การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 167
ตอนที่ 167
“สิ่งนั้นมัน…?”
“ลูกแก้วรี?”
“เจ้าคิดผิดแล้ว มันไม่ใช่ลูกแก้วธรรมดา ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันเร้นลับจากมัน…”
การตอบสนองของเหล่ามังกรแตกต่างกันออกไป มังกรที่เชื่อฟังคําสั่งคาร์เน่และกําลังคิดโจมตีซูฮยอนต่าง หยุดชะงักลง สายตาของมังกรทั้งหมดจ้องมองไปยังจินดามณีด้วยความสับสน มังกรบางตัวหลั่งน้ําตาออกมาโดยที่ไม่รู้สาเหตุ
“หรือว่าจะเป็น…?”
“จะ..จินดามณี??”
มังกรที่กําเนิดก่อนมหาสงครามจะเริ่มขึ้น จําได้ขึ้นใจว่าลูกแก้วที่ซูฮยอนหยิบออกมา มีรูปลักษณ์คล้ายจินดามณีทุกประการ
บล็องก์ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์มังกรและมีอายุยืนยาว ทันทีที่สังเกตเห็นลูกแก้วสีแดงลูกนั้น บอกตามตรงว่าเขารู้สึกตกใจมาก
“แต่มันใช่จินดามณีของจริงรึ?”
บล็องก์คิดว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้าน่าเหลือเชื่อเกินไปและยากที่จะยอมรับ บล็องก์จึงตัดสินใจเสริมการมองเห็น ด้วยการใช้พลังเวทโคจรไปรวมไว้ที่ดวงตา เพื่อพินิจมองลูกแก้วสีแดงให้ชัดๆ
ป่าจินดามณีคือชื่อใหม่ที่มังกรรุ่นหลังตั้งขึ้น ชื่อเดิมของป่าไม่มีมังกรตัวไหนทราบ ซึ่งบล็องก์คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมังกรไม่สนใจชื่อเดิมของป่าแห่งนั้นอยู่แล้ว
แต่ก่อนป่าแห่งนั้นไม่มีมอนสเตอร์เพ่นพ่าน บรรพบุรุษของเหล่ามังกร จึงตกลงปลงใจตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในป่าและเรียกที่นั่นว่าบ้าน
เหตุผลที่ป่าแห่งนั้น ถูกเรียกว่า [ป่าจินดามณี] เพราะมีวัตถุชิ้นหนึ่งที่ชื่อว่า [จินดามณี] หายสาบสูญไป ในช่วงสภาวะโกลาหลของมหาสงคราม
มังกรจํานวนหนึ่งเสนอความคิดเห็น โดยบอกว่าควรตามหา (จินดามณี] ที่หายสาบสูญไปให้เจอแต่คาร์เน่ และมังกรอีกบางส่วนทัดทานความคิดเห็นนั้น พวกเขาบอกว่าการดํารงอยู่ของเต่าไททัน ทําให้ความคิดที่จะออกตามหา [จินดามณี] เป็นไปไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น วัตถุที่มังกรเรียกขานกันว่า [จินดามณี] จะคงอยู่หรือหายไปก็ไม่มีผลกระทบต่อการดําเนินชีวิต
การโต้เถียงระหว่างมังกรด้วยกันเกี่ยวกับ [จินดามณี] กินเวลายาวนานหลายทศวรรษ กลุ่มมังกรที่เคยยืนกรานจะตามหา [จินดามณี] เริ่มแยกตัวจากไปที่ละตัวสองตัว สุดท้าย [จินดามณี] ก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา
แต่ยามนี้…
[จินดามณี] ที่มังกรหลายตัวหลงลืมไป กลับมาปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีกครั้ง พร้อมกับมังกรแดง
“แปลกมาก ทําไมอยู่ดีๆน้ําตาของข้าก็ไหล…?”
“ข้าก็ด้วย เกิดจากสาเหตุใดกันแน่?”
“ผู้อาวุโสขอรับ จินดามณีคืออะไรหรือ?”
