปกติที่ทั้งสองจะไม่เข้าใจความหมายที่แต่ละฝ่ายต้องการสื่อ
เด็กสาวบัดนี้อ้อมไปอยู่ด้านหลังของจ๋อเจียงลอบแอบมองเป็นครั้งคราว
ฟีดษ
ชายหนุ่มผู้ตกจนมุมเต็มไปด้วยความหวาดกลัวก้มลงดึงผืนผ้าปูเตียงหลุดติดมือมาทั้งพื้นกําไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างไม่ลดการป้องกันยังชูหมอนชี้หน้าคนแปลกหน้าทั้งสามด้วยความหวาดระแวง
ตอนนี้สิ่งใดที่สามารถคว้าได้มันล้วนนํามาเป็นอาวุธ ก่อนหน้าในยามที่มันหมดสติข้างเตียงมีเครื่องมือแพทย์ที่เป็นของมีคมทั้งมีดเข็มทว่าสิ่งเหล่านี้ได้ถูกนําออกไปจากห้องโดยเฒ่าโอสถแม้กระทั่งเก้าอี้อันเล็กที่มันใช้นั่งในยามลงมือรักษายังถูกนําออกไปด้วย ในตอนนี้นอกจากเตียงรับรองผู้ป่วยแล้วล้วนไม่มีสิ่งใดที่สามารถนํา มาใช้เป็นอาวุธที่ใช้งานได้จริงสักอย่าง
จ๋อเจียงชายหนุ่มที่แขนขาสั่นระริกแทบยืนไม่อยู่รายนี้ด้วยความงงงวยว่ามันจะทําอะไร? ส่วนเฒ่าโอสถนั้นสีหน้าของมันเคร่งเครียดแววตาเต็มไปด้วยความกังวล เนื่องจากผ้าพันแผลมันพันรอบตัวของชายหนุ่มจากสีขาวสะอาดบัดนี้กลายเป็นสีแดงฉาน
พรบ
ในตอนนั้นเองชายหนุ่มง้างแขนซ้ายเขวี่ยงผ้าปูเตียงในมือขึ้นสู่เพดานห้องไปทางบุคคลทั้งสามผ้าปูผืนใหญ่สยายกางออกกว้างก่อนจะค่อยๆล่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงคลุมตัวชายชราและเด็กสาว
พริบตาตาต่อหนุ่มน้อยรายนี้เคลื่อนไหวอย่างฉับพลันวิ่งลงจากเตียงมุ่งหน้าไปยังทางออกด้วยความรวดเร็ว
การกระทําของชายหนุ่มหาได้ทําไปโดยความนุ่มบ่ามไม่ มันคิดทางหนีทีไล่ไว้เสร็จสรรพ
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกว้างยาวไม่ถึงห้าเมตร เพียงก้าวเดียวร่างของมันก็มาถึงเกือบครึ่งทาง ตามคาดการณ์อีกเพียงสองก้าวก็สามารถถึงจุดหมายได้อย่างราบรื่น เมื่อถึงหน้าประตูมันจักรีบหมุนกายหักซ้ายทันทีเพราะก่อนหน้านี้มันเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่ชายชราทั้งสองปรากฏตัวซึ่งนั่นเท่ากับว่าทางซ้ายย่อมเป็นทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
กรอบ
วิธีการอันแยบยล คิดเผื่อทุกฝีก้าว กระทั่งตําแหน่งใดที่เท้าของมันควรจะลงและก้าวต่อไปควรจะอยู่ตรง จุดไหนก็ล้วนอยู่ในความคิด ทว่า….ทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อมันเคลื่อนที่ได้เพียงก้าวเดียวเท่านั้น เมื่อมันเตรียมจะก้าวไปข้างหน้าโดยใช้ขาขวาน พริบตาที่เท้าขวายกขึ้นจากพื้นเพื่อจะก้าวเท้าซ้ายที่รองรับน้ําหนักตัว อยู่เพียงข้างเดียวไม่อาจทนไหวบริเวณข้อเท้าซ้ายส่งเสียงแตกหักพร้อมกับร่างของชายหนุ่มทรดตัวลงหนึ่งจังหวะก่อนที่ความเจ็บปวดจะส่งตรงถึงสมอง การกระทําทุกอย่างของมันจําต้องชะงักลงในฉับพลันร่างกายเสียสูญทรุดหมอบกระแตลงบนพื้นกลางห้อง