ความสงสัยย่อมก่อให้เกิดคําถาม มังกรรุ่นหลังที่ไม่รู้จัก [จินดามณี] หันหน้าไปถามมังกรอาวุโสที่ยืนอยู่ข้างตัว…
มังกรที่ถือกําเนิดก่อนมหาสงครามรู้จัก [จินดามณี] เป็นอย่างดี พวกเขาค่อยๆบอกกล่าวอธิบายความเป็นมาของ [จินดามณี] ให้มังกรรุ่นหลังฟัง
“ไม่ต้องให้ผมบอก พวกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าลูกแก้วที่ผมถืออยู่คืออะไร?”ซูฮยอนเผชิญหน้ากับคาร์เน่ตรงๆและเอ่ยปากพูด
คาร์เน่ถลึงตาจ้องมองซูฮยอน ใบหน้าถมึงทิ้งไม่ยิ้มแย้ม…
น้ําเสียงของซูฮยอนที่ใช้พูดคุยกับคาร์เน่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แม่ในอดีตซูฮยอนจะไม่ถูกกับโฉลกคาร์เน่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยซูฮยอนก็ยังพูดคุยกับคาร์เน่ด้วยน้ําเสียงที่สุภาพยิ่งกว่านี้ ไม่ใช่น้ําเสียงที่ เหยียดหยามอย่างปัจจุบัน
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งต่อล้อต่อเถียงกับซูฮยอน ตั้งแต่ซูฮยอนหยิบวัตถุชิ้นนั้นออกมาจากกระเป๋าและบอก ว่ามีความลับจะเปิดเผย ลักษณะการพูดของซูฮยอนก็เปลี่ยนแปลงไป..
“ทําไมข้าจะไม่รู้?”วัตถุที่ซูฮยอนถืออยู่ในมือ เป็นวัตถุที่มังกรอาวุโสทราบโดยทั่วกันและไม่ใช่วัตถุที่เป็นความลับอะไร คาร์เน่พยายามระงับความขับข้องใจและกล่าวต่อด้วยเสียงเนิบนาบ..
“จินดามณีคือสมบัติประจําเผ่าพันธุ์มังกรเรา ผู้ที่สามารถถือครองมันได้ มีแค่ทายาทสายตรงของราชามังกรเท่านั้น”
เมื่อทราบว่าคาร์เน่รู้ความเป็นมาของวัตถุชิ้นนี้ มังกรทุกตัวพร้อมใจเงียบเสียงลงและเงี่ยหูตั้งใจฟังคําพูดของคาร์เน่ มังกรหน้าใหม่ที่พึ่งมาถึงหน้าเมืองก็สัมผัสได้กลิ่นอายที่พิเศษของจินดามณีด้วยเช่นกันขณะนี้ ภายในหัวของมังกรทุกตัวล้วนมีแต่ความกังขา…
“เพราะการดํารงอยู่ของ [จินดามณี] ทําให้เผ่าพันธุ์มังกรเราขยายอาณาเขตได้อย่างรวดเร็วเป็นที่ประจักษ์ กันดีว่า [จินดามณี] สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ถือครองได้ มังกรตัวไหนก็ตามที่สามารถดึงพลังแฝงใน [จินดามณี] ออกมาใช้ได้สําเร็จ มังกรตัวนั้นจะควบคุมพลังแห่งฟ้าดินได้”
ความสามารถของ [จินดามณี] ตรงตามที่คาร์เน่กล่าว เหตุผลที่เผ่าพันธุ์มังกรปกครองโลกใบนี้ได้ เพราะพลังที่ [จินดามณี] มอบให้สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่มังกรได้อย่างมหาศาล
จึงเป็นเหตุผลว่าทําไมมังกรบางส่วนถึงต้องการตามหา [จินดามณี] หลังจากที่มันหายสาบสูญไปช่วงมหาสงคราม พวกมังกรเชื่อว่าหากตามหา [จินดามณี] จนเจอสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างมังกรและมอนสเตอร์ อาจสิ้นสุดลง โดยใช้พลังอํานาจของ [จินดามณี] เข้าต่อกร
น่าเสียดายหลังจากมหาสงครามยุติลง มังกรที่สามารถดึงพลัง [จินดามณี] ออกมาใช้ได้ มีแค่มังกรแดง เท่านั้น แต่มังกรแดงที่ว่ากลับตกตายไปหมด หมายความว่าต่อให้ตามหา [จินดามณี] เจอจริงๆ [จินดามณี] ก็ใช้การไม่ได้อยู่ดีและไม่ต่างอะไรกับลูกแก้วธรรมดาลูกหนึ่ง…
แต่เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว…
<<เพราะการดํารงอยู่ของ [จินดามณี] การขับไล่มังกรแดงให้พ้นเมืองจึงกลายเป็นเรื่องยาก>>
[จินดามณี] กลับคืนสู่เผ่าพันธุ์มังกรอย่างมีชัยพร้อมมังกรแดง
มีมังกรเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ยินดีอ้าแขนต้อนรับมังกรแดงกลับเข้ากลุ่มอย่างเต็มใจ สําหรับมังกรที่มีอายุยืนยาวหลายพันปีกระจ่างแจ้งดีว่ามังกรแดงถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มังกรและมังกรแดงคือราชาที่ปกครองเหล่ามังกรทุกตัว
อิทธิพลของมังกรแดงไม่เพียงฝังแน่นอยู่ในหัวเท่านั้น แต่ยังฝังลึกอยู่ในสายเลือดของพวกเขาด้วย
การที่มังกรแดงได้ครอบครองจินดามณีอีกครั้ง ส่งผลให้มังกรที่เคยต่อต้านมังกรแดงเริ่มปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่
“ที่ผู้อาวุโสพูดมาก็ถูก แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด”ซูฮยอนกล่าว
“ไม่ใช่ทั้งหมด?”คาร์เน่มุมปากหยักโค้งขึ้นเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“อย่ามาทําให้ข้าตลกหน่อยเลย เจ้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกร แต่กลับกําเริบเสืบสานริอ่านกล่าวอ้างว่าตนเองรู้ซึ่งถึงคุณสมบัติ [จินดามณี] มากกว่าตัวข้ารึ?”
“ผู้อาวุโสกําลังเข้าใจผิด ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น บอกตรงๆว่าผม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า [จินดามณี] คืออะไร ผมพึ่งรู้เมื่อไม่นานนี่เอง”
“เจ้าต้องการสื่ออะไรกันแน่?”
“เหตุผลที่ผมหยิบ [จินดามณี] ออกมา ไม่ใช่เพื่อให้พวกท่านชื่นชมความน่าพิศวงของมันอย่างเดียว”ซูฮยอนกล่าวจบ เร่งยื่นส่ง [จินดามณี] ให้กับมิรพลางตวัดตามองมังกรทุกตัวที่ยืนล้อมรอบตัวเขา
“พวกท่าน ตั้งใจดูให้ดีๆล่ะ”
วุป!!
มิรอ้าปากกัดลงบน [จินดามณี] ที่ซูฮยอนยื่นส่งให้…
“เบิกตากว้างๆและดูให้เต็มตา ผู้นําเผ่าพันธุ์มังกรที่แท้จริง มีโครงหน้าเป็นแบบไหน”
วิ่ง!! วิ่ง!!
[จินดามณี] เริ่มเปล่งแสงเจิดจ้า รัศมีสีแดงที่ประกายออกมาจาก [จินดามณี] นั้น มีอานุภาพรุนแรงมาก ถึงกลับทําให้การมองเห็นของมังกรกลายเป็นอัมพาตชั่วขณะ พลังเวทที่ปลดปล่อยจาก [จินดามณี] ไม่ได้ทรงพลัง อย่างที่มังกรหลายตัวเคยจินตนาการไว้
“เกิดบ้าอะไรขึ้น?”
“ตาข้าจะบอดเอา แสงเจิดจรัสเมื่อตะกี้ ข้านึกว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเสียอีก ที่ไหนได้ไม่เห็นมีอะไรเลย”
มังกรหลายตัวยังคงสับสนกับเหตุการณ์ผิดธรรมชาติที่เกิดไม่หยุด จับกลุ่มคุยกันด้วยน้ําเสียงผิดหวัง…..
“พลังเวทแบบนี้ อย่าบอกนะว่า….”
“ท่านเอลดิล?”