ฟุบะ
ผ้าปูเตียงที่ถูกขว้างออกไปเพื่อจุดประสงค์ในการบดบังกายปิดการมองเห็น ถูกปัดป้องจับด้วยฝ่ามือเดียวของจ๋อเจียงอย่างง่ายดาย
“เจ้าหนุ่มนี่มันทําอะไร?” จ่อเจียงกล่าวบางเบา หัวคิ้วมันขมวดแน่นเหลือบสายตามองบุรุษหนุ่มที่หมอบอยู่แทบเท้าด้วยจิตมุ่งร้าย ชายหนุ่มผู้ไม่มีหัวนอนปลายเท้าผู้นี้ ทั้งรูปลักษณ์และภาษายากจะบอกได้ว่ามันมาจากเผ่าไหนในแดนปีศาจ
อาก
ความเจ็บปวดตามร่างกายไม่อาจกล้ํากลืนฝืนทนได้อีกต่อไป ชายหนุ่มงอตัวกอดเข่าซ้ายข้างที่ส่งเสียงแตกหักราวกับกุ้งกลิ้งไปมาบนพื้นห้องอย่างน่าเวทนา ทว่ายิ่งมันกลิ้งหมุนกายมากเท่าไหร่บาดแผลตามตัวยิงปริแตกเลือดทะลัก
“ช่วยข้าจับมัน!!” เฒ่าโอสถนิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่ก่อนที่มันจะตั้งสติเปร่งวาจา พร้อมกับกระโดดเข้าคร่อมร่างของผู้บาดเจ็บ
จ๋อเจียงลังเลเล็กน้อยมันยังคงหวาดระแวง แต่ก็ดูเหมือนพี่ชายของมันจะเอาร่างของชายหนุ่มที่ดิ้นพล่านไม่ยอมสงบผู้นี้ไม่อยู่ ทําให้มันต้องลงมือช่วยอีกแรงนั่งทับขาจับข้อเท้าทั้งสองข้างส่วนเฒ่าโอสถกระเถิบตัวขึ้นนั่ง กลางร่างกายใช้สองมือรวบข้อมือของชายหนุ่มในที่สุดสองเฒ่าก็สามารถจับกุมม้าพยศตัวนี้ได้เป็นที่เรียบร้อย
โอ๊ะ
เฒ่าโอสถอุทานบางเบา เมื่อมันสัมผัสได้ถึงความร้อนบนฝ่ามือทั้งคู่ของมัน สายตามันก้มลงมองโดยฉับพลันพบว่าบริเวณข้อมือของชายหนุ่มที่ถูกผ้าพันแผลพันเอาไว้ คล้ายกับมีความร้อนบางอย่างเผาพลาญผ้าพันแผลชุ่มเลือดนี้มาจากข้างในเผาไหมตัวผ้าจนมีบางส่วนขาดเป็นรูโหว่ความร้อนปริศนาที่ออกมาจากข้อมือของชายหนุ่มอยู่ได้ไม่นานนักก็หายไปพร้อมกับเสียงหอกแฮกใบหน้าซีดเซียวตาปรืออ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด
กระนั้นชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งรายนี้ไม่สนใจสภาพร่างกายของตน มันเค้นกําลังใช้เรี่ยวแรงระลอกที่สองดิ้นสุดชีวิตกระทั่งปากของมันยังพยายามเอื้องับแขนของเฒ่าโอสถ
เวลาผ่านไปกว่าห้านาที
สุดท้ายชายหนุ่มก็หมดสภาพยอมจํานนต่อสองเฒ่า แต่เป็นการยอมจํานนที่ไม่สมัครใจเสียเท่าไหร่ปากของมันถูกยัดด้วยผ้าสะอาด สองแขนถูกจับขนาบติดลําตัวและลงผ้าพันแผลอีกหนึ่งชั้นมัดทั้งสามส่วนติดกันขาสองข้างเองก็ถูกพันธนาการด้วยผ้าพันแผลที่พันรอบอยู่อีกหลายตลบจนบัดนี้แม้แต่จะกระดิกนิ้วยังยากจะเคลื่อนไหว
อย่าว่ากระนั้นเลยตอนนี้แม้มันจะอยากพยศอีกเท่าใดก็มิอาจทําได้ ในห้านาทีที่ผ่านมามันเกือบจะหมดสติไปแล้วหลายคราจากความเจ็บปวดตามร่างกายและการเสียเลือดที่มากเกินกว่าความจําเป็นของร่างกายแต่ที่ทําให้มันยังสามารถคงสติอยู่ได้ตอนนี้เป็นเพราะจิตใจที่มุ่งมั่นของตน