มังกรที่เกิดก่อนมหาสงครามและมีชีวิตอยู่มาหลายชั่วอายุเผยสีหน้าตกตะลึงเป็นแถบๆ แม้พลังเวทที่แผ่ซ่านจาก [จินดามณี] จะไม่รุนแรงถึงขั้นสามารถกดดันพวกมังกรได้ แต่พวกเขารู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายพลังเวทนี้มาก
รัศมีสีแดงส่องประกายไปทั่วหน้าเมือง ค่อยๆรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนและก่อเป็นร่างมังกรแดงขนาดใหญ่มหึมาลอยตัวอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีแดงเข้มเต็มไปด้วยความภาคภูมิ
มังกรแดง..
เจ้าของ [จินดามณี] คือราชามังกรรุ่นแรกและเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด
“นั่นมัน ท่านเอลดิลไม่ใช่รี!!”
“ว่าไงนะ!!”
ราชาผู้ปกครองเหล่ามังกร เอลดิล
ภาพจําลองที่ฉายออกมาจาก [จินดามณี] มีอัตราส่วนที่สมจริงสมจัง ขนาดตัวของมังกรแดงตรงหน้าสามารถบดบังท้องฟ้าได้อย่างมิดชิด แม้ภาพที่เห็นจะเป็นเพียงภาพจําลอง แต่กลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลัง และอธิบายเป็นคําพูดไม่ได้
<<ไม่ว่าจะได้เห็นสักกี่ครั้ง ก็ยังน่าซึ่งไม่เปลี่ยน>> ซูฮยอนคิดในใจ สายตาจ้องมองภาพจําลองของเอลดิล ไม่นานก็เหลือบมองไปทางมิรุที่ยืนอยู่ข้างตัว แม้ทั้ง 2 จะเป็นมังกรสายพันธุ์เดียวกัน แต่ทั้ง 2 กลับมีกลิ่นอายที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอายุของมิรุน้อยกว่าด้วยล่ะมั้ง….
คิ๊ว?
มิรเอียงหัวลงข้างหนึ่งแสดงใบหน้าสงสัย มันกําลังมึนงงว่าทําไมซูฮยอนถึงมองมาทางนี้?
ซูฮยอนที่เห็นมรุแสดงท่าทางแบบนั้น รีบส่ายหัวพยายามสื่อให้มิรุทราบว่าไม่มีอะไร ก่อนจะละสายตาออกมาจากมรุอย่างรวดเร็ว
<< อีกนานแค่ไหนกว่ามิรุจะสง่าผ่าเผยเช่นนี้? >>
ซูฮยอนตรึงสายตาไว้ที่ร่างกายองอาจพึ่งผายของราชามังกร เอลดิล และเผยรอยยิ้มบางๆมุมปาก
<< กว่ามิรุจะโตเต็มวัย ฉันคงแก่ตายก่อนพอดี >>
อายุขัยของมังกรและมนุษย์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างมาก มังกรสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่าพันปี หรืออาจนานสุดได้ถึงหมื่นปีเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับมังกร มนุษย์มีอายุขัยที่สั้นกว่ามาก โดยเฉลี่ยแล้วมนุษย์มักมีอายุไม่เกิน 100 ปี มนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีขึ้นไปสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว
เมื่อซูฮยอนคิดถึงเรื่องอายุขัยของมนุษย์ จู่ๆเขาก็ฉุกคิดขึ้น ตนเองสมควรป่าวประกาศว่าเป็นพ่อแม่ของมิรุจริงเหรอ? หากวันหนึ่งเขาตายจากไปเพราะความแก่ชรามิรุต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงลําพัง…
-ข้าพูดได้แล้วใช่ไหม?
เสียงพูดของเอลดลดังขึ้น กลบเสียงพึมพําของเหล่ามังกร
-ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าการปรับแต่งอารมณ์ให้เหมือนร่างตนจะยากขนาดนี้ มังกรรุ่นหลังหลายตัวคงพึ่งเคย เห็นข้าเป็นครั้งแรก แต่ข้ามั่นใจว่าพวกเจ้าคงสัมผัสได้ถึงความเกรียงไกรของข้าผ่านภาพจําลองนี้ ใช่หรือไม่
[จินดามณี] เป็นสมบัติที่น่ามหัศจรรย์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอายหรือเสียงพูดที่ดังก้องอยู่ในหัว ทุกอย่างล้วนดูสมจริงไปหมด
ราชามังกรเอลดิล กล่าวต่อ…
-การที่ข้าปรากฏตัวที่นี่ หมายความว่าพวกเจ้าค้นหา [จินดามณี] พบแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหน แต่ข้าหวังว่าพวกเจ้ายังคงมีชีวิตปกติสุขดี
เมื่อเทียบกับรูปร่างที่น่าเกรงขามของราชามังกร เสียงพูดของเอลดิลให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึก ซึ่งสวนทางกับรูปลักษณ์เป็นอย่างมาก เดิมทีมังกรรุ่นหลังคิดว่าเสียงของราชามังกรต้องดุดันแข็งกร้าวยิ่งกว่านี้ มังกรที่อยู่มานานมิได้แสดงอาการตกใจเหมือนกับมังกรรุ่นหลัง เพราะพวกเขาเคยได้ยินเสียงของราชามังกรหลายครั้ง..
“มังกรแดงที่เป็นราชาของพวกเรา มีหน้าตาแบบนี้นี่เอง…”
“ราชามังกรแตกต่างจากที่ข้าเคยจินตนาการไว้เยอะพอสมควร”
“ไม่ใช่ว่าราชามังกรเคยหกล้มหัวฟาดพื้นมาก่อนหรอก? ทําไมทั้งน้ําเสียงและกิริยาท่าทางถึงดูไม่สมกับเป็นราชามังกรเลย”
“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก ท่านเอลดิลเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“แม้กาลเวลาจะผ่านมานาน แต่นิสัยของมังกรชรานั่น ยังคงเหมือนเดิม”
มังกรส่วนหนึ่งที่ยังจําเอลดิลได้เผยรอยยิ้มอบอุ่นระคนอ่อนโยน แต่ในทางตรงกันข้าม มีมังกรบางตัวผิวกายซีดเผือดโดยไม่ทราบสาเหตุราวกับกําลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวก่อน นี่มันไม่ใช่…”
“เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณหรอก?”
“อะไรกัน!! เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณจะแสดงผลก็ต่อเมื่อผู้ใช้เสียชีวิตไปแล้ว!!…”
เสียงพูดคุยระเบ็งเซ็งแซ่ของเหล่ามังกรเริ่มลุกลามไปทั่ว เอลดิลกล่าวแทรก…
-พวกเจ้าทั้งหมดสบายดีใช่หรือไม่? ข้าอยากรู้จริงๆว่าหลังจากที่ข้าตายไป เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเราจะเป็นอย่างไร ข้าอยากเห็นอนาคตเผ่าพันธุ์มังกรด้วยตาตัวเอง แต่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการที่ไม่สามารถเชยชมอนาคตของเผ่าพันธุ์มังกรด้วยตาตัวเองจะทําให้หัวใจของข้าเจ็บปวดได้ข
นาดนี้
ตาย…
เอลดลที่มังกรหลายตัวคิดว่าหนีสงคราม ตายจากไปแล้ว..
เมื่อเหล่ามังกรที่กําลังเบียดเสียดกันอยู่หน้าเมืองได้ยินคําพูดของมังกรแดงความอลหม่านเกิดขึ้นฉับพลัน..
“ราชามังกรตายแล้ว!!”
“ไหนใครบอกว่าราชามังกรหนีไประหว่างสงคราม?”