เฒ่าโอสถทําความสะอาดห้องเล็กเก็บกวาดคราบเลือดเปลี่ยนผ้าปูเตียงนําหมอนใบใหม่และอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้ามาวางเรียงรายไว้พร้อมมือ จอเจียงอุ้มร่างของชายหนุ่มวางไว้บนเตียงผู้ป่วย
โครกก
หลังจากอาละวาดมาชุดใหญ่ มีเพียงความปวดร้าวของร่างกาย ยังมีความหิวโหยตามมาติดๆ ท้องของมันส่งเสียงร้องดังกังวาลไปทั่วทั้งห้องเล็ก
“” ชายหนุ่มที่ขยับได้เพียงแค่ส่วนคอขึ้นไปไม่สนอกสนใจไม่เปลี่ยนแม้แต่สีหน้า มันจับจ้องสองชายชราด้วยจิตมุ่งร้ายใช้ดวงตาดุจดั่งเหยี่ยวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อสองเฒ่าข้างกาย
ตึกๆๆ
ตอนนั้นเอง เด็กสาวที่มักหลบอยู่ด้านหลังสองเฒ่า ตอนนี้ได้หันกายวิ่งออกนอกห้อง เพียงไม่นานนักนางก็วิ่งกลับมาพร้อมกับขนมบางอย่างรูปร่างคล้ายซาลาเปาจานหนึ่งภายในมือที่พึ่งปรุงสุกสดๆร้อนๆควันฉยเดินมาหยุดอยู่ตรงหัวเตียง
เด็กสาวหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้นพลางยื่นแขนอันบอบบางไปทางชายหนุ่มอย่างเก้ๆกังๆ
ชายหนุ่มผู้มีดวงตาดุจดั่งเหยี่ยวเลิกให้ความสนใจสองเฒ่า บัดนี้ถูกหลอกล่อด้วยอาหารกลิ่นหอมแสนยั่วยวนในมือเด็กสาว ลอบกลืนน้ําลายอีกใหญ่
เด็กสาวฉีกยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นว่าการกระทําของตนได้ผล นางค่อยๆดึงผ้าอุดปากของมันออกอย่างช้าๆก่อนจะนําขนมหวานในมือไปแตะริมฝีปากแห้งผากของมัน
ไม่รอช้า ความดุร้ายมลายหายสิ้น ชายหนุ่มอ้าปากกว้างงับคําใหญ่เคี้ยวอย่างมูมมามและกลืนลงท้องด้วยความรวดเร็ว ส่วนเด็กสาวไม่ปล่อยให้ขาดช่วงป้อนใส่ปากมันอย่างต่อเนื่อง
ซาลาเปาลูกใหญ่อันตธารหายวับไปในเพียงไม่กี่วินาที
“น้ํา” ชายหนุ่มกล่าวเสียงบางเบา
“น้ํา?” เด็กสาวเอียงคออย่างงุนงง กับศัพท์ภาษาใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
แค่กๆ
ชายหนุ่มผู้นี้มิโง่เง่า มันพอจะมองออกว่าภาษาที่ทั้งสองฝ่ายใช้นั้นแตกต่างกัน มันจึงกระแอมไอใช้ภาษากายเป็นคําบอกเล่า
เด็กสาวฉุกคิดขึ้นได้ทันที วิ่งออกไปจากห้องไม่นานนักก็กลับเข้ามาพร้อมกับถ้วยใบหนึ่งที่ใส่น้ําไว้เต็มถ้วยป้อนใส่ปากของมันอย่างช้าๆ
“ขอบคุณ” ชายหนุ่มกล่าวพลางผงกหัว
เด็กสาวยิ้มรับอย่างร่าเริงแม้จะไม่ทราบความหมายก็ตามที
“ผิงอัน” เด็กสาวเอ่ยนามของตนเอง
“ผิงอัน?” ชายหนุ่มทวนคําพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงง
“ผิงอัน” เด็กสาวชี้นิ้วเข้าหาตนเองพร้อมกล่าวอย่างช้าๆ เมื่อสิ้นเสียงนางก็ชี้นิ้วไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าแย้มยิมจดจ่อรอคอยคําตอบ
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากคิดคาดเดาสิ่งที่เด็กสาวต้องการสื่อไม่นานนักมันก็เอ่ยนามของตนตอบกลับ
“…หลินหยาง…”