“อย่าพึ่งทะเลาะกัน ภาพที่เราเห็น อาจเป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นก็ได้”
“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณจะทํางานได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ตายไปแล้วเท่านั้น ข้ามั่นใจว่าภาพที่พวกเราเห็น ไม่ใช่ของปลอมแน่นอน”
เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณ คือเวทมนตร์ระดับสูงที่สามารถบันทึกความทรงจําและคําพูดของผู้ใช้ขณะมีชีวิตอยู่ได้ และเวทมนตร์คืนชีพวิญญาณจะแสดงผลก็ต่อเมื่อผู้ใช้ตกตายไปแล้วเท่านั้น
การที่เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณของเอลดิลแสดงผล หมายความว่าเอลดิลตายไปแล้วจริงๆ
-หนูน้อยคาร์เน่ เจ้าเป็นไงบ้าง? หลังจากที่ข้าตายไป ข้าอยากให้เจ้าเป็นผู้นําตัวต่อไปของเผ่าพันธุ์มังกร ข้าเองก็รู้สึกผิดเช่นกันที่ผลักภาระใหญ่หลวงให้เด็กน้อยอย่างเจ้ารับหน้าที่ต่อ แต่มันถึงเวลาที่ตัวข้าและมังกรแดงอีก 4 ตัว ต้องจากโลกใบนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
บนโลกนี้มีมังกรแดงเพียง 5 ตัว
สาเหตุที่พวกเขาทั้งหมดหายไป กําลังถูกเปิดเผยในอีกไม่ช้า….
-ตัวข้าและมังกรแดงวางแผนที่จะหายไปพร้อมกับสัตว์อสูรที่มีรูปร่างคล้ายเผ่าพันธุ์เรา โดยการเปิดช่องว่างมิติย้ายมันไปยังโลกใบใหม่ กระบวนการที่พวกเราเลือกใช้ อาจทําให้กายเนื้อและจิตวิญญาณแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี บอกตรงๆว่าข้าก็ไม่อยากใช่วิธีนี้นัก แต่เพราะสัตว์อสูรตัวนั้นร้ายกาจเกินไปและหนทางเดียวที่สามารถสังหารมันได้ มีแค่วิธีนี้เท่านั้น….
ฟาฟเนียร์ คือสัตว์อสูรที่มีความดุร้ายมากที่สุดเท่าที่มังกรเคยเผชิญหน้ามา มันเป็นต้นเหตุที่ทําให้โลกใบนี้ เกือบล่มสลายสาเหตุการหายตัวไปอย่างกะทันหันของมังกรแดงถูกไขกระจ่างแล้วในวันนี้
-ขอให้มังกรทุกตัวมีชีวิตชื่นมื่นและจงมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อพวกข้าด้วย มังกรอายุน้อยควรเชื่อฟังคําพูดของมังกรอาวุโส อย่าหาว่าข้าน้ําจี้จําไชเลยที่ข้าพูดไปทั้งหมดก็เพื่อประโยชน์ของพวกเจ้าทั้งนั้น ขอให้ลูกหลานของ ข้าโชคดี
ก่อนเจ้าตัวจะตายจากไป มังกรแดงไม่วายพะว้าพะวังความเป็นอยู่ของเผ่าพันธุ์ หลังจากกล่าวใจความสําคัญจบ ทิ้งช่วงไม่นานเอลดิลก็พร่ําพูดเรื่องสัพเพเหระต่อ เรื่องที่เอลดลสาธยายให้พวกเขาฟังมีตั้งแต่เรื่อง น่าพิศวงและเรื่องธรรมดาพื้นๆ
เอลดลสาธยายจ้อไม่ยอมหยุดด้วยน้ําเสียงแช่มชื่น ไม่กี่นาทีต่อมาสีหน้าของเอลดิลพลันขึงขัง
-ใกล้ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว ให้ตายเถอะ เวทมนตร์คืนชีพวิญญาณกินพลังเวทของข้าเยอะเหลือเกิน พลังเวทของข้าเหือดแห้งเต็มทน
มังกรที่จ้องมองภาพจําลองของเอลดิลเผยสีหน้าเป็นกังวล รัศมีสีแดงที่รวมตัวเป็นร่างของเอลดิลค่อยๆพร่าเลือน หมายความว่าอีกไม่นานพวกเขาต้องบอกลาเอลดิลแล้วจริงๆ
-คาร์เน่ เจ้ากําลังดูภาพจําลองนี้อยู่ใช่หรือไม่ ข้าจินตนาการไม่ออกจริงๆว่าหลังจากที่เจ้าขึ้นเป็นผู้นําของเผ่าพันธุ์มังกร เจ้าจะนําพาเผ่าพันธุ์มังกรไปในทิศทางใด ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องรู้สึกกดดันและลําบากใจ แต่ถ้าเป็นเจ้าต้องผ่านมันไปได้แน่ หากข้าจากไปแล้ว มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถปกปักรักษาเผ่าพันธุ์มังกรต่อจากข้าได้
เสียงกล่าวของเอลดิลหนักแน่นดุจขุนเขา…
-คาร์เน่ ข้าอยากขอโทษเจ้าจริงๆ ที่โยนภาระให้โดยไม่ถามไถ่ แต่ข้าไม่มีทางเลือก อนาคตของเผ่าพันธุ์มังกรอยู่ในมือเจ้า ข้าฝากเจ้าสานต่อด้วย
วุป!!
แสงสว่างที่เปล่งประกายจาก [จินดามณี] ค่อยๆวูบดับไม่นานร่างกายของเอลดิลก็เลือนหายไป
บริเวณหน้าเมืองตกอยู่ในความเงียบสงัด
มังกรทุกตัวเขม็งมองไปยังคาร์เน่ สายตาที่ใช้มองมาเหมือนพยายามคาดคั้นหาความจริง ซูฮยอนเอ่ยปากกล่าวคําถามเรื่องที่พวกมังกรอยากรู้มากที่สุด
“ผู้อาวุโสมีอะไรจะอธิบายไหม?”
“มันไม่ใช่เรื่องจริง”
คาร์เน่แยกเขี้ยวอันแหลมคมและข็งตามองซูฮยอน “เจ้าสารเลว แกเรียกพวกเรามาที่นี่ เพื่อแสดงละครปาที่แค่นั้นหรือ?”
“ละครปาที่ ผู้อาวุโสคิดว่าภาพที่เห็นเป็นละครปาที่จริงเหรอ?”
“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องคล้ายนี้จากเอลดลเลยสักครั้ง อนาคตเผ่าพันธุ์มังกรอยู่ในมือข้า เสียสละตัวเองเพื่อโลกใบนี้ ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ”คาร์เน่หันหน้ามองเหล่ามังกรและตระโกนเสียงดัง
“อย่าไปหลงกลมัน มันพยายามปั้นเรื่องโกหกลากคอมนุษย์ผู้นี้ออกไปให้พ้นเมืองเร็วเข้า!!”
ซูฮยอนมองสํารวจมังกรรอบตัว หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของคาร์เน่ มังกรหลายตัวเกิดความรู้สึกลังเล ไม่กล้าผลีผลาม
ซูฮยอนเอื้อนเอ่ยถามมังกรทุกตัวที่ยืนอยู่รอบๆว่า “ทุกท่านตัดสินใจเอาเองดีกว่า ว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่ เป็นละครปาที่หรือของจริง?”
“ข้ามั่นใจว่าภาพที่เห็นไม่ใช่ละครปาที่แน่นอน”
“พลังเวทที่แผ่ซ่านออกมาจาก [จินดามณี] เป็นของท่านเอลดิลอย่างไม่ต้องสงสัย
“ที่สําคัญ มนุษย์ผู้นี้ไม่มีทางทราบได้ว่าหน้าตาของท่านเอลิดลเป็นยังไง”
มีมังกรจํานวนไม่น้อยเข้าข้างซูฮยอน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นมังกรที่เกิดก่อนมหาสงครามจะเริ่มทั้งสิ้น พวกเขายังคงเชื่อมั่นว่าเอลดลไม่มีวันทอดทิ้งเผ่าพันธุ์มังกรไว้ข้างหลัง และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทําให้พวกเขาตระหนักได้ถึงความจริงของเรื่องนั้น
ราชามังกรเอลดิลและมังกรแดงตัวอื่นๆ ไม่ได้ทอดทิ้งเผ่าพันธุ์มังกร แต่พวกเขายอมเสียสละชีวิตเพื่อจรรโลงโลกใบนี้ไว้ และนั่นคือต้นสายปลายเหตุทั้งหมด ที่ทําให้มังกรแดงหายตัวไปอย่างลึกลับ
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่มังกรส่วนใหญ่เคยรับฟังมาไม่ใช่แบบนี้…
“ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้ว…”
สายตาแหลมคมของบล็องก์เจตนาที่มแทงไปยังคาร์เน่โดยตรง
“พวกเราโดนหลอกมาโดยตลอด”